เจ้าหน้าที่เชิญญาติผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุรถบัสไฟไหม้ รวม 26 ครอบครัว ประชุมเพื่อแจงเงินบริจาคกว่า 9 ล้านบาท มีมติกระจายเงินแบ่งเท่าๆกัน ส่วนคดีความตำรวจสอบปากคำ 30 ปาก มีผู้ต้องหา 3 คน และจะมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก คาดส่งฟ้องกลางเดือน พ.ย. ด้านอาการ ด.ญ. 3 คน ยังเฝ้าระวังแผลติดเชื้อ ขณะที่ ศธ.เสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ครู 2 คนที่เป็นข้าราชการ พร้อมขอเลื่อนเงินเดือน 3 ขั้น ส่วนครูฝึกสอนเสนออนุมัติปริญญาให้ภายหลังเสร็จสิ้นงานพระราชทานเพลิงศพส่งดวงวิญญาณครูและนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี รวม 23 ร่าง เหยื่อรถทัศนศึกษาไฟไหม้ พ่อแม่และญาติต่างร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ญาติเก็บอัฐิเตรียมไปลอยอังคารและประกอบพิธีทางศาสนาส่วนตัว ส่วนอาการ ด.ญ.ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน แพทย์ยังต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด ขณะที่กรมขนส่งทางบกเรียกตรวจรถบัสทั่วประเทศฟรี กำหนดตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 พ.ย.นั้นความคืบหน้า เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 9 ต.ค. ที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี บรรยากาศในช่วงเช้า ญาติผู้วายชนม์ไม่มีการทำบุญกระดูก เนื่องจากนายเนรมิตร ศรีเมือง และทีมสัปเหร่อทำพิธีแปรธาตุนำกระดูกมาปั้นผสมกับดินเหนียวเป็นรูปตุ๊กตาหรือคล้ายรูปคน และส่งให้ญาติผู้เสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แจ้งว่าการทำบุญอุทิศส่วนกุศลนั้นไม่จำเป็นต้องมาทำบุญร่วมกัน ส่วนพิธีลอยอังคารหรือตุ๊กตาที่แปรธาตุก็เช่นกัน สะดวกวันไหนสามารถทำได้เลยด้านแม่ครัวที่มาปรุงอาหารเปิดเผยว่า ช่วงเช้าหุงข้าวและเตรียมอาหารให้คนงานที่มาเก็บเต็นท์เท่านั้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครรักษาดินแดนจะมาช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้และทำความสะอาด ส่วนในช่วงบ่าย นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผวจ.อุทัยธานี เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดอุทัยธานีและคลังจังหวัดอุทัยธานี จะมาชี้แจงเรื่องยอดเงินบริจาคให้กับญาติผู้เสียชีวิตให้รับทราบ เป็นยอดหลังจากปิดบัญชีในเวลา 15.30 น. วันที่ 8 ต.ค.ต่อมาเวลา 14.00 น. น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วยนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผวจ.อุทัยธานี พล.ต.ต.ณรงค์เดชศ์ ศักดิ์สมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.อุทัยธานี น.ส.อรพิน ขัดผาบ คลังจังหวัดอุทัยธานี นายสนธิชัย จันทร์พานิช ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุทัยธานี นายปกรณ์ เทศทำนุ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดอุทัยธานี นายเกียรติก้อง นิ่มสาคร ผอ.สำนักงาน คปภ.อุทัยธานี เชิญญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย มารับฟังและหารือข้อสรุปเกี่ยวกับยอดเงินบริจาคที่ จ.อุทัยธานี เปิดช่องทางรับบริจาคเงินช่วยเหลือให้ผ่านช่องทางการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร และการมอบเงินบริจาคเป็นเงินสดผ่านทางคลังจังหวัดอุทัยธานี ระยะเวลาเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. ปิดบัญชีรับบริจาคลงเมื่อวันที่ 8 ต.ค.เวลา 15.30 น. รวมยอดเงินบริจาคจาก 2 ช่องทาง จำนวน 9,104,063.63 บาท แบ่งเป็นการโอนผ่านบัญชีธนาคารจำนวน 6,355,283.63 บาท และเงินสดผ่านทางคลังจังหวัดอุทัยธานี จำนวน 2,748,780 บาทในที่ประชุมมีมติว่า ครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวม 26 ครอบครัวมีมติเห็นพ้องต้องกันว่า ยอดเงินบริจาคที่ได้รับมาทั้งหมดก้อนนี้จะแบ่งกันแบบ 50 เปอร์เซ็นต์ คือแบ่งให้ครอบครัวผู้บาดเจ็บ 50 เปอร์เซ็นต์ และแบ่งให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 50 เปอร์เซ็นต์ รวมเฉลี่ยแล้วครอบครัวผู้เสียชีวิต 23 ราย จะได้รับเงินรายละ 197,914.42 บาท ส่วนครอบครัวผู้บาดเจ็บ 3 รายจะได้เงินเฉลี่ยแล้วรายละ 1,517,343.94 บาทที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 4 สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.หญิง สุเจตนา โสตถิพันธุ์ ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 พล.ต.ต.ยุทธนา จอมขุน ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีรถบัสไฟไหม้ ใช้เวลาประชุมกว่า 1.30 ชั่วโมงพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร.มอบหมายให้มาดูแลความเรียบร้อยของสำนวน พบว่า เรื่องสำนวนสอบปากคำไปแล้ว 30 ปาก ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไปแล้ว 3 ราย แต่ในวันนี้พิจารณาว่าจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกหลายราย ในการกระทำ ความผิดต่างๆหรือว่าการปกปิดการซ่อนเร้น หรือไม่ช่วยเหลือรวมทั้งการกระทำหลายๆอย่างที่เป็นความประมาท หรือพลั้งเผลอที่ความจงใจให้เกิดขึ้น พนักงานรวบรวมหลักฐาน คาดกลางเดือน พ.ย.จะส่งสำนวนส่งฟ้องตัวผู้ต้องหาสำหรับอาการ ด.ญ. 2 คนที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีหนังสือแจ้งว่า ใน ด.ญ.อายุ 7 ขวบ อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้าและลำตัว แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 13%) สัญญาณชีพปกติ ผู้ป่วยหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ สื่อสารความต้องการได้ เปลี่ยนการให้ยาแก้ปวดและยานอนหลับจากทางหลอดเลือดดำเป็นการผ่านสายให้อาหารทางจมูก วางแผนถอดท่อช่วยหายใจในห้องผ่าตัดวันนี้ ผู้ป่วยรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี ปัสสาวะออกปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน มีไข้สูง ไม่พบตำแหน่งติดเชื้อแน่ชัด ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ เฝ้าระวังการติดเชื้อรุนแรงทีมศัลยแพทย์แจงแผลไม่มีการติดเชื้อ ทำการตัดหนังตายที่นิ้วมือขวา และทำแผลระบบปิดร่วมกันใส่เฝือกประคองมือและนิ้ว มีแผนทำการปะปลูกผิวหนังที่นิ้วมือสัปดาห์หน้า ทีมจักษุแพทย์แจ้ง หลับตาลืมตาตามสั่ง เปลือกตายุบบวม ไม่มีขี้ตา เยื่อรกและ corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แผนการรักษาวันนี้เข้าห้องผ่าตัดเปิดเยื่อตาและกระจกตา อาจจะพิจารณาปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด วางเยื่อหุ้มรกเพื่อกระตุ้นการหายของผิวเยื่อตาให้ดีขึ้น สรุปผู้ป่วยยังใส่ท่อช่วยหายใจ ให้อาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูก ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ มีแผนถอดท่อช่วยหายใจในห้องผ่าตัดวันนี้ การรักษาเป็นไปตามแผนส่วนของ ด.ญ.อายุ 9 ขวบ อาการทั่วไปไฟไหม้ใบหน้า คอ แขนและมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 30%) สัญญานชีพปกติ ผู้ป่วยยังคงหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ สื่อสารความต้องการได้ เปลี่ยนการให้ยาแก้ปวดและยานอนหลับจากทางหลอดเลือดดำเป็นการผ่านสายให้อาหารทางจมูก วางแผนถอดท่อช่วยหายใจวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.67) หลังจากเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำแผล รับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี ยังคงมีอาการไข้สูง ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง มีแผนถอดท่อช่วยหายใจหลังจากผ่าตัดวันนี้ทีมศัลยแพทย์แจ้งว่า วันนี้ไข้ลดลง ตอบสนองต่อยาฆ่าเชื้อดี จะเข้าห้องผ่าตัดร่วมกับจักษุแพทย์ ทำการลอกเนื้อเยื่อส่วนบนของแผลออก เพื่อเร่งการสร้างผิวหนังทดแทน ทีมจักษุแจ้งว่า หลับตาลืมตาตามสั่ง เปลือกตายุบบวม ไม่มีขี้ตา ตาขวาเยื่อรกเริ่มละลาย กระจกตาด้านบนใสขึ้นมาก เห็นรายละเอียดของม่านตามากขึ้น ตาซ้าย เยื่อรกและ corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แผนการรักษา วันนี้เข้าห้องผ่าตัดเพื่อประเมินเยื่อบุตาและกระจกตา อาจจะพิจารณาปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด วางเยื่อหุ้มรก เพื่อกระตุ้นการหายของผิวเยื่อตาให้ดีขึ้น สรุปผู้ป่วยยังใส่ท่อช่วยหายใจ ให้อาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง มีแผนถอดท่อช่วยหายใจหลังจากผ่าตัดวันนี้สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ถึงอาการของเด็กหญิงอายุ 14 ปี ว่า จากการตรวจรักษาวันที่ 9 ต.ค. พบว่าอาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้ทั้งหมดดีขึ้น ตอบสนองต่อการรักษา ไม่พบการติดเชื้อ ไม่มีปัญหาข้อติดยึด สามารถใช้งานมือและแขนทั้ง 2 ข้างได้ปกติ อารมณ์คงที่ ผ่อนคลายมากขึ้น นอนหลับได้ ทั้งนี้ ทีมจิตเวชจะประเมินจิตใจผู้ป่วยและญาติอย่างต่อเนื่อง สรุปผลการรักษาเป็นที่พึงพอใจของทีมแพทย์ขณะที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสรุปการดำเนินการช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัวนักเรียนและครูที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุรถบัสทัศนศึกษานักเรียนไฟไหม้ของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ตนมอบหมายให้สำนักงานปลัด ศธ.ทำหนังสือขอบคุณหน่วยงานที่เข้ามาร่วมช่วยเหลือจัดงานศพของนักเรียนและครูที่เสียชีวิตให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขณะเดียวกันมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นเจ้าภาพวางแผนจัดกิจกรรมโครงการช่วยเหลือให้แก่โรงเรียน และการสร้างอนุสรณ์สถาน ปรับปรุงสนามเด็กเล่นในโรงเรียน เพราะมองว่านักเรียนและครูของโรงเรียนนี้ยังต้องการกำลังใจและการช่วยเหลือ เพื่อให้สภาพจิตใจกลับมาดีขึ้นตามปกติ ส่วนเรื่องเงินเยียวยาช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวนักเรียนและครูที่เสียชีวิตนั้น ล่าสุดยอดการช่วยเหลือมีจำนวน 2.4 ล้านบาท ส่วนเงินบริจาคกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยของ สพฐ. ขณะนี้มียอดเงินจำนวน 2.5 ล้านบาทรมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังให้ สพฐ.เสนอเรื่องขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ครู 2 คนที่เป็นข้าราชการ พร้อมขอเลื่อนเงินเดือน 3 ขั้น ขณะนี้ส่งเรื่องไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว รวมถึงให้สำนักงานลูกเสือแห่งชาติมอบเหรียญลูกเสือสดุดีให้แก่ครูทั้ง 3 รายที่เสียสละชีวิตดูแลนักเรียนจนวินาทีสุดท้ายด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู ส่วนนักศึกษาฝึกสอนคือ น.ส.สริญญา หอมเกสร ทางสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อนุมัติปริญญาให้เป็นผู้สำเร็จการศึกษาเป็นกรณีพิเศษด้วยเช่นกัน สำหรับนักเรียนที่รอดชีวิตและยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 3 รายนั้น รับรายงานว่า อาการของนักเรียนดีขึ้นตามลำดับ แพทย์เจ้าของไข้ดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ของเขตพื้นที่กำกับดูแลอำนวยความสะดวกให้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ศธ.จะดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 รายดังกล่าวด้วย เพราะทราบว่าพ่อแม่ต้องลางานมาเฝ้าบุตรหลานของตัวเองทำให้สูญเสียรายได้ ดังนั้น จะดำเนินการชดเชยในส่วนนี้ให้อย่างเต็มที่อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่