นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการจัดระบบบริการทางการแพทย์ที่เอื้อต่อพระธรรมวินัยในสถานบริการสาธารณสุขว่า ปีที่ผ่านมา สธ.ได้ดำเนินการโครงการถวายการดูแลสุขภาพให้กับพระภิกษุสงฆ์และสามเณร 72,000 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ปีนี้ดำเนินการต่อเนื่องในรูปแบบต่างๆ เช่น วัดส่งเสริมสุขภาพ อบรมพระคิลานุปัฏฐาก กุฏิชีวาภิบาล คัดกรองและจัดทำฐานข้อมูลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ปัจจุบันโรงพยาบาลรัฐมีระบบบริการสำหรับพระสงฆ์อย่างชัดเจน เช่น มีตึกสงฆ์อาพาธ มีระบบการจัดการรักษาพยาบาลและส่งต่อที่แยกระหว่างพระสงฆ์กับฆราวาสอย่างชัดเจน โดย รพ.สงฆ์ได้ตรวจประเมินและรับรอง รพ.ที่มีการจัดบริการสุขภาพพระสงฆ์อาพาธที่เอื้อต่อพระธรรมวินัยแล้ว 53 แห่ง ตั้งเป้าหมายตรวจประเมินครบ 100% ในปี 2569 จำนวน 125 แห่งครอบคุลม รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป และ รพ.สังกัดกรมการแพทย์นายสมศักดิ์กล่าวด้วยว่า ฝากนโยบายเพิ่มเติมว่า ไม่ควรจะมีพระภิกษุสงฆ์อาพาธหรือติดเตียงเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2569 โดยเฉพาะเกิดจากอาหารที่ฉันคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ทำให้ป่วยเป็นโรค NCDs ถ้าพระภิกษุสงฆ์ 270,000 กว่ารูป เข้าใจเรื่องนับคาร์บ ก็จะมีประโยชน์มหาศาล สามารถเทศนาให้กับประชาชนรับฟังว่าการบริโภคอาหารควรเป็นอย่างไร โดยเฉพาะญาติโยมที่ใกล้ชิดทำอาหารถวาย ถ้าไม่เข้าใจก็จะทำให้อาพาธมากยิ่งขึ้น การออกกำลังกายสำหรับพระไม่ได้ง่ายเพราะต้องสำรวม จึงไม่ควรฉันภัตตาหารเกินสัดส่วนความต้องการของร่างกาย โดยปีหน้าจะมีนโยบายให้คนไทยมีอายุ 100 ปี ให้ดำเนินการต่อไปสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เทศนาตอนหนึ่งว่า การที่ สธ.ริเริ่มและขับเคลื่อนบริการทางการแพทย์ที่เอื้อต่อการรักษาพระธรรมวินัย เป็นกุศลเจตนาที่ดีอย่างยิ่ง สังขารมนุษย์ไม่เที่ยง เจ็บไข้เป็นธรรมดา พระก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงธรรมชาตินี้ เป็นการแก้ปัญหาตรงจุด เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์จัดบริการเกื้อกูลต่อสมณเพศ.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่