พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) ถวายพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พสกนิกรปลื้มปีติ “ในหลวง” โปรดเกล้าฯพระราชทานพระฉายาลักษณ์และภาพการประดิษฐานพระโกศทองใหญ่ “สมเด็จพระบรม ราชชนนีพันปีหลวง” แก่ประชาชนที่เดินทางมาถวาย ความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคมเมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 31 ต.ค. พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) ถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วยในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวังส่วนที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหา ราชวัง เวลา 11.50 น. ได้เปิดให้มีการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ “สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง” เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ พร้อมลงนามถวายความอาลัย ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และภาพการประดิษฐานพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขนาดโปสต์การ์ด แก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายความอาลัยด้วยทั้งนี้ ตลอดวันมีบุคคลสำคัญ คณะบุคคล ทูตานุทูต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระและประชาชนจากทั่วประเทศ ทยอยเข้าถวายความอาลัยอย่างต่อเนื่อง อาทิ เอกอัครราชทูตและอุปทูตจากประเทศกัวเตมาลา แอฟริกาใต้ กัมพูชา กงสุลใหญ่สหพันธรัฐรัสเซีย กงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศมาลี มอนเตเนโกร โมซัมบิก มัลดีฟส์ และผู้แทนจาก 4 องค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ UNHCR UNICEF IOM และ IUCN ราชสกุล “อิศรางกูร” นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานอาวุโสหอการค้าไทย ครอบครัว “ภิรมย์ภักดี” และครอบครัว “เทพาคำ”นายวิเชียร จันทบุตร อายุ 58 ปี เดินทางมากับภรรยาจากย่านพระราม 2 มีอาการป่วยบ้านหมุน มึนงง เมื่อถึงสนามหลวงได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เต็นท์ปฐมพยาบาลดูแลจนอาการเริ่มดีขึ้นและเดินจากท้องสนามหลวงไปยังศาลาสหทัยสมาคม นายวิเชียรเผยว่า ขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า พอถึงสนามหลวงเริ่มมีอาการหูอื้อตาลาย ไปให้เจ้าหน้าที่พยาบาลช่วยดูอาการ แม้จะเคยมีอาการบ้านหมุนอยู่ แต่วันนี้มีความตั้งใจเข้าถวายสักการะจึงเดินทางมาตามที่ตั้งใจด้านนายวิทยา โพธิ์สุ อายุ 82 ปี เดินทางมาจากเขตสวนหลวง กล่าวว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเดินไม่ค่อยไหว ตั้งใจมากราบสักการะส่งเสด็จให้ได้เพราะสังขารเหลือน้อยแล้วไม่รู้จะอยู่อีกนานแค่ไหน เมื่อคืนก่อนนอนได้สวดมนต์อธิษฐานจิตขอให้ไม่มีอุปสรรคในการเดินทางเพราะต้องมารถเมล์ตัวคนเดียวและมาถึงได้ตามที่ตั้งใจโดยไม่มีอุปสรรค เมื่อมาถึงสนามหลวงมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลเอารถเข็นมาให้นั่ง เข้าถวายสักการะก็มีเจ้าหน้าที่ช่วยประคองเดินและอำนวยความสะดวกทุกอย่างน่าชื่นใจมากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย เปิดเผยภายหลังการหารือทวิภาคีเต็มคณะกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่โรงแรม Kolon เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู เร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ว่า นายสี จิ้นผิง ได้กล่าวถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อีกครั้ง ตนได้ขอบคุณและซาบซึ้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ได้มีสาส์นถวายความอาลัย และยังได้กล่าวด้วยถ้อยคำในครั้งนี้ ซึ่งมีความหมายต่อคนไทย ทั้งนี้ จะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลทรงทราบด้วยต่อมาเวลา 19.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในการนี้ ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน รอรับเสด็จอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่