รวบแล้ว “ตาล” สาวไทย 1 ในทีมฆ่าหนุ่มไต้หวันทิ้งศพอำพรางคดี หลังหนีไปกบดานอยู่ที่กาสิโนแห่งหนึ่งในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา ตำรวจไทยเข้าไปรับตัวสอบเครียดร่วม 5 ชม. เชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญคลี่คลายคดี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 คน พบข้อมูลชาวไต้หวัน 3 คนยังอยู่ที่เขมร ส่วนอีก 1 คนหนีกลับประเทศไปแล้ว ขณะที่คน ขับรถตู้ส่งแก๊งทมิฬไปที่ชายแดน และอดีตเจ้าของปืน .45 ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับคดีตำรวจเร่งไล่ล่าแก๊งทมิฬชาวไต้หวันและสาวไทยรวม 5 คนประกอบด้วยนายหลิน กวาง หยุ่น อายุ 26 ปี นายโฉ ยู่ ฟาย อายุ 25 ปี นายหวัง คง เต่ง อายุ 42 ปี นายสู้ ฟง หยอน อายุ 33 ปี และ น.ส.ปิยานุช หรือตาล ธรรมรัตน์ อายุ 22 ปี ร่วมกันฆ่านายฉี โหมว เชียง อายุ 44 ปี ชาวไต้หวันที่บ้านเช่าในหมู่บ้านอารียา เดรี่ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. แล้วนำศพไปทิ้งที่ร้านอาหารร้างริมถนนในสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ จากนั้นรวมตัวขึ้นรถตู้หนีไปที่ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ใช้พาสปอร์ตเดินทางออกไปประเทศกัมพูชา ตำรวจตั้งปมสังหาร 3 ประเด็นประกอบด้วย ขัดแย้งธุรกิจสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด และเรื่องชู้สาวความคืบหน้าเช้าวันที่ 27 ก.พ. พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จ.สระแก้ว กล่าวว่า คืนวันที่ 26 ก.พ. รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ตม.ปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ตำรวจกัมพูชาจับกุม น.ส.ปิยานุช หรือตาล ธรรมรัตน์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายฉี โหมว เชียง ชาวไต้หวัน หลบหนีอยู่ที่บ่อนกาสิโนแห่งหนึ่งในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 27 ก.พ. ตำรวจกัมพูชาพร้อมด้วยตำรวจ บก.สส.ภ.จ.สมุทรปราการ นำตัว น.ส.ปิยานุช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 176/2567 ลงวันที่ 26 ก.พ.2567 กระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา นำตัวมาสอบสวนที่ห้องประชุม ศปก.ตม.จ.สระแก้ว ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้าราชอาณาจักร ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้วจากนั้นตำรวจสอบสวน น.ส.ปิยานุชหาข้อมูลการก่อเหตุฆาตกรรมเพื่อนำไปขยายผลใช้เวลากว่า 5 ชม. จากนั้นเวลา 12.30 น. ตำรวจชุดสืบสวนบก.สส.ภ.จ.สมุทรปราการ และตำรวจ ตม.จ.สระแก้ว คุมตัว น.ส.ปิยานุชขึ้นรถเก๋งตรวจการณ์ของ ตม.จ.สระแก้ว นำไปส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ขณะนั้นนางสมพร บุญมี อายุ 50 ปี แม่ของ น.ส.ปิยานุชทราบข่าวว่าลูกสาวถูกจับกุม เดินทางมาเพื่อขอพบและเยี่ยมลูกสาวที่บริเวณตู้ตรวจยานพาหนะ ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าพบเนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนด้าน พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ทางการกัมพูชาจับกุม น.ส.ปิยานุช ธรรมรัตน์ อายุ 22 ปี เจ้าของรถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง ทะเบียน 3 ขฌ 9453 กรุงเทพมหานคร 1 ในทีมร่วมฆ่าหนุ่มชาวไต้หวัน ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เพราะเชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายคดี ไม่ว่าจะเป็นมูลเหตุจูงใจหรือบุคคลที่ร่วมช่วยเหลือและก่อเหตุทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 คนยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุม ทราบว่าชายไต้หวัน 3 คนยังกบดานอยู่ในประเทศกัมพูชา ส่วนอีก 1 คนเดินทางต่อไปยังไต้หวันแล้ว ตำรวจอยู่ระหว่างประสานทางการไต้หวันติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนผู้ที่ให้การช่วยเหลืออีก 1 คน ที่ทำหน้าที่ขับรถตู้รับจ้างรับกลุ่มผู้ต้องหาไปส่งที่ชายแดน ตำรวจคุมตัวไว้สอบสวนแล้วอยู่ระหว่างสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าเพียงไปรับและส่งที่ชายแดนเท่านั้นต่อมาเวลา 14.00 น. นายธนพล ปฏิมาประกร อายุ 52 ปี เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจพบกล่องใส่ปืนอยู่ในรถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง เป็นรถที่ผู้ต้องหาขับนำศพไปทิ้งอำพราง ปรากฏเลขทะเบียนปืน .45 มีนายธนพลเป็นผู้ครอบครอง ภายหลังการสอบสวนเสร็จนายธนพลเปิดเผยว่า เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลและแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังทราบว่า ปืนแบบออโตเมติก .45 กระบอกนี้เกี่ยวข้องกับคดี ตนขายปืนกระบอกนี้ให้กับร้านจำหน่ายปืนแห่งหนึ่งไปเมื่อเดือน ต.ค.2566 ในราคา 40,000 บาท การซื้อ-ขายถูกต้องตามกฎหมาย กระทั่งตำรวจติดต่อแจ้งว่า ปืนกระบอกนี้เป็นปืนที่ใช้สังหารชายชาวไต้หวัน ตนเดินทางมาให้ข้อมูล ทั้งนี้ ไม่มีความหนักใจยืนยันว่า การซื้อ-ขายถูกต้องและไม่เกี่ยวข้องกับคดีฆ่าขณะที่ตำรวจตรวจยึดส่วนรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีขาว ทะเบียน 4 กฌ 6103 กรุงเทพมหานคร ที่ผู้ตายขโมยมาจากเพื่อนชาวไต้หวันที่พัทยา จอดอยู่ที่ปั๊ม ปตท.ปากทางเข้าหมู่บ้านอารียา ย่านลาดปลาเค้า เขตลาดพร้าว กทม. นำมาไว้ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต่อมาเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคุมตัว น.ส.ปิยานุช หรือตาล ธรรมรัตน์ เดินทางมาถึง สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนเข้าห้องสอบสวน น.ส.ปิยานุชเปิดเผยว่า ตนเป็นแฟนกับนายหวัง คง เต่ง อายุ 42 ปี 1 ในกลุ่มผู้ต้องหา คืนวันเกิดเหตุนอนที่บ้านอยู่บนชั้น 3 ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในบ้านไม่กล้าลงมาดู หลังเกิดเหตุตนไม่ทราบว่านายหวังยิงใครและขับรถเก๋งมาสด้า 2 ของตนนำศพไปทิ้งที่ไหน กระทั่งนายหวังกลับมาบ้านบอกให้เก็บเสื้อผ้าหนีไปประเทศกัมพูชา มาทราบเกิดเรื่องร้ายแล้ว จังหวะนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร ด้วยความกลัวเดินทางตามไปด้วย ส่วนประเด็นการก่อเหตุฆ่า ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องชู้สาว และไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ตาย น่าจะเป็นเรื่องขัดแย้งธุรกิจ ไม่รู้ธุรกิจเกี่ยวกับอะไรอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่