ตามลากคอทันควันพ่อค้ารถมือสองปืนโหดรัวถล่ม 18 นัดปลิดชีพหนุ่มแบงก์เพื่อนรักร่างพรุนดับสยองคารถ ชนวนเหตุแค่เมาเหล้าพูดจาไม่เข้าหูขณะนั่งร่วมวงสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนในร้านเหล้า มีปากเสียงวิวาท ผู้ก่อเหตุเปิดก่อนง้างหมัดต่อยแต่วืด ถูกผู้ตายต่อยสวนกลับคิ้วแตก เพื่อนๆ มาห้ามแยกย้ายกันขับรถกลับ เจ้าตัวยังไม่หายแค้นขับเก๋งไล่ตามไปชนท้ายให้จอด ลงไปเปิดประตูรถรัวกระหน่ำยิงไม่ยั้งมือต่อหน้าต่อตาเพื่อนชายหญิงอีก 2 คนที่นั่งมาในรถ หลังก่อเหตุขับรถเผ่นหนีข้ามจังหวัด รถหม้อน้ำแตกขับไปต่อไม่ได้ สุดท้ายถูกบุกรวบคาห้องพักโรงแรมน้ำเปลี่ยนนิสัยเป็นเหตุ แค่เมาเหล้าพูดจาไม่เข้าหู เพื่อนรักรัวฆ่าเพื่อนรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 3 พ.ค. พ.ต.ต.กิตินันท์ อักษรสม สว. (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุคน ถูกยิงเสียชีวิตในซอยต้นสน 15 ถนนแจ้งวัฒนะ หมู่ 7 ต.บางตลาด รายงานให้ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ปิยวุฒิ แก้วมณี รอง ผบก. พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก. สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ยศเดช สุขเทียบ สว.สส. พ.ต.ท.ฤทธิรักษ์ นามคำสวัสดิ์ สวป.สภ.ปากเกร็ด นำกำลังตำรวจ พร้อมแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และอาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์อเนกประสงค์ยี่ห้อ HAVAL สีดำ ทะเบียน 2 ขบ 3262 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ริมถนนในซอย ประตูฝั่งคนขับเปิดค้างอยู่ พบศพนายวีรวัฒน์ สาขะจันทร์ อายุ 40 ปี คนขับ เป็นพนักงานแผนกคอลเซ็นเตอร์ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่บ้านเลขที่ 68/24 หมู่ 6 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนนข้างรถ ถูกยิงด้วยปืน 9 มม. เข้าที่ลำตัว 15 นัด และแขนขวา 3 นัด รวม 18 นัด ในรถพบปลอกกระสุนปืน 14 ปลอก และบนพื้นหน้ารถอีก 4 ปลอก ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสิทธิพงษ์ สิงหฬ อายุ 41 ปี เพื่อนสนิทของผู้ตาย อาชีพพ่อค้ารถยนต์มือสอง หลังก่อเหตุ ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาว ทะเบียน 6 กท 2789 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไปจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายกับนายสิทธิพงษ์ ผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนรักกัน เคยทำงานอยู่ธนาคารเดียวกันก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะลาออกมาได้ประมาณ 3 ปี หันไปทำธุรกิจค้ารถยนต์มือสอง ก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่พร้อมกลุ่มเพื่อนอีก 5 คน ชักชวนกันไปนั่งดื่มกิน ที่ร้านเหล้าชื่อร้าน “อยู่กับเพื่อนบ้าง” ย่านถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ กระทั่งเวลา ประมาณใกล้เที่ยงคืน หลังดื่มกินกันจนเมาได้ที่ ทั้งสอง เกิดมีปากเสียงโต้เถียงกันจากสาเหตุที่นายสิทธิพงษ์พูดจาผิดหู จนร้านเลิกตอนเที่ยงคืนเตรียมแยกย้ายกันกลับ ทั้งสองยืนโต้เถียงกันอีกรอบ นายสิทธิพงษ์เปิดฉากชกต่อยผู้ตายก่อนแต่ไม่โดน ถูกผู้ตายชกสวนกลับเข้าใบหน้าเต็มหมัดจนได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก กลุ่มเพื่อนเข้าช่วยกันห้ามปรามแยกย้ายทั้งคู่ ออกจากกัน นายสิทธิพงษ์เดินไปขึ้นรถเก๋งขับออกจากร้านก่อนเป็นคนแรกจากนั้นผู้ตายขับรถออกมาจากร้าน มีเพื่อนสาว นั่งเบาะหน้าและเพื่อนชายนั่งเบาะหลัง เลี้ยวเข้าซอย ต้นสน 15 ใช้เป็นเส้นทางลัดมุ่งหน้าไปออกถนนแจ้งวัฒนะ มาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณกลางซอย จู่ๆ นายสิทธิพงษ์ขับรถตามหลังมาพุ่งชนท้ายอย่างแรงจนกันชนท้ายได้รับความเสียหาย ผู้ตายตกใจรีบจอดรถ ส่วนนายสิทธิพงษ์ขับรถไปจอดขวางด้านหน้า ลงจากรถมาเปิดประตูรถผู้ตาย ชักปืนออกมากระหน่ำยิงใส่ร่างผู้ตายไม่ยั้งมือจนร่วงตกจากเบาะลงมาเสียชีวิตอยู่ข้างรถ ต่อหน้าต่อตาเพื่อนชายหญิงอีก 2 คน ที่นั่งอยู่ในรถ หลังก่อเหตุวิ่งกลับไปขึ้นรถตัวเองขับหลบหนีไปช่วงเช้าวันเดียวกัน ตำรวจรวบรวมพยาน หลักฐานไปขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ ที่ 614/2568 ลงวันที่ 3 พ.ค.68 ให้จับกุมนายสิทธิพงษ์ สิงหฬ ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง พาอาวุธปืน ไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่ สาธารณะ ต่อมา พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 นำกำลังชุดสืบสวนเร่งหาเบาะแสจนพบว่านายสิทธิพงษ์ ผู้ต้องหา หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ประสานตำรวจ สภ.เดิมบางนางบวช บุกเข้าจับกุมตัวไว้ได้ที่โรงแรมนางบวช รีสอร์ทจากการสอบปากคำเบื้องต้นนายสิทธิพงษ์ ให้การว่า สาเหตุแค่เรื่องเล็กน้อยจากพูดจาไม่เข้าหูจนมีปากเสียงกันในวงเหล้าที่ร้านอาหาร หลังก่อเหตุขับรถเก๋งหลบหนีมุ่งหน้าจะไปบ้านพ่อใน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี แต่รถเก๋งที่ขับชนท้ายรถผู้ตายทำให้หม้อน้ำแตก พอไปถึง อ.บางเลน จ.นครปฐม ขับไปต่อไม่ได้ ต้องจอดรถทิ้งไว้หน้าร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี สาขาบางเลน โทรศัพท์ให้พ่อขับรถมารับพาไปเปิดห้องพักโรงแรมที่ อ.เดิมบางนางบวช กระทั่งถูกตำรวจบุกเข้าจับกุม ส่วนปืน 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุเป็นของพ่อที่เป็นอดีตตำรวจ ฝากพ่อเอาไปเก็บไว้ที่บ้าน ตำรวจตามไปยึดมาได้ ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปลงบันทึกจับกุมก่อนนำส่ง สภ.ปากเกร็ด ให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่