ตำรวจไซเบอร์ขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นผู้สูงวัยตามชายแดน จ.เชียงราย ให้ค่าจ้างเปิด Line BK นำไปทำบัญชีม้าผ่านระบบออนไลน์แทนรับเปิดบัญชีม้าในรูปแบบเก่า มีผู้เสียหายสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท เป็นที่นิยมในกลุ่มมิจฉาชีพเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ เตือนหากเปิดบัญชีไลน์นำไปขายมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับตำรวจขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ “Line BK” เปิดบัญชีม้า เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.เปิดเผยถึงกรณีที่ตำรวจไซเบอร์จับกุมผู้ต้องหา 3 คนทำหน้าที่กดเงินให้กับขบวนการใช้ “Line BK” ในการทำธุรกรรมฝากถอนผ่านระบบแอปพลิเคชันไลน์ในพื้นที่ตามแนวชายแดน จ.เชียงราย ว่าเป็นรูปแบบใหม่ที่กลุ่มมิจฉาชีพนำมาใช้ในการฝากถอนเงินผ่านระบบออนไลน์ แทนการรับซื้อบัญชีม้าในรูปแบบเก่า โดยใช้วิธีหลอกผู้สูงอายุให้สมัครเปิดบัญชีไลน์ให้เงินเป็นค่าตอบแทน เบื้องต้นตำรวจไซเบอร์ตรวจพบว่ามีมิจฉาชีพนำ “Line BK” ไปใช้รับฝากถอนเงินในห้วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายสูญเงินกว่า 1 ล้านบาทพ.ต.อ.สมชาย ธีรภัทรไพศาล รอง ผบก.สอท.4 เปิดเผยว่า ในส่วนของ “Line BK” ฝากแจ้งเตือนการเปิดและนำบัญชี “Line BK” ไปขายต่อให้กับผู้อื่นมีความผิดตามกฎหมาย สำหรับเคสนี้สืบเนื่องจากชุดสืบสวน บก.สอท.4 สืบสวนพบว่ามีขบวนการรับซื้อบัญชี “Line BK” จากประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยให้ค่าจ้างในการเปิด Line BK ในราคาบัญชีละ 1,500 บาท ผู้ที่ขายจะต้องสมัครใช้ Line BK ในแอปพลิเคชันไลน์ และผูกบัญชีกับธนาคารกสิกรไทยพ.ต.อ.สมชายเผยอีกว่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่ามีการนำบัญชี Line BK ไปหลอกลวงประชาชนในให้โอนเงินมีมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 1 ล้านบาท ในส่วนนี้แจ้งเตือนไปยังประชาชนทั้งที่รู้ และไม่รู้อย่าตกเป็นเหยื่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ เนื่องจากขณะนี้บัญชี “Line BK” เป็นที่นิยมในกลุ่มมิจฉาชีพและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นบัญชีเงินฝากทดแทนบัญชีธนาคารอีกรูปแบบหนึ่ง และเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนของประชาชนหากเปิดบัญชี “Line BK” และนำไปจำหน่ายจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่