เป็นข่าวน่าสนใจ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดฯ ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับ รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เปิดโครงการนำร่องกับแนวคิดผลักดันการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติด ประเภทแอมเฟตามีน ด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย ที่หอประชุมชุณหะวัณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่มี นายยงยุทธ สวนทอง รอง ผวจ.นครปฐมพล.ต.ต.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ รอง ผบช.รร.นรต. หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆในจังหวัดนครปฐม นายกเทศมนตรี ผู้บริหารท้องถิ่นฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. สาธารณสุขชุมชน เข้าร่วมงานโครงการนี้ต่อยอดจาก “นครพนมโมเดล” ที่นำเอายาไทยสมุนไพรไทย การบำบัดทางแพทย์มาใช้ มองผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัด ให้หายจากยาเสพติด สอนผู้ป่วยให้เรียนรู้สภาวะจิตของตัวเอง การรู้จักตัวตน การเห็นคุณค่าของตัวตนและบำบัดจิตใจด้วยสมาธิ การสวดมนต์ การทำให้จิตมีความสุข การใช้ดนตรี ศิลปะบำบัดโปรแกรม “นวัตกรรมสุขภาพ”แม้ว่าโมเดลความสำเร็จ ทั้งคลินิกอบอุ่น 3 จังหวัดในนครพนม มุกดาหารและหนองบัวลำภู พบว่าลดการติดยาเสพติดลงได้ทั้งปัสสาวะและในเลือด ด้วยหลักการล้างพิษด้วยสมุนไพร ออกกำลังกาย การใช้จิตบำบัดแต่การอบรมทั้งสามครั้งยังไม่สามารถทำได้เต็มรูปแบบ โครงการนำร่องฯ ครั้งนี้ ได้ปรับข้อบกพร่องจากครั้งก่อนๆ เพื่อให้โปรแกรมนี้มีประสิทธิผลในเชิงประจักษ์ มีความสมบูรณ์ตอบโจทย์ให้ประเทศ สามารถนำไปใช้ได้จริงในระยะยาว มีผลวิจัยรองรับตามหลักสากลโครงการวิจัยครั้งนี้ได้ทำการศึกษาประสิทธิผล และความปลอดภัยการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย เปรียบเทียบผลตรวจห้องปฏิบัติการก่อนและหลังเข้ารับบำบัดเพื่อเปรียบเทียบค่าคะแนนความเข้มแข็งทางใจในการเลิกเสพยาเสพติด และคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยยาเสพติด ก่อนและหลังเข้ารับการบำบัดรักษาอาการเสพยาเสพติดมีการติดตามการติดซ้ำของผู้ป่วยยาเสพติด หลังเข้าร่วมการบำบัด พร้อมจัดทำคู่มือบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย มีผู้ป่วยยาเสพติด 30 คน สมัครใจจะเข้ารับการบำบัดรักษาเป็นการขยับงานยาเสพติดต่อเนื่องของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน นำความสำเร็จของ “โมเดลนครพนม” นำมาเพื่อใช้ในการบำบัดฟื้นฟู ผู้เสพร่วมกับหน่วยงานส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องทำการวิจัย บำบัดเต็มรูปแบบ รูปแบบโมเดลถูกนำมาใช้เพื่อขยายต่อไปยังพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศแก้ปัญหาผู้เสพยาของไทย.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม