ตำรวจบุกเรือนจำสอบเพิ่ม “ช่างกิต” กับ 2 ลูกสมุนร่วมทีมอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน ไขความกระจ่าง ก่อนอุ้มเหยื่อได้บอกผู้ร่วมก่อเหตุหรือไม่ว่าจะพาไปฆ่า สอบได้คนเดียว “โอ๊ต” ก่อนได้ประกันตัวถูกเค้นถามทำตีมึนตอบแค่ “ไม่รู้ จำไม่ได้” ตำรวจเหนื่อยฟรีไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดี ผู้การแปดริ้วแย้มรู้ตัวแล้ว 2 คนที่ช่วยกันมัดมือมัดเท้าผู้ตาย 1 ใน 2 เปิดปากสารภาพแล้วด้วย ปัดให้ข้อมูลสื่อเรื่องดีเอ็นเอบนเส้นเชือกมัดศพยังไม่ได้รายงานเอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการจากสถาบันนิติเวช พนักงานสอบสวนเรียกสอบเพิ่ม “นิว” เช็กไทม์ไลน์สถานที่กับพยานหลักฐาน ส่วนน้องชายช่างกิตเข้าให้ข้อมูลย้ำไม่รู้เรื่องพี่ชาย ยังไม่ได้ไปเยี่ยมที่เรือนจำขอส่งกำลังใจให้อย่างเดียวพอตำรวจยังเร่งเดินหน้าสอบสวนคดีอุ้มฆ่านายธนาสันต์ หรือใหม่ เตอั้น อายุ 33 ปี หนุ่มโรงงาน ถูกจับมัดมือมัดเท้าจ่อยิงทิ้งศพริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หลังจับกุมผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย นายกิตติโชติ หรือช่างกิต แพไพรมูล อายุ 37 ปี คู่กิ๊กของ น.ส.วรรณพร หรือพร หลักแหลม อายุ 33 ปี ภรรยาผู้ตาย นายนันทพัทธ์ หรือโอ๊ต พุทธ อายุ 23 ปี หลานช่างกิต นายปานเทพ หรือแท็ป บุหรี่ทอง อายุ 29 ปี น.ส.อภิสรา หรือนิว ผ่องจำปา อายุ 22 ปี แฟนสาวของนายแท็ป และนายสุขสงกรานต์ หรือกาน จันแดง อายุ 24 ปี ทั้งหมดถูกแจ้งหลายข้อหาหนักนำตัวไปฝากขังต่อศาลถูกส่งเข้าเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ต่อมาผู้ต้องหาได้ประกันตัว 2 คนคือนายปานเทพ และ น.ส.อภิสรา ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าไปสอบปากคำช่างกิตในเรือนจำเพื่อไขความกระจ่างของคดีก่อนจะสรุปสำนวนให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ความคืบหน้าของคดีที่ สภ.บางปะกง เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ก.พ. ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ลิ้นทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง ได้เชิญ น.ส.อภิสรา หรือนิว ผ่องจำปา อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ได้ประกันตัว มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ทั้งประเด็นเรื่องไทม์ไลน์ในวันเกิดเหตุ สถานที่ และพยานหลักฐานต่างๆ ใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 5 ชม. กระทั่งเวลา 14.00 น. น.ส.อภิสรา เดินออกมาจากห้องสอบสวนพร้อมกับแม่ เจ้าตัวยังมีสีหน้ายิ้มแย้มแต่ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน จากนั้นรีบเดินออกจากโรงพักไปขึ้นรถยนต์ที่มารอรับกลับไปทันทีขณะเดียวกันตำรวจเชิญตัวนายพัน น้องชายช่างกิต ผู้ต้องหาคนสำคัญ เข้าให้ข้อมูลด้วยเช่นกัน นายพันเผยว่า มาให้ปากคำตำรวจเป็นข้อมูลตามที่เคยให้สื่อมวลชนไปแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เจอกับช่างกิตตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.แล้ว ช่างกิตไม่เคยมาปรึกษาอะไรและตนก็ไม่รู้ว่าช่างกิตไปดูลาดเลา 1 วันก่อนลงมือก่อเหตุ จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยมพี่ชายในเรือนจำ เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงช่างกิตหรือไม่ นายพันกล่าวว่า ขอให้กำลังใจอย่างเดียวที่เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 15.30 น. พ.ต.อ.สุพน แสงทอง ผกก.สอบสวน ภ.จ.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.พงศ์สัณห์ มีศรี ผกก.สภ.บางปะกง พ.ต.ท.ชิณพัฒน์ พุทธเมตตา รอง ผกก.สืบสวน ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ลิ้นทอง รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 5 นาย เข้าไปสอบปากคำนายกิตติโชติ หรือช่างกิต แพไพรมูล รวมทั้งนายนันทพัทธ์ หรือโอ๊ต และนายสุขสงกรานต์ หรือกาน เพิ่มเติมในบางประเด็นที่ต้องทำให้กระจ่างเพื่อยืนยันอีกครั้งว่าก่อนไปนำตัวผู้ตายมา ช่างกิตได้แจ้งให้ผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นๆรู้หรือไม่ว่าจะนำตัวไปสังหารโหดส่วนการยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาอีก 2 คนคือนายโอ๊ต และนายกาน ญาติเดินทางมาที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อยื่นหลักทรัพย์ในการประกันตัว โดยศาลตีราคาประกันคนละ 800,000 บาทเท่ากับ 2 ผู้ต้องหาที่ได้ประกันไปก่อนหน้า ปรากฏว่านายโอ๊ตได้ประกันตัวเพียงคนเดียวเพราะหาหลักทรัพย์มายื่นได้ครบ จากนั้นตำรวจศาลควบคุมตัวนายโอ๊ตออกจากเรือนจำมาที่ศาลเพื่อใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า ก่อนจะพากลับเรือนจำเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมต่อและปล่อยตัวในเวลา 19.00 น. ส่วนนายกาน ญาติยังหาหลักทรัพย์ไม่พอ ทำให้ต้องนอนคุกต่ออีก 1 คืน จะกลับไปรวบรวมหลักทรัพย์ให้ครบ 8 แสนบาทเพื่อนำมายื่นประกันใหม่อีกครั้งในวันที่ 13 ก.พ.ด้าน พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา เผยว่า จากข้อมูลแนวทางการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานยืนยันว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุเพียง 5 คน และตำรวจรู้แล้วว่าขณะเกิดเหตุมีคนช่วยกันมัดมือมัดเท้าด้วยกัน 2 คน โดย 1 ใน 2 ยอมรับสารภาพแล้ว ส่วนจะเป็นใครยังไม่ขอเปิดเผยชื่อว่าเป็นผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว หรือยังถูกคุมตัวในเรือนจำ วันนี้ตำรวจจะทำให้กระจ่างทั้งหมด หลังจากที่สอบปากคำแล้วเสร็จจึงจะสามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร ส่วนข้อมูลที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนให้ข่าว โดยเฉพาะประเด็นเรื่องดีเอ็นเอบนเส้นเชือกที่ใช้มัดมือมัดเท้าผู้ตาย ขณะนี้สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ยังไม่ได้รายงานเอกสารยืนยันมาอย่างเป็นทางการ จากเดิมที่กำหนดไว้เมื่อพฤหัสฯที่แล้ว รวมถึงดีเอ็นเอผู้ตายก็ต้องรอผลอย่างเป็นทางการเท่านั้นผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา เผยด้วยว่า วันนี้ทิศทางการทำคดี พนักงานสอบสวนได้เข้าไปสอบปากคำช่างกิตเพิ่มเติม หลังจากที่วันก่อนเข้าไปพูดคุยสืบสวนเพื่อให้เกิดความกระจ่าง ข้อมูลที่ได้มาตรงกับคำให้การครั้งแรก แต่มีบางประเด็นย่อยจะเข้าไปยืนยันอีกครั้งว่าก่อนไปนำตัวผู้ตายมา มีการแจ้งให้ผู้ร่วมก่อเหตุรู้หรือไม่ว่าจะนำมาฆ่า นอกจากนี้จะเข้าไปหารือกับอัยการว่า ข้อหาปล้นจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตทั้ง 2 ข้อหาครอบคลุมหรือไม่ จำเป็นที่จะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นเพิ่มอีก 1 ข้อหาด้วยหรือไม่ วันนี้ยังประสานนักประดาน้ำไปลงงมหาปืนของกลางในคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ โดยใช้เครื่องมือตรวจ หลังจากที่ค้นหาก่อนหน้านี้แต่ยังไม่พบต่อมาเวลา 19.00 น. หลังปล่อยตัวนายโอ๊ต ออกจากเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา คณะพนักงานสอบสวนที่เข้าไปสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาก็พากันออกมา หลังใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 3 ชั่วโมง พ.ต.อ.ชัยพร ทองนาเพียง รอง ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา เผยว่า วันนี้สอบปากคำผู้ต้องหาได้เพียงแค่รายเดียวคือนายโอ๊ตที่ได้ประกันตัว ส่วนช่างกิตตอนแรกตั้งใจว่าจะมาสอบปากคำ แต่เวลาในการสอบปากคำหมดก่อนจึงสอบเพียงแค่นายโอ๊ตเท่านั้น ส่วนนายกานก็ยังไม่ได้สอบปากคำเช่นกันรอง ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา เผยต่อไปว่า เบื้องต้นนายโอ๊ตไม่ได้ให้การถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก พอสอบถามถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องในคดี นายโอ๊ตบอกเพียงว่าไม่รู้และจำไม่ได้ เท่ากับวันนี้ต้องเหนื่อยฟรีที่มาสอบปากคำ ส่วนข้อมูลที่ช่างกิตซัดทอดว่ามีผู้ร่วมมือมัดเท้าเหยื่อ กับประเด็นแชตที่ยังเป็นปริศนาว่าใครเป็นคนพิมพ์ไปคุยกับพร รวมทั้งตอนนี้โทรศัพท์มือถือของใหม่อยู่ที่ไหน นายโอ๊ตไม่ได้ให้รายละเอียดอะไร บอกแต่เพียง “ไม่รู้” ยืนยันว่าตนนั่งสอบทั้งวันแต่ผู้ต้องหาไม่ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์ แต่ยืนยันเพียงว่านายโอ๊ตให้การว่าไม่ได้ถูกช่างกิตบังคับอะไร หลังจากนี้จะไปประชุมวางแผนกันอีกว่าจะเรียกนายโอ๊ตมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ส่วนประเด็นดีเอ็นเอบนเส้นเชือกที่มัดผู้ตาย ยืนยันว่าตนยังไม่เห็นผลตรวจดีเอ็นเออ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่