หลายเดือนมานี้ผมมี “โรคใหม่” ประจำตัวเกิดขึ้นอีกโรคหนึ่ง และก็เพิ่งไปพบคุณหมอ ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ขออนุญาตนำมาบอกกล่าวเล่าสิบท่านผู้อ่านแบบแชร์ประสบการณ์ แชร์ความรู้ เช่นเคยนะครับเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง ผมมีอาการเวียนหัวมากต้องไปเข้าโรงพยาบาลเอกชนแบบเร่งด่วน และก็เป็นธรรมเนียมของโรงพยาบาลเอกชน ใครมีอาการปวดหัว เวียนหัวมากๆ ท่านก็มักจะชวนให้ตรวจสมองด้วยเครื่อง MRIเนื่องจากผมไม่เคยตรวจมาก่อน จึงไม่ทราบว่าเวลาเข้าไปอยู่ในเครื่อง MRI เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนั้นจะมีเสียงอึกทึกครึกโครมบ้าง เสียงหวีดๆวิ้งๆบ้าง เสียงโครกครากๆบ้าง ระหว่างเครื่องทำงาน เข้ามากรอกหูเราอยู่ตลอด...ผมต้องใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างสูงยิ่ง กว่าจะผ่าน 1 ชั่วโมงแห่งความทรมานที่ว่านั้นออกมาได้เมื่อผ่านมาแล้วก็ยังทรมานต่อเพราะผลจากการอ่านภาพในสมองของผมพบว่ามี “เส้นเลือดโป่ง” อยู่เส้นหนึ่ง ซึ่งอาจจะปริหรือแตกเป็นอันตรายได้ คุณหมอโรงพยาบาลเอกชนจึงแนะนำให้ผมไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านสมองโดยเร็วผมจึงต้องแวะไปโรงพยาบาลรามาธิบดีเจ้าประจำของผมอีกครั้ง เอา ซีดี MRI ที่ว่าไปให้คุณหมอผู้เชี่ยวชาญท่านอ่านและ วิเคราะห์ ขออนุญาตเอ่ยชื่อท่านด้วยความเคารพ และขอบคุณยิ่ง คุณหมอ ชัย กอบกิจสุขสกุล ไว้ ณ ที่นี้ท่านดูแล้วก็มีความเห็นว่าคงต้องปล่อยเอาไว้อย่างนี้ก่อน อย่าไปแตะต้องอะไร รอดูอีกสัก 6 เดือนว่ามันจะโป่งขึ้นมาอีกหรือไม่ ค่อยหาวิธีรักษาว่าแล้วท่านก็นัดผมให้มาทำ MRI ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อผ่าน 6 เดือนไปแล้ว...เมื่อคํ่าวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ค.นี่เองคราวนี้ผมเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว ที่จะรับกับสถานการณ์ เสียงตึงตังโครมครามของเครื่อง ด้วยการตั้งใจที่จะสวดมนต์สลับไปกับการนึกถึง “พระรัตนตรัย” หรือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ควบคู่ไปด้วย ตลอดเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงดังกล่าวได้ผลครับ ผ่าน 1 ชั่วโมงไปได้อย่างราบรื่นและสงบสุขกว่าครั้งแรกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว...จากนั้นวันรุ่งขึ้น (วันศุกร์ที่ 18 ก.ค.) ผมก็ ไปพบคุณหมอชัยตามนัดหมาย คุณหมอซึ่งมีผล MRI รออยู่ข้างหน้าเรียบร้อย ท่านพูดคุยสอบถามโน่นนี่ผมอยู่นาน ในที่สุดก็สรุปว่า “เส้นเลือดโป่ง” ในสมองผมยังมีขนาดเท่าเดิมมิได้โตขึ้นจึงอย่าไปทำอะไรกับมันเลย...ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ ทำใจให้สบายๆอย่าเครียด...อีก 1 ปี มาทำ MRI อีกหน แล้วพบกับคุณหมออีกครั้ง...ซ.ต.พ.บทสรุปและข้อคิดที่สะกิดใจผมจากการไปพบหมอครั้งนี้ก็คือทุกวันนี้ชีวิตคนไทยเราก็เหมือนถูกจับเข้าไปตรวจในเครื่อง MRI ได้ยินแต่เสียงดังโครมคามกรอกหูตลอดทั้งวันทั้งปัญหาการเมืองไร้สเถียรภาพ, ปัญหาชายแดนกับเขมร, ปัญหาเศรษฐกิจซวดเซ และยังต้องลุ้นว่า จะเจอภาษีทรัมป์กี่เปอร์เซ็นต์ แถมยังมีปัญหา “พระสงฆ์” ชั้นผู้ใหญ่แอบไป “ตีกอล์ฟ” ต้องลาสิกขา ถึง 13 รูป ฯลฯ...เป็นข่าวใหญ่ผ่านสื่อทุกแขนงนั่งฟังนอนฟังเสียงอึกทึกครึกโครมเหล่านี้นานๆอาจจิตตกได้...ผมก็ขอแนะนำให้ลองสวดมนต์รำลึกถึงพระรัตนตรัย ทำใจให้สงบ เหมือนที่ผมสวดตอนเข้า MRI เผื่อจะช่วยท่านผู้อ่านได้จะมีปัญหาอยู่บ้างก็ตรงแก้วประการที่ 3 หรือพระสงฆ์ ซึ่งปัจจุบันมีแก้วร้าวเกิดขึ้นหลายดวงล้วนแต่ดวงใหญ่ๆทั้งสิ้น อ่านข่าวแล้วก็ใจหาย แต่ก็ช่างเถอะ เรายังมีแก้วดีอยู่อีกมาก ก็ขอให้นึกถึงแต่พระภิกษุที่เป็นแก้วอันประเสริฐที่ท่านรู้จักก็แล้วกัน เราก็จะมีพระรัตนตรัยครบทั้ง 3 ประการ มาช่วยทำนุบำรุงจิตใจให้เรามั่นคงเข้มแข็ง สามารถฝ่าฟันเสียงอึกทึกครึกโครมที่เกิดขึ้นรอบตัวเราทุกวันนี้ไปได้ในที่สุด."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม