ป.ป.ส.ร่วมกองทัพเรือสกัดแก๊งค้ายาไอซ์ข้ามชาติอำพรางด้วยการโรยเกล็ดยาไอซ์ปะปนมาในม้วนฝ้าย ขนส่งทางเรือต้นทางแอฟริกาใช้ไทยเป็นทางผ่านส่งประเทศที่สาม จับกุม 5 ผู้ต้องหาชาวไทยร่วมขบวนการขยายผลต่อ ขณะที่ “บิ๊กเม่น” ผบช.ปส.แถลงผลสแกนพื้นที่ชั้นในจับแก๊งต่างชาติผิวสีชาวไนจีเรียจำหน่ายโคเคนให้กับนักท่องเที่ยวย่านสุขุมวิท นอกจากนี้ยังจับ 2 เครือข่ายยาบ้าของกลางรวมกันเฉียด 5 ล้านเม็ดป.ป.ส.ร่วมทัพเรือสกัดแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติจับยาไอซ์ซุกม้วนฝ้ายต้นทางจากแอฟริกา เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่สำนักงาน ป.ป.ส. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยนายจักกฤช อุเทนสุต รองอธิบดีกรมศุลกากร พล.ต.ต.อดิศ เจริญ สวัสดิ์ ผบก.ปส.3 พล.ร.ท.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือ กองทัพเรือ ร่วมกันแถลงผลการปราบปรามยาเสพติด 2 คดีคดีแรก พล.ร.ท.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือ กองทัพเรือ เผยว่า คดีนี้ร่วมมือหลายหน่วยงาน โดยเมื่อวันที่ 17 ม.ค.68 จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย เป็นหญิงชาวไทย 1 ราย และชายไทยวัยรุ่น 4 ราย พร้อมยาไอซ์ของกลาง น้ำหนักรวมสิ่งของหุ้มประมาณ 1.65 ตัน หรือ 1,650 กิโลกรัม ซุกซ่อนอำพรางอยู่ในม้วนฝ้าย 33 ม้วน เหตุเกิดที่โกดังในพื้นที่แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. หลังสืบสวนจนแน่ใจเมื่อเดือน ธ.ค.67 กองทัพเรือประสานมายัง ป.ป.ส และร่วมกับอีกหลายหน่วยงานเนื่องจากเป็นเคสที่ซับซ้อน ผู้ค้าแฝงยาไอซ์มาในใยฝ้าย แต่เจ้าหน้าที่ตรวจจับได้ว่าในฝ้าย 1 ร้อยกว่าม้วน มี 33 ม้วนซ่อนยาไอซ์ โดยใช้วิธีโรยเกล็ดปะปน ถ้าไม่มีการข่าวจะตรวจจับได้ยากนายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด กล่าวเสริมว่า หญิงชาวไทยที่ถูกจับเป็นผู้เช่าโกดังและประสานงานเครือข่ายในต่างประเทศ ส่วนอีก 4 รายที่เป็นวัยรุ่น เป็นคนดูแลโกดังและเป็นนอมินีเปิดบริษัท พฤติการณ์ทางคดีมีเครือข่ายที่อยู่ต่างประเทศจัดเตรียมยาไอซ์ปะปนในใยฝ้ายส่งให้หญิงชาวไทยทางเรือจากทวีปแอฟริกา เข้ามาทางอินเดียก่อนเข้ามาถึงไทย ตอนเข้าตรวจค้นโทรศัพท์มือถือหญิงชาวไทย มีแชตข้อความชัดเจนที่ระบุว่ามีฝ้าย 33 ชิ้น มียาเสพติดผสมอยู่จากฝ้ายทั้งหมด 140 ชิ้น เบื้องต้นตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับสาวชาวไทยรายนี้ได้ 2-3 ล้านบาทขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ยาไอซ์ไม่ใช่ยาเสพติดที่แพร่ระบาดในไทย แต่ถือว่าไทยเป็นทางผ่านส่งออกไปยังออสเตรเลีย เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือฮ่องกง นอกจากนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ได้นำเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ทดสอบสารจากตัวอย่างของกลางคือใยฝ้าย พบว่าเมื่อทดสอบแล้วมีสารเสพติดเป็นยาไอซ์ เพราะทำปฏิกิริยาเป็นสีส้มนายปฤณเผยต่อว่า อีกคดีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ได้จับกุมนายพงศ์ศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดียาเสพติดตามหมายจับศาลอาญา ระดับผู้สั่งการ ประสานงาน ควบคุมการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ จับได้ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ใกล้สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 4 ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ จากนั้นขยายผลปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักอาศัย กิจการคาเฟ่ร้านอาหาร 4 จุด 4 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี อ่างทอง ตาก ตรวจยึดทรัพย์สินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง กิจการคาเฟ่ร้านอาหาร รถยนต์ ทองรูปพรรณ รวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาทวันเดียวกัน ที่ห้องพรหมนอก ชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รรท.รอง ผบช.ปส. ร่วมแถลงข่าวการสแกนพื้นที่ชั้นใน กทม. ทลายนักค้ายาผิวสีตัดตอนสกัดกั้นการลำเลียงยาลงใต้ โดย พล.ต.ท.สันติกล่าวว่า เคสแรกเป็นการสแกนพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร โดย กก.2 บก.ปส.1 สืบสวนหาข่าวกลุ่มนักค้ายาผิวสี ลักลอบจำหน่ายโคเคนให้กับนักท่องเที่ยวย่านซอยนานา ถนนสุขุมวิท ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับและจับกุมกลุ่มผู้ค้าได้ 11 ราย เป็นชายผิวสีชาวไนจีเรีย 11 ราย หญิงไทย 2 ราย ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) 61 กรัม นำตัวผู้ต้องหาส่ง บช.ปส.ดำเนินคดีผบช.ปส.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้วันที่ 19 ม.ค. ตำรวจ นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 สืบทราบว่ามีการนัดหมายส่งมอบยาเสพติด บริเวณซอยทางเข้าบ้านพักเฮือนฮิมบ่อ ต.ดอยห่าง อ.เมืองเชียงราย ไปตรวจสอบพบกล่องกระดาษและกระสอบสีรุ้งภายในบรรจุยาบ้าประมาณ 478,000 เม็ด เคตามีน 30 ก้อน น้ำหนัก 30 กก. ตรวจยึดขยายผลไปยังกลุ่มเครือข่าย จนพบรถยนต์ 3 คัน ของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดบริเวณ ปั๊มน้ำมันแยกสวนผัก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้ปิดล้อมตรวจค้นแต่ผู้ค้าเร่งเครื่องขับพุ่งชนรถยนต์เจ้าหน้าที่จนเสียหาย ก่อนจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือนายธนกฤต อายุ 21 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีนอกจากนี้ ชุด นปส.นครพนม/อุดรธานี กก.3 บก.ปส.2 ได้สืบสวนกลุ่มลูกค้าในภาคอีสาน เป็นการตัดตอนไม่ให้สามารถนำยาเสพติดนำแพร่กระจายเข้าสู่พื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ จับผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมยาบ้า 4 ล้านเม็ด รถยนต์ 2 คัน จับได้บริเวณริมถนนตลาดชุมชนสว่างแดนดิน จ.สกลนคร ต่อเนื่องปั๊มน้ำมันใน ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี สอบสวนผู้ต้องหารับว่า รับยาเสพติดมาจากลานจอดรถห้างแม็คโคร นครพนม นำไปส่งปลายทางถนนพระราม 2 จ.สมุทรสาคร ได้ค่าจ้าง 200,000 บาท แต่มาถูกตำรวจจับกุมได้ก่อนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่