ค่ำ 4 ตุลาคม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้โพสต์อาลัยต่อการจากไปของ ศ.พิเศษ ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ อดีตประธาน TDRI ผู้มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้ง TDRI สมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็น “หน่วยงานอิสระ” ในการวิจัย “นโยบายเชิงสาธารณะ” โดยเฉพาะ นโยบายเศรษฐกิจ กฎหมาย สาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ โดยทำหน้าที่เป็น Think Tank ของ รัฐบาลป๋าเปรม นอกเหนือจาก สภาพัฒน์ ที่เป็นหน่วยราชการ ซึ่งอาจไม่กล้าทำนโยบายที่ขัดต่อนโยบายรัฐบาล ผมขอร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของอาจารย์อัมมารไว้ตรงนี้ดร.อัมมาร เป็นขุนพลเศรษฐศาสตร์ของ TDRI เมื่อ 40 ปีก่อนร่วมกับ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ดร.ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ ดร.อาณัติ อาภาภิรม ฯลฯ ผลงานวิจัยของ ดร.อัมมาร จะเน้นเรื่อง การเกษตร เศรษฐกิจส่วนรวม โดยเฉพาะเรื่อง ข้าว สินเชื่อชนบท นโยบายเกษตรกร ผลงานวิจัยเรื่อง A History of Rice Policies in Thailand ได้สะท้อนถึงนโยบายข้าวของรัฐบาลไทย ทำไมจึงเป็นไปในทางติดลบต่อชาวนาไทย ทำไมรัฐบาลไทยต้องเก็บภาษีการส่งออกข้าวในรูปแบบ ต่างๆ (เช่น โควตาส่งออก) ทำให้ชาวนาไทยจนมาถึงวันนี้ก็ยังโงหัวไม่ขึ้นดร.อัมมาร ยังเป็นผู้สร้างสรรค์ประโยคอันทรงพลัง ยกย่อง ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ คนดีคนเก่งอีกคนของประเทศไทยที่หาได้ยากในปัจจุบันว่า “คนตรงในประเทศคด” (A straight man in a crooked country) สื่อถึง ความเป็นคนซื่อตรง มีความซื่อสัตย์สุจริต และยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง (ในประเทศไทยที่มีคนคดโกงมากมาย พัฒนาการโกงไปสู่การทุจริตทุกระบบ ตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับนโยบายรัฐ) ในสมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจ ได้โทรเลขไปเชิญ ดร.ป๋วย มาเป็นรัฐมนตรีคลัง แต่ ดร.ป๋วย ปฏิเสธ เพราะตอนเป็นเสรีไทย ได้สาบานไว้ว่าจะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดจนกว่าจะเกษียณอายุราชการ เมื่อ ดร.ป๋วย กลับจากอังกฤษ จอมพลสฤษดิ์ ก็แต่งตั้ง ดร.ป๋วย เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต่อมาก็แต่งตั้งเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ทำให้ ดร.ป๋วยควบคุมทั้งนโยบายการเงิน และการคลัง ขณะที่มีอายุเพียง 43 ปี แบงก์ชาติในยุค ดร.ป๋วย ก็กลายเป็นตำนานที่กล่าวขานกันมาถึงทุกวันนี้ ดร.ป๋วย ยังมีบทบาทสำคัญผลักดันให้ จอมพลสฤษดิ์ จัดตั้ง สภาพัฒน์ จัดทำ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ” ทำให้เศรษฐกิจไทยยุค จอมพลสฤษดิ์ เป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดในยุคเผด็จการดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยฯ TDRI ได้โพสต์ถึง ดร.อัมมาร ในหัวข้อ “อัมมาร..อาลัย” ว่าเป็นผู้รังสรรค์ประโยคอันทรงพลังที่เป็นภาพจำของ ดร.ป๋วย จนทุกวันนี้คือ “คนตรงในประเทศคด (A straight man in a crooked country)” และ ดร.อัมมาร ก็เป็น “อีกหนึ่ง “คนตรง” ในประเทศที่คดมากขึ้นเรื่อยๆ”ดร.สมชัย กล่าวว่า อ.อัมมาร มีคุณูปการต่อนโยบายสาธารณะและแวดวงวิชาการนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น งานวิจัยเรื่องข้าว หนี้สินเกษตร เป็นประธาน “ชำแหละเศรษฐกิจไทย” หลังวิกฤติต้มยำกุ้ง จนนำไปสู่ “รายงาน ศปร.” อาจารย์ยังถือได้ว่าเป็น inclusive econo mist รุ่นแรกๆของไทยที่แสดงออกถึงความสนใจในชีวิตคนตัวเล็กมาตลอด ด้วยความเป็นเสรีชน เป็นนักวิชาการที่ตรงไปตรงมา อ.อัมมาร เป็นไม้เบื่อไม้เมากับนักการเมืองที่มีลักษณะเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็น เผด็จการจากรัฐประหาร หรือเผด็จการจากการเลือกตั้ง ยุคปี 2000s อ.วิจารณ์คุณทักษิณและนโยบายคุณทักษิณอย่างต่อเนื่อง ยุคนั้นคุณทักษิณมักแสดงวิสัยทัศน์บ่อยครั้งจน อ.เปรยว่า “One Vision A Day”ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบัน TDRI ก็โพสต์ถึง อ.อัมมาร ว่า เคยถามเรื่อง กำไรส่วนเกิน ที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า "ค่าเช่าทางเศรษฐกิจ" (economic rent) ว่า ทำไมการประมูลคลื่นความถี่จึงไม่ทำให้ค่าโทรศัพท์แพง อ.ตอบว่า เพราะมันคือการดึงเอา economic rent ออกมาจากผู้ประกอบการ ไม่ใช่การเพิ่มต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ แต่ปัจจุบัน กสทช.มักมีวิธีประมูลที่ชอบเอา economic rent กลับไปให้ผู้ประกอบการรวยยิ่งขึ้น ?ผมขอร่วมไว้อาลัย อ.อัมมาร สยามวาลา “อีกหนึ่งคนตรงในประเทศคด” ครับ."ลม เปลี่ยนทิศ"คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม