ตามลากคอทันควัน โจรโหดย่องทุบหัวชิงทรัพย์นายก อบต.ปางตาย ขณะนอนเล่นริมชายหาดชะอำตอนกลางดึก หลังนำคณะเดินทางจากพิจิตรมาสัมมนาที่เพชรบุรี กินเลี้ยงกันเสร็จแยกย้ายเข้าห้อง เจ้าตัวนอนไม่หลับออกไปเดินเล่นริมทะเลเพียงลำพัง เผลองีบหลับบนเตียงผ้าใบชายหาดตกเป็นเหยื่อคนร้ายกระหน่ำทุบหัวแตก ใบหน้ายับ แล้วชิงโทรศัพท์กับเงินสดเผ่นหนี ตำรวจแกะรอยสัญญาณมือถือที่ถูกเอาไปขายก่อนตามรวบตัวคนร้ายเป็นชายเร่ร่อน สารภาพย่องเข้าไปค้นตัวคนเจ็บขณะงีบหลับหวังขโมยทรัพย์สินแต่เจ้าตัวสะดุ้งตื่นเลยคว้าท่อนเหล็กเสียบร่มหวดไม่ยั้งนายก อบต.ตกเป็นเหยื่อโจรโหดย่องทุบหัวชิงทรัพย์ขณะนอนเล่นริมชายหาดเปิดเผยเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 25 เม.ย. พ.ต.ท.ธวัชชัย ขุนเอม รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนถูกชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ บริเวณเตียงผ้าใบชายหาด ริมทะเลชะอำใต้ หน้า โรงแรมนิพนธ์รีสอร์ต รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังตำรวจพร้อมทีมกู้ชีพกู้ภัยไปให้ความช่วยเหลือที่เกิดเหตุพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บคือนายสมมาศ วรรณทิพภากรณ์ อายุ 58 ปี นายก อบต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 1 ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ถูกของแข็งตีศีรษะและใบหน้าเลือดอาบ นอนหมดสติอยู่บนพื้นทรายข้างเตียงผ้าใบชายหาดที่ล้มอยู่ มีรอยเลือดสาดกระเซ็นบนเก้าอี้และที่พื้นทรายจำนวนมาก พบสร้อยพระและซองโทรศัพท์มือถือตกอยู่ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ช่วยกันปฐมพยาบาลคนเจ็บแล้วรีบนำส่ง รพ.ชะอำ ถูกนำส่งต่อ รพ.พระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี แพทย์ตรวจอาการคนเจ็บถูกตีเข้าที่บริเวณศีรษะ แขน กระดูกใบหน้าแตก จมูกหัก ศีรษะบวม แก้มปูด ฟันหัก แผลที่ใบหน้าเย็บ 33 เข็ม ศีรษะ 9 เข็ม ทำทีซีสแกนพบว่ามีเลือดออกในสมองเป็นจำนวนมาก อยู่ในอาการสาหัสต่อมาผู้สื่อข่าวไปที่ รพ.พระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี พบ น.ส.วิสสุตา วรรณทิพภากรณ์ อายุ 23 ปี ลูกสาวผู้บาดเจ็บที่เดินทางจาก จ.พิจิตร มาเฝ้าอาการพ่อที่หน้าห้องไอซียูเผยว่า พ่อเดินทางมาสัมมนาศึกษาดูงานกับคณะ อบต.บางไผ่ รวม 44 คน พักที่โรงแรมนิพนธ์รีสอร์ต อยู่ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ หลังการสัมมนาและกินเลี้ยงกันเสร็จเวลาประมาณ 4 ทุ่ม พ่อบอกว่านอนไม่หลับจึงเดินออกจากรีสอร์ตที่พักข้ามถนนไปที่ชายหาดเพียงลำพัง เพื่อถ่ายรูปและชมทะเลยามค่ำคืน จากนั้นเผลองีบหลับบนเตียงผ้าใบ มารู้สึกตัวอีกที่ก็ถูกทำร้ายและอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว พ่อยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร หลังเกิดเหตุโทรศัพท์มือถือและเงินสดหายไป คาดว่าคนร้ายก่อเหตุเพื่อชิงทรัพย์ นางรัชดา สีชัง อายุ 61 ปี พี่สาวคนเจ็บที่เดินทางมาร่วมสัมมนาด้วยเล่าว่า นายสมมาศ น้องชาย เป็นนายก อบต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร นำคณะ อบต. รวม 44 คน เดินทางมาสัมมนาศึกษาดูงานที่ จ.เพชรบุรี หลังสัมมนาเสร็จแล้วก็กินเลี้ยงกันตามปกติ กระทั่งงานเลี้ยงเลิกประมาณ 22.00 น.ทุกคนแยกย้ายกลับเข้าห้อง น้องชายนอนคนเดียว ไม่คิดว่าจะลงไปที่ชายทะเลเพียงลำพังจนเกิดเหตุร้ายขึ้นสอบถามนางจันทร์แรม งอนวิจิตร อายุ 55 ปี เจ้าของเตียงผ้าใบเล่าว่า ไม่ทราบเรื่องเนื่องจากช่วงกลางคืนไม่มีคนเฝ้าบริเวณเตียงผ้าใบชายหาด และไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า หลังเลิกจากงานเลี้ยงที่รีสอร์ต คนเจ็บมานั่งเล่นที่ชายหาดเพียงลำพัง ด้วยความมึนเมาสุราทำให้เผลอหลับอยู่บนเตียงผ้าใบ คนร้ายผ่านมาเห็นเลยย่องเข้าไปใช้ของแข็งกระหน่ำทุบศีรษะและใบหน้าอย่างแรงจนร่วงตกพื้นบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือและเงินสดหลบหนีไป ตำรวจพบรอยรองเท้าเหยียบย่ำบนผืนทรายหลายรอย เป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจมีมากกว่า 1 คน ชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดละแวกใกล้เคียงเร่งหาเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไปช่วงเย็นวันเดียวกัน หลังจากตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชะอำ กระจายกำลังออกสืบสวนหาเบาะแสจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ เป็นชายเร่ร่อนชื่อนายเชาว์เลิศ ธนวราทร อายุ 35 ปี ชาว อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือของนายก อบต.ผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของคนเจ็บที่ถูกคนร้ายชิงไป จนกระทั่งไปพบว่าอยู่ที่ร้านขายโทรศัพท์แห่งหนึ่งในตัวเมืองชะอำ ไปสอบถามเจ้าของร้านทราบว่ามีชายเร่ร่อนนำโทรศัพท์มาขาย ตำรวจตามไปจับกุมตัวได้ที่เพิงพักในป่าละเมาะริมถนน เจ้าลาย ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุต่อมา พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ พร้อมพนักงานสอบสวนเข้าร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุดื่มเหล้าเมาเดินเตร็ดเตร่หาเก็บขวดตามกองขยะริมชายหาด เห็นคนเจ็บนอนหลับอยู่บนเตียงผ้าใบเพียงลำพัง ย่องเข้าไปค้นตัวเพื่อจะหาทรัพย์สิน คนเจ็บสะดุ้งตื่นเลยคว้าท่อนเหล็กเสียบค้ำร่มชายหาดกระหน่ำฟาดที่ศีรษะและใบหน้าจนหมดสติ แล้วล้วงเอาโทรศัพท์มือถือกับเงินสด 500 บาท ในกระเป๋าหลบหนีไป เอามือถือไปขายก่อนจะถูกตำรวจตามจับกุมได้อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่