น่าน ยังวิกฤติ ระดับน้ำในตัวเมืองบางจุดสูงร่วม 2 เมตร โรงครัวพระราชทานและองค์กรภาคประชาสังคม เร่งผลิตข้าวกล่องส่งพื้นที่ประสบภัยเข้าถึงยากใน อ.ปัว อ.ท่าวังผา อ.เชียงกลาง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ สลด รพ.น่าน พังยับ ห้องเอกซเรย์-เครื่องทีซีสแกน พินาศนับสิบล้านบาท ระดมเงินบริจาคช่วยฟื้นฟู “เมืองแพร่”เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้เกลื่อน ปภ.ส่ง Cell Broadcast แจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำยมล้นตลิ่ง ให้ชาวบ้านยกของขึ้นที่สูง “เมืองสุโขทัย”หวิดจมบาดาล พนังกั้นน้ำยมแตกหลายจุด เจ้าหน้าที่เร่งเสริมกระสอบทรายเพิ่มความแข็งแรงภายหลังพายุโซนร้อน “วิภา” เคลื่อนตัวผ่านประเทศไทยไปแล้ว แต่ได้ทิ้งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า สถานการณ์อุทกภัยในเขตเทศบาล เมืองน่านยังอยู่ในภาวะวิกฤติ แม้ระดับน้ำจะลดลง เฉลี่ยชั่วโมงละ 3-4 ซม. แต่หลายจุดยังมีน้ำท่วมขัง สูงถึง 2 เมตร และน้ำไหลเชี่ยว ส่งผลให้การเข้าถึง ความช่วยเหลือทำได้อย่างจำกัด โดยเฉพาะชุมชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ ต้องใช้เรือหรือยานพาหนะเฉพาะทาง ลำเลียงสิ่งของจำเป็นไปส่งให้ประชาชนที่ยังหุงหาอาหารไม่ได้ ต้องการอาหารและน้ำดื่ม โรงครัวพระ ราชทาน และองค์กรภาคประชาสังคมหลายแห่งเร่งผลิตข้าวกล่องและสิ่งของจำเป็นส่งไปยังพื้นที่ประสบภัย เข้าถึงยาก อาทิ อ.ปัว อ.ท่าวังผา อ.เชียงกลาง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากยังมีน้ำท่วมสูงและชาวบ้านยังไม่สามารถฟื้นฟูครัวเรือนได้ที่ รพ.น่าน เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานระดม กำลังเข้าทำความสะอาดล้างคราบดินโคลน และเก็บข้าวของที่เสียหายจากน้ำท่วม หลังถูกน้ำไหลบ่าเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลให้ห้องตรวจรักษาและเครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องเอกซเรย์ และเครื่องทีซีสแกน ที่มีมูลค่าสูงนับสิบล้านบาท ถูกน้ำท่วมพังเสียหาย ขณะที่ โรงพยาบาลน่าน ได้โพสต์เฟซบุ๊กบัญชีธนาคารที่เปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูโรงพยาบาล ชื่อบัญชี “เงินบริจาค โรงพยาบาลน่าน บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 507-3-18099-2” ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมโทร.0-5471-9000 ต่อ 1101, 1412, 1413สำหรับสะพานข้ามลำน้ำน่าน หน้า รพ.น่าน (หน้าค่าย) ยังมีเศษไม้และขยะกีดขวางการจราจรบางส่วน ทหาร มทบ.38 พร้อมทหารช่าง เร่งเคลียร์เส้นทาง ขอให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางบ้านหัวเวียงเหนือ-บ้านน้ำต้วน ผ่านบ้านน้ำล้อม เลียบริมน้ำ น่าน ไปยังสะพานใกล้เคียงแทน ด้านนายบัณฑิต ฉิมชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน สั่งการให้ เจ้าหน้าที่อุทยานเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจกับศูนย์การ ควบคุมการบินภาคเหนือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ บินสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ อ.เวียงสา อ.เมืองน่าน และ อ.ท่าวังผา โดยเฉพาะในเขต ต.ส้าน และ ต.ขึ่ง อ.เวียงสา จากการสำรวจทาง อากาศพบว่าหลายจุดยังมีน้ำท่วมขังและร่องรอยความเสียหายจากกระแสน้ำหลาก รวมถึงความเสี่ยงดินสไลด์ อุทยานได้กำชับให้ทุกเขตในพื้นที่ จ.น่าน เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงจ.แพร่ ระดับน้ำในแม่น้ำยมลดลงแล้ว โดยเฉพาะ ที่บ้านหัวดง ต.ทุ่งกวาว อ.เมืองแพร่ เป็นจุดที่น้ำไหล ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองแพร่ น้ำลดลงไปมาก เหลือเพียง เศษซากกระสอบทรายและแบริเออร์ที่กันน้ำอยู่ตามถนน รถใหญ่ไม่สามารถผ่านได้ มีเพียงรถ จยย.ที่ขี่ผ่านได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ส่วนในย่านเศรษฐกิจถนนเจริญเมือง และแยกหน้า สภ.เมืองแพร่ ระดับน้ำลดลง แต่ยังมีน้ำท่วมขังกำลังระบายออก ส่วนที่ชุมชนร่องซ้อ น้ำยังท่วมขังอยู่ และที่ประตูศรีชุม เส้นทางไปสะพานมหาโพธิ์ เขตติดต่อ อ.เมืองแพร่ และ ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ น้ำยังท่วมสะพานและไหลเชี่ยวกราก ระดับน้ำสูงประมาณ 30 ซม. ไม่สามารถสัญจรข้ามได้ส่วนที่สะพานน้ำโค้ง ข้ามไป อ.ลอง อ.วังชิ้น จ.แพร่ น้ำลดลงสัญจรได้ปกติ แต่ยังไม่สามารถเข้าเมืองได้ในเส้นทางแยกเทคนิคแพร่ เพราะมีน้ำท่วมขัง และมีแบริเออร์ขวางอยู่ น้ำยังสูงระดับเอว สำหรับมวลน้ำยมที่ผ่าน อ.เมืองแพร่ ไป อ.สูงเม่น เริ่มลดลง และจะไหลไปรวมกันที่ อ.ลอง และ อ.วังชิ้น ด้านปภ.แพร่ ได้ส่ง Cell Broadcast แจ้งเตือนน้ำยม ล้นตลิ่ง และน้ำยมมีแนวโน้มสูงขึ้น พื้นที่เสี่ยง คือ ต.แม่เกิ๋ง, ต.แม่ป้าก, ต.วังชิ้น, ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และอพยพไปยังศูนย์พักพิงทันทีหากจำเป็นด้วยจ.สุโขทัย ช่วงเช้าที่ผ่านมา แนวกระสอบทราย ที่วางเสริมพนังกั้นแม่น้ำยม หน้าวัดคูหาสุวรรณ ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย ยาว 6 เมตร ได้แตกลงมวลน้ำ มหาศาลจากแม่น้ำยมไหลทะลักเข้าท่วมวัดคูหาสุวรรณและชุมชนคูหาสุวรรณอย่างรวดเร็ว แผ่กระจาย ลามไปถึงตลาดเช้าไตรรัตน์ที่อยู่ติดกัน ประชาชนที่กำลังจับจ่ายซื้อของวิ่งหนีน้ำกันอลหม่าน ระดับน้ำ สูงราว 40 ซม. กระแสน้ำยังทะลักที่คอสะพานพระร่วง ไหลเข้าท่วมถนนจรดวิถีถ่อง ฝั่งตะวันตก เป็นระยะทาง 2 กม. ส่วนที่สะพานพระแม่ย่า เขตติดต่อ ต.ธานี กับ ต.ยางซ้าย อ.เมืองสุโขทัย มวลน้ำทะลักคอสะพานไหล เข้าท่วมชุมชนพระแม่ย่าอย่างรวดเร็วเช่นกัน ถนนนิกรเกษม และถนนศรีอินทราทิตย์ สถานที่ตั้งหน่วยงาน ราชการ เช่น ศาลากลางจังหวัด, บก.ภ.จ.สุโขทัย, เรือนจำจังหวัดสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำระดับ 30 ซม.ช่วงสาย น้ำยมได้กระแทกแนวกระสอบทรายยาวประมาณ 3 เมตร บริเวณด้านหน้า กศน.สุโขทัย พังลงอีก 1 จุด มวลน้ำทะลักเข้าท่วมถนนนิกรเกษม ต.ธานี อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุโขทัย เร่งนำกระสอบทรายไปอุดเสริมบริเวณดังกล่าวแล้ว ส่วนที่คอสะพานโตโยต้า บ้านปากแคว หมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย มวลน้ำทะลักท่วมถนนสายบายพาส ตั้งแต่สะพานโตโยต้า ถึงสามแยกสถานีวิทยุ อบต. ปากแคว ระดมเจ้าหน้าที่พร้อมชาวบ้านกรอกทรายใส่กระสอบ วางเสริมแนวพนังกั้นน้ำบริเวณคอสะพานจนควบคุมสถานการณ์ได้แล้วบ่ายวันเดียวกัน กู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน นำชุดปฏิบัติการนักประดาน้ำ 5 นาย ค้นหา ร่างผู้สูญหายถูกน้ำป่าพัดจมที่บ้านนาจาน อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ใช้เวลา 45 นาที พบศพติดอยู่ใต้น้ำ ทราบชื่อ นายมนัส วัยวันดี อายุ 48 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ชาติตระการ เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 22 ชั่วโมง สอบถาม ทราบว่า ปกติบริเวณดังกล่าวเป็นธารน้ำเล็กๆไหลผ่านป่า ระดับน้ำไม่ลึก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ค. นายมนัส ผู้ตาย มีอาชีพเลี้ยงวัว จูงวัวข้ามลำน้ำกลับบ้าน จู่ๆมีน้ำป่าหลากมากะทันหัน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นรวดเร็วและไหลแรง ซัดร่างนายมนัสจมหายไป หลังนำร่างผู้ตายขึ้นมาได้ กู้ภัยส่งชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก ก่อนให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่