ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต “กำนันนก” ใช้จ้างวาน “หน่อง ท่าผา” ลูกน้องคนสนิทลั่นไกปลิดชีพ “สารวัตรศิว” กลางงานเลี้ยงในบ้านนครปฐมคำฟ้องระบุชัด ดอกแรกโมโหผู้ตายหลังฝากย้ายจ่าทางหลวงหลานชายแต่ถูกปฏิเสธ ก่อนมีการท้าชนเหล้าชนิดใช้เชือกผูกแขนกันหนี “กำนันนก” แพ้อีกเป็นดอกสอง ฉุนเสียหน้าตบโต๊ะลุกไปนั่งอีกที่ ก่อนถามหาปืน มี “หน่อง ท่าผา” คนสนิทเข้าไปถามลูกพี่เอายังไง กำนันนกพยักหน้าเป็นคำสั่งตายจนถูกยิงกลางงาน มีรอง ผกก.อีกคนสาหัส ศาลให้นับโทษต่อคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางสั่งจำคุกจำเลย 2 ปีศาลอาญาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต “กำนันนก” คดีใช้ “หน่อง ท่าผา” เหนี่ยวไกฆ่า “สารวัตรศิว” เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 30 ม.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก อายุ 37 ปี อดีตกำนันดังใน จ.นครปฐม ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ใช้ หรือจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น อัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 เวลากลางคืนจำเลยใช้ จ้างวานให้นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ท่าผา คนสนิท (ถูกตำรวจวิสามัญในเวลาต่อมา) ใช้ปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรศิว สว.กก.2 บก.ทล.ในงานเลี้ยงวันเกิดภายในบ้านจำเลย เลขที่ 55/1 หมู่ 2 ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา กระสุนยังถูก พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.บาดเจ็บสาหัส จำเลยปฏิเสธพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 6 ก.ย.66 จำเลยจัดงานเลี้ยงที่บ้านดังกล่าวมีการเชิญนายตำรวจและชั้นประทวนมาร่วมงานเลี้ยงจัดวางโต๊ะ 2 ฝั่ง ฝั่งขวาเป็นโต๊ะ VIP มี พ.ต.ท.ศิวกรผู้เสียชีวิตนั่งร่วมโต๊ะ ส่วนจำเลยนั่งหัวโต๊ะทั้งฝั่งVIP และฝั่งซ้ายเป็นโต๊ะยาวที่มีโต๊ะตั้งเรียงอยู่ 5 ตัว ก่อนเกิดเหตุจำเลยขอผู้ตายช่วยย้าย จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา หรือจ่าอาร์ต หลานชายจำเลยเป็นสายตรวจรถจักรยานยนต์ ผู้ตายบอกว่าขอให้รอดูช่วงตุลาคมนี้ก่อนเป็นช่วงเกษียณอายุของตำรวจในหน่วยทำให้จำเลยไม่พอใจมีการท้าดวลดื่มสุรากัน ใช้ผ้าผูกแขนผู้ตายกับจำเลยไว้ในทำนองไม่ให้ใครลุกหนี จำเลยดื่มแพ้ ผู้ตายพูดในทำนองว่าดื่มหมดก่อนทุกครั้งทำให้จำเลยรู้สึกเสียหน้า ก่อนจะลุกขึ้นตบโต๊ะออกจากโต๊ะ VIP เดินกลับไปนั่งหัวโต๊ะของฝั่งโต๊ะยาวด้วยอาการฉุนเฉียวบรรยายโจทก์ระบุต่อว่า จ.ส.ต.พิสิฐและผู้เสียชีวิตเดินตามมาขอโทษ จ.ส.ต.พิสิฐนั่งยองๆกอดที่เอวจำเลย ขณะที่ผู้ตายนั่งอยู่ข้างๆพูดทำนองว่าดื่มกันสนุกๆเฉยๆ จำเลยบอกกับ จ.ส.ต.พิสิฐว่าให้รีบกลับเดี๋ยวเลือดเปื้อนหน้า จ.ส.ต.พิสิฐได้เดินทางกลับขณะที่ผู้เสียชีวิตกลับไปนั่งที่โต๊ะ VIP ตำแหน่งหัวโต๊ะที่จำเลยนั่งระหว่างนั้นนายธนัญชัย หรือหน่อง ท่าผา ลูกน้องคนสนิทจำเลยเห็นเหตุการณ์รับทราบว่ามีความไม่พอใจกันอยู่ระหว่างจำเลยกับผู้ตาย รวมถึงได้ยินจำเลยถามหาปืนและได้ยินจำเลยพูดว่าแบบนี้เอาไว้ไม่ได้ คนปกติทั่วไปเข้าใจว่าหมายถึงต้องฆ่าให้ตาย นายธนัญชัยเดินไปที่โต๊ะ VIP ถามจำเลยว่า“ลูกพี่เอาไง” จำเลยพยักหน้า นายธนัญชัยใช้ปืนกล็อก 9 มม. ยิงผู้ตายหลายนัดกระสุนปืนยังไปถูก พ.ต.ท.วศินบาดเจ็บสาหัส ทั้งสองถูกนำตัวส่ง รพ.นครปฐม ผู้ตายเสียชีวิตในเวลาต่อมาเห็นว่าพยานโจทก์หลายปากเบิกความเป็นลำดับขั้นตอนสอดคล้องต้องกัน เชื่อว่าพยานโจทก์เบิกความไปตามความจริง อีกทั้งพยานเป็นเจ้าพนักงานรัฐไม่มีสาเหตุโกรธเคืองจำเลยมาก่อนมีน้ำหนักให้รับฟังว่าจำเลยใช้ให้นายธนัญชัยไปยิงผู้เสียชีวิตจากเหตุที่ไม่พอใจเมื่อขอให้ย้าย จ.ส.ต.พิสิฐมาเป็นสายตรวจรถจักรยานยนต์ อีกทั้งรู้สึกอับอายเสียหน้าดื่มสุราแพ้ถึงขั้นลุกขึ้นตบโต๊ะอย่างแรง และพูดว่า “อย่างนี้เอาไว้ไม่ได้” เมื่อผู้ตายมาขอโทษอารมณ์ยิ่งคุกรุ่นถึงขั้นถามหาปืนประสงค์จะเอาชีวิตผู้ตายแม้มีคนเตือนสติจำเลยเมามากให้ไปนอนพักส่วนนายธนัญชัย แม้จำเลยไม่ได้พูดแต่นายธนัญชัยเป็นลูกน้องคนสนิท ตรวจสอบเฟซบุ๊กส่วนตัวตั้งแต่เดือน พ.ย.62 ถึง ส.ค.66 แสดงให้เห็นถึงความเคารพรักที่นายธนัญชัยมีต่อจำเลย วันเกิดเหตุนายธนัญชัยแสดงตัวเอาใจจำเลยทั้งที่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย การกระทำของจำเลยเป็นการใช้ให้นายธนัญชัยฆ่าสมเจตนาจำเลยและทำให้ พ.ต.ท.วศินบาดเจ็บพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมาย มาตรา 288, 60, 80, 84 เป็นผู้ใช้ให้ฆ่าผู้อื่น อันเป็นโทษบทหนักสุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ระหว่างการพิจารณาคดี จำเลยได้บรรเทาผลร้ายจนโจทก์ร่วมมีพ่อ แม่ ภรรยาและบุตรของ พ.ต.ต.ศิวกร และ พ.ต.ท.วศิน พอใจจนยอมถอนคำร้องเรียกค่าเสียหาย ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตและให้ริบของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และให้นับโทษต่อในคดี อท.206/2566 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ให้ลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่