วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568 วันที่สองของการทราบข่าวที่ทำให้พสกนิกรชาวไทยหัวใจสลายไปทั้งประเทศ จากการเสด็จสู่สวรรคาลัยของสมเด็จพระพันปีหลวง เมื่อ 21.21 น.ของคืนวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม แต่ประชาชนส่วนใหญ่มักทราบข่าวนี้เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคมแน่นอนในปฏิทินวันนี้ของแต่ละครอบครัวของคนไทยทั้งประเทศย่อมมีกิจกรรมที่ตระเตรียมไว้ล่วงหน้าที่แตกต่างกันไป... ดังเช่น ครอบครัวผม...เรามีนัดที่จะไปร่วมงานเลี้ยง “วันเกิด” ของญาติสนิทคนหนึ่งที่ห้องอาหารจีนของโรงแรมแห่งหนึ่งขณะเดียวกันโดยส่วนตัวของผมที่ยังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคนเขียนหนังสือบันทึกเหตุการณ์เคลื่อนไหวประจำวันทั้งของโลกและของประเทศไทยก็ขึ้นบัญชีไว้ว่า...วันนี้ในช่วงสายๆไปจนถึงบ่ายจะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และจะมี “เหตุการณ์พิเศษ” เกิดขึ้นด้วยนั่นก็คือเหตุการณ์ที่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยและกัมพูชา จะต้องไปเซ็นข้อตกลงอันเป็นแนวทางที่จะเดินไปสู่ “สันติภาพ” ต่อหน้าคนกลางสำคัญ 2 คน คือ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน และนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เป็นเจ้ากี้เจ้าการให้ทั้ง 2 ประเทศนี้ “หยุดยิง”มาตั้งแต่ต้นนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมของครอบครัวที่วางแผนล่วงหน้าไว้นานแล้วเช่นกัน เนื่องในโอกาสจะพาหลานๆไป “ดูนกนางนวล” จากไซบีเรียที่เริ่มหนีหนาวมาบินว่อนที่ สถานตากอากาศบางปู สมุทรปราการ บ้างแล้ว พร้อมกับแวะหาอาหารทะเลอร่อยๆรับประทานในมื้อเย็นแถวๆนั้นแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในฐานะพสกนิกรผู้จงรักภักดีและเติบโตมาภายใต้พระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง...ทราบจากทางราชการว่า ในวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม เวลาประมาณบ่าย 4 โมงเศษๆ จะมีการอัญเชิญพระบรมศพ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และจะมีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถ่ายทอดสดพระราชพิธีต่างๆผม 2 คนกับภรรยาต่างก็ตั้งใจที่จะดูชมพิธีอัญเชิญพระบรมศพด้วยเช่นเดียวกัน เหมือนเมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อ 9 ปีที่แล้วในที่สุดผมก็สามารถปฏิบัติได้ทุกภารกิจที่กล่าวไว้ข้างต้นครบถ้วนในวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568...เริ่มจากไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของญาติที่ห้องอาหารจีนของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิททั้งเจ้าภาพและแขกเหรื่อซึ่งทราบสถานการณ์อย่างดียิ่งต่างแต่งกายอย่างเรียบๆไม่ฉูดฉาดออกขาวบ้าง ออกเทาๆบ้าง และเมื่อถึงช่วงอวยพรวันเกิดมีพิธีเป่าเค้ก เราก็ร่วมกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ 3 จบ อย่างเบาๆ แต่ชัดถ้อยชัดคำอวยพรแก่เจ้าภาพซึ่งก็ดูอิ่มเอมยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างดียิ่งระหว่างรับประทานอาหารผมก็ติดตามข่าวการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยเฉพาะการลงนามระหว่าง 2 นายกรัฐมนตรีไทย-กัมพูชา ต่อหน้าประธานาธิบดีทรัมป์ และนายกฯอันวาร์ พร้อมรายละเอียดต่างๆผ่านรายงานข่าวของโทรทัศน์หลายช่องและยูทูบในโทรศัพท์มือถือของผมจากนั้นเราก็เดินทางไปสถานตากอากาศ “บางปู” ให้ลูกๆหลานๆสนุกกับการดูนกนางนวล...ส่วนเรา 2 คนปู่ย่าก็เปิดโทรศัพท์มือถือไปที่ช่อง ไทยรัฐทีวี ชมพิธีถ่ายทอดสดการอัญเชิญพระบรมศพได้จนจบมีโอกาสร่วมส่งเสด็จพระองค์ท่านสมดังที่ตั้งใจไว้สำหรับพี่น้องประชาชนหลายพันคนที่ไปดูนกที่บางปูบ่ายถึงเย็นวันเดียวกันนั้น ต่างก็แต่งกายไว้ทุกข์ตามความเหมาะสมสวมเสื้อดำ เสื้อขาว และสีทึบๆ ทับถึง 99 เปอร์เซ็นต์รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วยแน่นอนรวมทั้งเพื่อนๆชาวแรงงานต่างด้าวจากเมียนมาด้วย พวกเขาแต่งดำสนิทกันเป็นส่วนใหญ่อย่างให้เกียรติอย่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พวกเขาได้มาทำมาหากินอย่างมีความสุข ณ ประเทศไทยของเราในขณะนี้.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม