พ่อค้าขายขนมแปรรูปสติแตก คลั่งจี้รถแท็กซี่พาไปแก้แค้น รปภ. ตลาด อ.ต.ก. ที่เมียเปิดร้านขายขนมอยู่ ไปถึงเดินสาดกระสุนชุดแรกกว่า 20 นัดอย่างเลือดเย็นดับ รปภ.รวม 4 ศพ หลังจากนั้นเดินเข้าไปหาเมียในตลาด แต่ไม่พบเพราะเมียไหตัวทันวิ่งหนีไปก่อน เดินจ่อยิงแม่ค้าตายคาที่อีกศพ บาดเจ็บ 2 หลังจากนั้นระเบิดกระสุนใส่ขมับตัวเองหนีความผิด รวมเสียชีวิต 6 ศพ บาดเจ็บอีก 2 คน เมียแฉปมสติแตกมาจากปัญหา กับ รปภ.ตลาด อ.ต.ก.มานาน เริ่มต้นจากรถกระบะส่วนตัวถูก 1 ใน รปภ.ที่เสียชีวิตกรีดสีรอบคัน มีกล้อง ติดรถเป็นหลักฐาน ร้องเรียนผู้ดูแลตลาดกลับถูกเมิน เรื่องเงียบ ระหว่างเดินทางมาก่อเหตุโทร.มาหา เหมือนสั่งลา แต่เมียไม่ได้เอะใจ สุดท้ายกลายเป็น โศกนาฏกรรมกลางตลาดดังกลางกรุงหนุ่มใหญ่คลั่งไล่ยิงสนั่นตลาด อ.ต.ก.เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 28 ก.ค. พ.ต.ท.สุภัทร เหมจินดา สว. (สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุยิงกันตายหลายศพในองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (ตลาด อ.ต.ก.) ถนนพหลโยธิน แขวงและเขตจตุจักร กทม. รายงานผู้บังคับบัญชาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ อาทิ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์เวรสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ที่เกิดเหตุตั้งแต่ข้างอาคารสำนักงาน อ.ต.ก.ระหว่างประตูทางเข้าและออก ไปตามถนนถึงบริเวณหน้าตลาดเป็นอาคารชั้นเดียว ใกล้จุดรับบริจาคของ (ชายแดนไทย-กัมพูชา) “กัน จอมพลัง” พบศพเจ้าหน้าที่ รปภ.บริษัทรักษาความปลอดภัยการ์ดทเว้นตี้โฟร์ จำกัด รวม 4 ศพ ศพแรกนายอนันต์ ปานชื่น อายุ 52 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดถูกยิงที่ศีรษะ 3 นัด ลำคอ 2 นัด และไหล่ซ้าย 1 นัด รวม 6 นัด นายสมศักดิ์ เทศถมยา อายุ 51 ปี สภาพศพนอนหงายถูกยิงที่ศีรษะ ไหล่ซ้าย และชายโครงซ้ายรวม 3 นัด นายวิชา แสงดี อายุ 55 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าถูกยิงที่ลำตัว 2 นัด และศพนายปรีชา ฉัยยา อายุ 44 ปี สภาพนอนหงายถูกยิงที่หลังทะลุหน้าอก 1 นัด ที่พื้นถนนพบปลอก กระสุนขนาด 9 มม.ตกเกลื่อนกว่า 20 ปลอกส่วนภายในตลาดบริเวณแผงขายอาหารแห้งพบร่างนางจรรยาณัณ หรือป้าตู่ สัตยธนโรจน์ อายุ 64 ปี แม่ค้าขายผักถูกยิงรวม 6 นัดหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่รีบปั๊มหัวใจแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีแม่ค้าบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 คนคือ นางสุขพาฝัน อุปภาระกิจ และ น.ส.ผสุดี บริบาลบุรีภัณฑ์ นำส่งที่ รพ.พญาไท ถัดไปภายในอาคารเดียวกันพบศพผู้ก่อเหตุนายน้อย ไปรแดน อายุ 61 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 146 หมู่ 7 ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา สวมหมวกแก๊ปสีขาว เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กระเป๋าสีเขียวคล้องแขน กางเกงพรางทหารขาสั้น รองเท้าผ้าใบสีดำ ถูกยิงด้วยปืน 9 มม.เข้าขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด เสียชีวิตท่านั่งบนเก้าอี้ยาวเอียงตัวไปด้านขวาพาดพนักเก้าอี้หน้าแผงขายของผลไม้อบแห้งน้องแป้ว อ.ต.ก. ข้างศพพบปืนซีแซด 9 มม.มีทะเบียนของมือปืนตกอยู่ ในกระเป๋าสะพายพบทะเบียนปืนใบ ป.4 เอกสาร บัตรสมาชิกสนามยิงปืนราชนาวีบางนา กล่องกระสุนปืน 9 มม. (ไม่มีกระสุน 1 กล่อง) นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนในบริเวณตลาดอีกกว่า 10 นัด เจ้าหน้าที่ พฐ.เก็บไว้เป็นหลักฐานสอบสวนแม่ค้าที่เห็นเหตุการณ์ เผยว่า คนร้ายเป็นคนขายของอยู่กับเมียที่ร้านน้องแป้ว อ.ต.ก. ถือปืนเข้ามาเริ่มไล่ยิง รปภ.บริเวณทางเข้าตลาดก่อน 4 ศพ จากนั้นเข้ามาในตลาดจะไปหาภรรยาตัวเองที่แผงขายผลไม้อบแห้ง แต่ภรรยาได้ยินเสียงปืนหลายนัด วิ่งหนีออกจากร้านไปก่อน มือปืนมาไม่พบเลยหันกลับไปจ่อยิงป้าตู่ทั้งที่ร้องขอชีวิต หลังจากนั้นตัดสินใจยิงตัวเองที่ขมับขวา ก่อนเกิดเหตุมือปืนมีปากเสียงกับภรรยามาตลอด ช่วงหลังหายหน้าไปเดือน นอกจากนี้ยังเคยมีปากเสียงกับ รปภ.ตลาด เนื่องจากรถตัวเองถูกกรีดจนสีรถเสียหาย สงสัยว่า รปภ.รู้เห็นด้วยด้าน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.กล่าวว่า จากการสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า นายน้อยจี้บังคับคนขับรถแท็กซี่จากย่านวังทองหลางให้มาส่งที่ตลาด อ.ต.ก. ระหว่างนั่งมาในรถพูดว่า ตนมีปืนจะตามฆ่า รปภ.ตลาด เมื่อมาถึงตรงประตูทางเข้า 1 พบกลุ่ม รปภ. 3 คนยืนอยู่ นายน้อยลงมือก่อเหตุยิงทันที ก่อนเดินตามหาตัว รปภ.อีกคนคือ นายอนันต์นั่งอยู่ที่ป้อม วิ่งตามไล่ยิงจนเสียชีวิตเพิ่มอีกศพ ก่อนเข้าไปยิงแม่ค้าในตลาดเสียชีวิตเพิ่มเป็นศพที่ 5 และบาดเจ็บอีก 2 คน ก่อนตัดสินใจยิงตัวตาย ที่ม้านั่งกลางตลาดใกล้ร้านขายของภรรยาตัวเอง“ภรรยาเชื่อว่า แรงจูงใจมาจากปัญหาขัดแย้งส่วนตัวกับกลุ่ม รปภ.ที่สะสมมานาน จากเรื่องรถนายน้อยเคยถูกกรีดจนเป็นรอย ประกอบกับเจ้าตัวเป็นคนรักและหวงรถมาก รวมถึงเป็นคนอารมณ์รุนแรง เลยเก็บความแค้นสะสมเรื่อยมา ทุกครั้งที่ดื่มสุรา นายน้อยจะระบายปัญหานี้ให้ฟังประจำ เพราะเคยร้องเรียนไปแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า การตามหาตัวคนทำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างผู้ก่อเหตุกับกลุ่ม รปภ.ตลาด ไม่ใช่เหตุวินาศกรรมตามที่ลือกันในสื่อสังคมออนไลน์ จากการตรวจสอบประวัติของนายน้อยเบื้องต้น ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เป็นคนอารมณ์รุนแรง” ผบช.น.กล่าวหลังเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่กว่า 2 ชม. นางฐิตารีย์ เทดี อายุ 52 ปี ภรรยามือปืน เผยว่า ตนเปิดแผงขายผลไม้แปรรูปชื่อร้านน้องแป้วเลขที่ 4/334 ในตลาด อ.ต.ก. ก่อนหน้านี้สามีเคยมาช่วยกันขาย แต่ตอนหลังเศรษฐกิจไม่ดีแผงเหลือเล็กลง ตนดูแลคนเดียว สามีไม่ได้มาที่ตลาดตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ขับรถมาส่งตนทุกวัน ไม่เคยเข้ามาในตลาดเพราะไม่ถูกกับ รปภ. เคยมีเรื่องกันตั้งแต่ปี 62 ขณะสามีขับรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กฐ 7271 กรุงเทพมหานคร มีกล้องติดทั้งด้านหน้าและหลัง สามารถบันทึกภาพได้ว่า นายอนันต์ 1 ใน รปภ.ที่เสียชีวิตเป็นผู้ลงมือกรีดรถรอบคัน สามีเป็นคนรักรถมากไปแจ้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ตลาดขอเปิดกล้องที่ลานจอดรถดู ถูกปฏิเสธ ทำให้แค้นฝังใจต่อเหตุการณ์“ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าสามีขับรถมาส่งตามปกติแล้วขับรถกลับไป ช่วงก่อนเที่ยงโทร.มาหาบอกว่า ขออโหสิกรรมที่ชอบทำร้ายร่างกาย ฉันก็ไม่ได้คิดอะไร และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนแม่ค้าทั้ง 3 คนก็คุยกันปกติ ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะอะไรกับสามีหรือฉันเลย คาดว่าสาเหตุที่ลงมือยิงแม่ค้า อาจเป็นเพราะสามีสติแตกไปแล้ว” ภรรยามือปืนโหดกล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่