เร่งแกะรอยไขปริศนาพบโครงกระดูกมนุษย์ยัดกระเป๋าเดินทางทิ้งพงหญ้าริมถนนสายเปลี่ยว คนงานก่อสร้างขับรถกระบะผ่านมายางแตกต้องจอดเปลี่ยนยางเลยเจอกระเป๋าโดยบังเอิญ ด้วยความสงสัยเปิดออกดูตกใจแทบช็อกรีบโทร.แจ้งตำรวจประสานทีมแพทย์ตรวจสภาพกระดูกแห้งกรังมีครบสมบูรณ์เกือบทุกส่วนไม่เสียหาย คาดเป็นผู้ชายเสียชีวิตมาแล้วนานกว่า 3 เดือน ไม่มีรอยคราบเลือดหรือน้ำเหลืองจากซากศพ ยังไม่ฟันธงว่าเอาแต่โครงกระดูกหรือยัดศพทั้งตัวใส่กระเป๋า ส่งตรวจชันสูตรพร้อมตามหาญาติมาสอบสวนคลี่ปมคดีคดีฆาตกรรมปริศนาพบโครงกระดูกยัดกระเป๋าเดินทางทิ้งริมถนน เปิดเผยเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 ม.ค. ร.ต.อ.เนวิน สุนทวนิค รอง สว. (สอบสวน) สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งพบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ในกระเป๋าเดินทาง ถูกวางทิ้งไว้ริมถนนสายห้วยใหญ่ ก่อนถึงแยกถนนสาย 331 ฉะเชิงเทรา-สัตหีบ ประมาณ 1 กม. พื้นที่หมู่ 6 ต.ห้วยใหญ่ รายงานให้ พ.ต.ท.พรพรหม ม่วงบังยุง รอง ผกก.สส. นำกำลังฝ่ายสืบสวน พร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นถนนสายเปลี่ยวอยู่ห่างไกลชุมชน พบกระเป๋าเดินทางสีแดงเลือดหมูยี่ห้อ American Tourister ขนาด 32 นิ้ววางทิ้งในร่องน้ำข้างถนนปกคลุมด้วยพงหญ้า นำขึ้นมาเปิดดูในกระเป๋าพบหัวกะโหลกและโครงกระดูกมนุษย์อยู่ในสภาพแห้งกรัง มีเสื้อยืดคอกลมสีน้ำตาลสกรีนรูปสัญลักษณ์นักเบสบอลอยู่กลางหน้าอก กางเกงในผู้ชายสีเขียว และผ้าคลุมไหล่มีหมวกฮู้ดลายทางสลับสีขนาด 30 คูณ 50 นิ้ว ตำรวจเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานทีมแพทย์ รพ.วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารมาร่วมตรวจโครงกระดูก เบื้องต้นพบว่าโครงกระดูกมีเกือบครบทุกส่วน อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่มีส่วนไหนได้รับความเสียหาย คาดว่าเป็นผู้ชายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 เดือนสอบถามนายพีระพัฒน์ ลาวชุด อายุ 25 ปี และนายมงคล เทพวงษา อายุ 30 ปี คนงานก่อสร้างผู้พบกระเป๋าเดินทางเผยว่า ขณะขับรถระบะกลับแคมป์คนงาน ถึงจุดเกิดเหตุยางล้อหลังขวาแตก จอดข้างทางจะเปลี่ยนล้อยางอะไหล่ จังหวะที่ลงจากรถนายพีระพัฒน์เหลือบไปเห็นกระเป๋าอยู่ในพงหญ้าข้างทาง เดินเข้าไปดูใกล้ๆแล้วเรียกนายมงคลให้ช่วยกันดึงกระเป๋าขึ้นมา เมื่อเปิดออกดูก็ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อพบโครงกระดูกและหัวกะโหลกมนุษย์ยัดอยู่ในกระเป๋า ทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบพ.ต.ท.พรพรหม ม่วงบังยุง รอง ผกก.สส.สภ.ห้วยใหญ่ เผยว่า จากการตรวจสอบยังไม่สามารถระบุได้ว่าโครงกระดูกดังกล่าวถูกนำมายัดใส่กระเป๋าในสภาพใด จากการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางไม่พบคราบเลือดหรือน้ำเหลืองของซากศพ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นการนำกระดูกมนุษย์ที่แห้งแล้วมายัดใส่กระเป๋าก่อนจะนำมาวางทิ้งหรือไม่ ชุดสืบสวนจะเร่งแกะรอยไขปมปริศนาว่าโครงกระดูกดังกล่าวเป็นใครมาจากไหน เบื้องต้นจะนำโครงกระดูกทั้งหมดกลับไปไว้ที่โรงพักก่อนทำเรื่องส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ในวันรุ่งขึ้นขณะเดียวกันได้มีนายสุรศักดิ์ จำปาทอง อายุ 37 ปี ชาว ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมญาติๆ เดินทางมายังที่เกิดเหตุ สงสัยว่าโครงกระดูกที่พบอาจเป็นนายสิริศักดิ์ เฟื่องสูงเนิน อายุ 56 ปี พี่ชาย อาชีพช่างทาสี หายตัวไปจากบ้านตั้งแต่เดือน พ.ย.67 แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.สัตหีบ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. กระทั่งเห็นสื่อโซเชียลไลฟ์สดเจอโครงกระดูกมนุษย์ในกระเป๋าเดินทางเลยรีบมาดู ยังไม่มั่นใจว่าใช่พี่ชายหรือไม่ ตำรวจเชิญไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมสอบถามไปยังนายจ้างและเพื่อนร่วมงาน ปรากฏว่าได้รับการยืนยันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนมีคนเห็นนายสิริศักดิ์ พี่ชายของนายสุรศักดิ์ ขี่รถ จยย.อยู่ย่านกิโล 10 อ.สัตหีบ นายสุรศักดิ์และญาติๆขอกลับไปตรวจสอบก่อนว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากไม่พบตัวจะกลับมาตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับกระดูกที่พบและให้ข้อมูลกับตำรวจอีกครั้งต่อมาช่วงสายวันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดที่พบโครงกระดูกในกระเป๋าเดินทางถูกทิ้งไว้ในป่าข้างทาง นายอภินันท์ อ่อนคลาย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ห้วยใหญ่ เผยว่า จุดที่พบกระเป๋าเป็นช่วงเนินเขาชื่อเขาตั้งตุ่ม ในอดีต ถนนเส้นนี้ขึ้นชื่อว่าใครฆ่ากันตายก็จะนำศพมาทิ้งอำพรางคดีกันบริเวณนี้บ่อยครั้ง เนื่องจากค่อนข้างเปลี่ยวไม่ค่อยมีใครขับรถผ่าน เมื่อคืนที่ผ่านมาก็มาร่วมตรวจสอบพบว่าโครงกระดูกอยู่ในสภาพสมบูรณ์ครบเกือบทุกชิ้นและแห้งกรัง ไม่มีร่องรอยคราบน้ำเหลืองหรือคราบเลือด รู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงนำกระดูกมาไว้ในกระเป๋าก่อนเอาไปวางทิ้ง ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่มีลูกบ้านมาแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องกระเป๋าดังกล่าวส่วนที่ สภ.ห้วยใหญ่ พ.ต.ท.พรพรหม ม่วงบังยุง รอง ผกก.สส. นำทีมชุดสืบสวนตรวจสอบกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าวอีกครั้งเพื่อหาเบาะแสและต้นตอของที่มาของกระเป๋า พร้อมทั้งทำเอกสารส่งโครงกระดูกทั้งหมดไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจดีเอ็นเอและตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล พ.ต.ท.พรพรหม กล่าวว่า ตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นตำรวจจะเน้นเรื่องการตรวจสอบที่มาของกระเป๋าเดินทางใบนี้ว่ามาจากที่ใด และหาจุดเชื่อมโยงไปให้ถึงผู้เสียชีวิต ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากญาติมายืนยันว่าโครงกระดูกดังกล่าวเป็นของใคร เพื่อจะได้สอบสวนขยายผลทางคดี ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนทั่วไป หากใครสงสัยว่าเป็นญาติผู้ตาย หรือเคยพบเห็นกระเป๋าเดินทางหรือเสื้อผ้าในลักษณะดังกล่าว แจ้งข้อมูลมาที่ สภ.ห้วยใหญ่ ได้ตลอด 24 ชม.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่