ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดของสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชา หน่วยงานตำรวจที่ต้องทำงานหนักที่สุด หนีไม่พ้นตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ตชด. แต่ตำรวจโรงพักดีๆ เกรดเอเกรดบีตามตัวเมือง กลับเถิดเทิงปล่อยปละละเลยให้อบายมุขเฟื่องฟู ทั้งบ่อนการพนัน ลักลอบค้าประเวณี สถานบริการเปิดเกินเวลา มั่วยาเสพติด!หรือว่ามันมีผลประโยชน์อะไรหรือเปล่า?ช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 หรือ บช.ภ.1 กำลังพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เพราะถูกฝ่ายปกครองไล่จับผับมั่วยาถึง 2 ร้านติดๆกันผับแรกชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจัดระเบียบสังคม นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมสถานบริการชื่อร้าน Skin Pub Rangsit ซอยรังสิต–นครนายก 21 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานีสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ใช้บริการ เบื้องต้นพบว่ามีสารเสพติดถึง 179 คน นอกจากนี้ยังพบเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีอีก 7 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ดำเนินคดีไม่กี่วันต่อมาปลัดจังหวัดนนทบุรีนำกำลังเข้าตรวจค้นร้าน heybar ผับดังย่าน ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับเบาะแสมาว่าลักลอบเปิดเกินเวลาที่สำคัญปล่อยปละละเลยให้นักเที่ยวแอบนำยาเสพติดเข้ามาเสพในร้านโจ๋งครึ่ม!พบนักเที่ยวอัดอยู่ในร้านประมาณ 300 คน ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดเป็นสีม่วง 16 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 12 คน และผู้หญิง 4 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีที่แปลกคือ ทั้ง 2 คดีเป็นการจับสถานบริการเหมือนกัน พบ นักเที่ยวมีสารเสพติดเหมือนกัน แถมอยู่ในกองบัญชาการเดียวกันตำรวจจังหวัดปทุมธานีถูกเด้งตั้งแต่ “ผู้การ” ลงมาถึง 5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์แต่ตำรวจ ภ.จว.นนทบุรี และ สภ.ปากเกร็ด โดนฝ่ายปกครองจับเหมือนกัน กลับเงียบเป็นเป่าสาก?เลยสงสัยว่าเอามาตรฐานไหนมาชี้วัดในการพิจารณาโทษ!สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม