สืบนครบาลตามตะครุบ “ชาคิต” คนขับรถกระบะ พา “จ่าเอ็ม” หนีข้ามแดนตามภาพวงจรปิด ล็อกตัวได้พร้อมรถกระบะของกลางที่ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าตัวให้การภาคเสธ ก่อนเผยสื่อขณะถูกคุมตัวฝากขังศาลอาญา อ้างรู้จักจ่าเอ็มมา 1 ปี และไม่รู้ว่าไปก่อคดียิงคนตายมา โดยวันไปส่ง จ่าเอ็มโอนเงินค่าจ้างให้ 4,500 บาท อ้างจะไปกินเลี้ยง หลังย้ายไปประจำการที่คลองหาด ส่วนที่ขับรถผ่านแดนนั้นไม่รู้ว่าห้ามเดินทางยามวิกาลเพราะคิดว่าเป็น ตลาด ขณะที่ ผบก.น.1 เผยอยู่ระหว่างรอรายละเอียดเส้นเงินก่อนและหลังวันเกิดเหตุเชื่อมโยงใครบ้างภายหลังพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม คุมตัวนายเอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม แพน้อย อายุ 41 ปี อดีตทหารเรือ ยื่นคำร้องฝากขังศาลอาญาในคดียิงนายลิม คิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิตข้างวัดบวรนิเวศ กทม. หลังหนีไปถูกจับกุมที่จังหวัด พระตะบอง ประเทศกัมพูชา และรับตัวกลับมาดำเนินคดี ศาลรับคำร้องให้ฝากขังนำตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานคร ขณะที่ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.เปิดเผยคดีอยู่ระหว่างขยายผลเส้นเงินและข้อมูลการติดต่อต้องใช้เวลาอีกระยะ เชื่อคนจ้างวานอยู่ต่างประเทศและเป็นคนที่มีบุญคุณกับ “จ่าเอ็ม” มือสังหารมากถึงยอมทำให้โดยไม่ยอมซัดทอด ส่วนคนชี้เป้าชาวเขมรขณะนี้ออกหมายแดงแล้วตามที่เสนอข่าวไปนั้นล่าสุดสืบนครบาลจับคนขับกระบะพา “จ่าเอ็ม” หนีข้ามแดนได้อีก 1 คน เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ม.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมนายชาคิต บัวปลี หรือ “ชำนาญ” อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 515 ม.1 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 13 ม.ค. 68 ข้อหากระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จับได้ที่บริเวณหน้าบ้านน็อกดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมรถกระบะ โตโยต้า 4 ประตู สีเทาหมายเลขทะเบียน 3 ขก 8371 กรุงเทพมหานครการจับกุมครั้งนี้ ภายหลังนำตัว “จ่าเอ็ม” ฝากขังศาลส่งตัวเข้าเรือนจำแล้ว พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ชุดสืบสวนนครบาลขยายผลผู้สมรู้ร่วมคิดหรือสนับสนุนนายเอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม แพน้อย โดยพบหลักฐานผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งบ่งชี้ถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ กระทั่งหลังเกิดเหตุยังได้เป็นผู้ขับรถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อกลางดึกวันที่ 7 ม.ค. 68จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือนายชาคิต บัวปลี หรือ “ชำนาญ” อายุ 47 ปี หลังรับรายงาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนนำโดย พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ขอหมายจับต่อศาลอาญาทันที ก่อนที่ชุดสืบสวนนครบาลนำโดย พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.หรือสารวัตรแจ๊ะ จะเข้าจับกุมนายชาคิตได้ที่หน้าบ้านน็อกดาวน์ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมรถกระบะของกลางที่ใช้ขับพาจ่าเอ็มหลบหนี เบื้องต้นนายชาคิตรับว่าเป็นรถที่ตนใช้ขับพาจ่าเอ็มไปที่ชายแดนในวันเกิดเหตุ ส่วนการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์นายชาคิต พบการติดต่อสื่อสารกับจ่าเอ็มในวันเกิดเหตุตั้งแต่เวลา 13.54 น. เป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายชาคิตให้การภาคเสธ กล่าวว่า รู้จักนายเอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม ประมาณ 1 ปี โดยวันเกิดเหตุเป็นคนรับจ่าเอ็มจาก จ.ชลบุรี ไปส่งที่ด่านชายแดน จ.สระแก้ว นายชาคิตอ้างว่าเข้าใจว่าจ่าเอ็มไปรับตำแหน่งใหม่ และนัดดื่มสุรากับเพื่อน เมื่อถามว่านายชาคิตรู้หรือไม่ว่าจ่าเอ็มหลบหนีจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ในสำนวนคดี ทั้งนี้ ผบช.น.สั่งการให้ขยายผลให้ถึงที่สุด สำหรับการติดตามจับกุมนายชาคิต มีหลักฐานภาพวงจรปิดพบผู้ต้องหาขับรถกระบะผ่านด่านชายแดน จ.สระแก้ว เป็นที่รู้กันดีว่าช่วงเวลากลางคืนนั้นไม่สามารถที่จะออกนอกพรมแดนได้ ถ้าไปบริเวณจุดข้ามแดนช่องทางธรรมชาติ แนวโน้มเป็นการส่งคนข้ามแดนไปผิดกฎหมายอยู่แล้วต่อมาเวลา 10.15 น. ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. นำตัวนายชาคิตมาส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะ สงคราม เพื่อแจ้งข้อหาและสอบปากคำอีกครั้ง ทั้งนี้แนวทางการสืบสวนทราบว่านายเอกลักษณ์กับนายชาคิตรู้จักสนิทสนมกัน ทั้งคู่ขายของตามแนวชายแดน นายเอกลักษณ์ โทร.นัดนายชาคิตให้มารับก่อนลงมือสังหารนายลิม คิมยา พาหลบหนีออกไปกัมพูชา แนวทางสืบสวนเชื่อว่า ปลายทางนายเอกลักษณ์มือปืนจะต้องไปหาผู้จ้างวานที่ว่ามีบุญคุณหาที่อาศัยเพื่อกบดานหลบหนีคดีแต่ถูกจับได้เสียก่อนกระทั่งเวลา 14.20 น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม นำตัวนายชาคิต ไปฝากขังที่ศาลอาญา ระหว่างนำตัวออกจาก สน.ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา นายชาคิตมีสีหน้าอิดโรยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ทราบว่านายเอกลักษณ์ไปก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต วันเกิดเหตุนายเอกลักษณ์โอนเงินมาให้ 4,500 บาท เป็นค่าจ้างให้ไปส่งที่จุดผ่านแดน นายเอกลักษณ์อ้างว่าจะไปกินเลี้ยงหลังย้ายไปประจำการที่คลองหาด จ.สระแก้ว ระหว่างเดินทางนายเอกลักษณ์ไม่มีอาการตื่นตระหนกหรือมีพิรุธ ส่วนจุดผ่านแดนที่ไปส่งไม่ทราบว่าห้ามไปในยามวิกาลเพราะคิดว่าเป็นตลาดศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ภายหลังไม่มีญาติหรือทนายความยื่นคำร้อง และหลักทรัพย์ขอประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวนายชาคิตไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไปพล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอรายละเอียดเส้นทางการเงินเพื่อพิสูจน์ทราบว่า การเงินที่เกี่ยวข้องกับนายเอกลักษณ์มือปืนช่วงระหว่างก่อนและหลังวันเกิดเหตุ เชื่อมโยงกับผู้ใดบ้าง คาดว่าจะได้รับภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนการสอบสวนนายชาคิตนั้น ให้การเฉพาะของตัวเองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการก่อเหตุ สำหรับบุคคลที่ช่วยเหลือนายเอกลักษณ์หลบหนีขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่ามีบุคคลอื่นนอกจากนายชาคิตอีกหรือไม่ ถ้าพบจะดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนรถกระบะพาหนะพานายเอกลักษณ์หลบหนี เป็นของใครไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นรายละเอียดในสำนวนคดีอยู่ระหว่างขยายผลอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่