“มหาสงครามเลียดก๊ก” (บาหยัน อิ่มสำราญ เรียบเรียง แสงดาว พิมพ์ พ.ศ.2568) หนึ่งในหนังสือดีๆหลายๆเล่มที่คุณจรัญ หอมเทียนทอง ทยอยฝากมาให้ผมเขียนเรื่องนางเป่าสื้อหรือนางโปซูหลายครั้ง จากหนังสือหลายเล่ม รู้แก่ใจยังรู้จักไม่พอเลียดก๊กมี 13 ตอน จบตอนที่ 1 ความร่วงโรยของราชวงศ์จิว นั่นแล เริ่มต้นยุคเลียดก๊กจริงๆพระเจ้าชวนอ๋อง เชื้อสายพระเจ้าบู๊อ๋องปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จิว ตั้งราชธานีที่เมืองโกเก๋ง มีหัวเมืองน้อยใหญ่มากมายเป็นบริวาร วันหนึ่งชาเลเทเมืองเกียงหยงแข็งเมือง พระเจ้าชวนอ๋องยกทัพไปตี แต่รบแพ้เสียทหารไปมากระหว่างทางที่ยกทัพกลับ พระเจ้าชวนอ๋องได้ยินเสียงเด็กๆชาวบ้านร้องเพลง “พระอาทิตย์จะตก พระจันทร์จะขึ้น ตัดไม้ซองบกทำเกาทัณฑ์ เกี่ยวหญ้ามาสานเป็นซองใส่ เมืองจิวก๊กจะเสื่อมสูญ”เรียกโหรมาก็ได้รับคำกราบทูลว่า เนื้อเพลงบอกลางร้าย พระองค์จะสิ้นพระชนม์ด้วยเกาฑัณฑ์ พระเจ้าชวนอ๋องตกพระทัย สั่งทำลายลูกเกาทัณฑ์ ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญของเมืองแล้ว ยังออกกฏห้ามราษฎรทำลูกเกาทัณฑ์ขายต่อมา มีสองผัวเมียจากชนบทไม่รู้กฎ หอบเกาทัณฑ์มาขายในเมือง โทษถึงประหาร ภรรยาถูกจับตัดหัว แต่สามีหนีไปได้ ระหว่างหนีบังเอิญไปพบกระสอบใบหนึ่งริมแม่น้ำ เปิดดูพบทารกหญิงยังมีชีวิต จึงเอาไปเลี้ยงเติบโตแล้วเป็นสาวงาม ตั้งชื่อนางว่า โปซูต่อมามีการสืบสาวเรื่องราวพบว่า นางโปซูคนนี้มีแม่เป็นข้าในวังหลวง...เมื่ออายุ 12 ตั้งครรภ์โดยไม่มีสามี ถือว่าผิดกฎราชสำนัก จึงถูกจับขัง แต่ก็เป็นเรื่องประหลาด เธอท้องอยู่อย่างนั้น จนอายุ 52 จึงคลอดลูกเรื่องประหลาดนี้ โหรทำนายว่า ทารกเป็นกาลีเมือง พระเจ้าชวนอ๋องสั่งให้นำไปฆ่า แต่ขุนนางผู้ใหญ่ผู้รับคำสั่งไม่ฆ่ากับมือ ทำแค่ใส่กระสอบไปทิ้งแม่น้ำ ความแตก พระเจ้าชวนอ๋องพิโรธ สั่งฆ่าขุนนางคนนั้นแต่แล้วพระองค์ก็ทรงรู้สึกผิดซ้ำ ทั้งสั่งฆ่าเด็กทั้งสั่งฆ่าขุนนาง เป็นทุกข์หนักไม่นานก็สิ้นพระชนม์ไทจูจงเลียบ พระราชโอรส ได้ขึ้นครองราชย์ ทรงพระนาม พระเจ้าอิวอ๋องนับแต่ครองราชย์ พระเจ้าอิวอ๋องไม่เอาใจใส่กิจการบ้านเมือง สิ้นขุนนางผู้ใหญ่คนซื่อไปแล้ว ที่เหลือก็มีแต่ขุนนางสอพลอ เมื่อรู้พระทัยพระเจ้าอิวอ๋องซึ่งมีนางสินฮองฮอเป็นพระชายา มีโอรส นามงีเป๊กแล้ว แต่ยังโปรดให้เสาะหาหญิงงามมาถวายไม่ขาดเรื่องก็บังเอิญอีก นางโปซู ซึ่งงามเลิศกว่าหญิงใด ก็ถูกนำมาถวายเป็นพระสนมรอง ทรงโปรดนางโปซูมาก ขัดพระทัยที่นางไม่เคยยิ้ม ขุนนางสอพลอก็จัดให้ ทรงขึ้นไปทรงพระสำราญบนภูเขาร้านไฟ สั่งจุดไฟและตีกลองเรียกทัพเจ้าหัวเมือง แต่เมื่่อมาแล้วไม่มีศึกมาติดพัน แต่ก็เรียก “รอยยิ้ม” จากนางโปซูได้ขุนนางสอพลอรับรางวัลไปหนึ่งพันตำลึงทอง ขณะพวกเจ้านายหัวเมืองโกรธยกทัพกลับไม่นานก็เกิดเรื่องใหญ่ พระโอรสงีเป๊ก ด้วยการสนับสนุนของ พระชายา บุกเข้ามาเอากระบองไล่ตีนางโปซู นางโปซูฟ้องพระเจ้าอิวอ๋อง พระเจ้าอิวอ๋องสั่งปลดพระชายาพระโอรส ยกนางโปซูเป็นพระชายาแทนต่อมา ชาเลเท เจ้าเมืองเกียงหยงอริเดิม รู้ว่าราชสำนักอ่อนแอ ยกทัพมาตีเมืองโกเก๋ง สัญญาณร้านไฟจุดแล้ว เสียงกลองดังขึ้นแล้ว ขุนนางต่างเมืองที่เคยผูกใจโกรธ ไม่มีใครยกทัพมา พระเจ้าอิวอ๋องเสียเมืองโกเก๋ง ตัวพระองค์ถูกปลงพระชนม์นางโปซูหนีไปพึ่งหัวเมืองใหญ่ได้พักใหญ่ การเมืองพลิก เจ้าหัวเมืองรวมกำลังมายึดเมืองโกเก๋ง จับชาเลเทฆ่า และไปเชิญพระโอรสงีเป๊ก และนางสินฮองฮอกลับมานั่งเมือง งานนี้นางโปซูรู้ชะตากรรมตัวเอง ตัดสินใจผูกคอตาย ฉากสุดท้ายสาวงามเจ้าของตำนานยิ้มพันตำลึงทองจบตรงนี้เนิ่นนานกว่าสามพันปี จนถึงวันนี้ ยังไม่มีบ้านเมืองไหนมีเหตุให้เด็กๆร้องเพลง พระอาทิตย์ตก พระจันทร์ขึ้น บอกลางจะเสียเมืองให้เข้าหูผู้นำอีก หือ! อือ! หรือว่ามีร้องกันแล้ว แต่ผู้ใหญ่ท่านยังไม่ได้ยิน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม