หนึ่งในความพยายามระดับนานาชาติในการค้นหาดาวเคราะห์น้อยที่อาจพุ่งชนโลก ก็คือในปี 2559 มีการค้นพบดาวเคราะห์น้อยคาโมโออาเลวา (Kamo’oalewa) คาดว่ามีเส้นผ่าศูนย์กลาง 40–100 เมตร และหมุนเร็วมากสำหรับสถานะดาวเคราะห์น้อย จากนั้นในปี 2564 ทีมนักวิทยาศาสตร์อีกทีมก็พบหลักฐานบ่งชี้ว่าองค์ประกอบของคาโมโอเอเลวาคล้ายคลึงกับหินที่พบในดวงจันทร์บริวารของโลกล่าสุดมีทีมนักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์นานาชาติทีมเล็กๆ รายงานลงวารสาร Nature Astronomy เผยพบหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีที่ว่าดาวเคราะห์น้อยคาโมโออาเลวาพุ่งออกมาจากดวงจันทร์ หลังทำการศึกษาดาวเคราะห์น้อยในวงกว้างและสถานที่ที่เป็นไปได้บนดวงจันทร์ ที่ดาวเคราะห์น้อยคาโมโออาเลวาอาจจากมา ทีมได้สร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อเลียนแบบการชน ที่อาจส่งผลให้ชิ้นส่วนของพื้นผิวดวงจันทร์ขนาดเท่าดาวเคราะห์น้อยคาโมโออาเลวากระเด็นออกสู่อวกาศ จนทีมสามารถประเมินขนาดที่เป็นไปได้ของดาวเคราะห์น้อยดวงอื่นที่จะพุ่งชนดวงจันทร์ โดยหลังจากนั้นก็จะเกิดขนาดของหลุมอุกกาบาตที่ทิ้งไว้นักวิทยาศาสตร์ยังตั้งข้อสังเกตว่า การชนดังกล่าวจะต้องเกิดขึ้นไม่นานมานี้ ทีมยังเปรียบเทียบตัวอย่างวัสดุดวงจันทร์ที่นำกลับมายังโลก ตรวจสอบพบความคล้ายคลึงกันทางสเปกตรัมระหว่างตัวอย่างของหลุมอุกกาบาตจิออร์ดาโน บรูโน กับดาวเคราะห์น้อยคาโมโออาเลวา โดยทั้ง 2 ยังมีแร่ไพรอกซีน (pyroxen) อยู่ในนั้นด้วย.(Credit : Nature Astronomy (2024). DOI: 10.1038/s41550-024-02258-z)อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่