ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขยายผลปี 2565 ผู้เสียหายถูกกลุ่มคนร้ายใช้เฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดีเข้ามาพูดคุยตีสนิททำให้ผู้เสียหายเชื่อใจร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลผ่านเว็บไซต์ชื่อ CBOEX ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่กลุ่มคนร้ายปลอมขึ้นมาทั้งหมดเพื่อหลอกเหยื่อคนไทยคนร้ายหลอกผู้เสียหายโอนเหรียญดิจิทัลเข้ากระเป๋าเหรียญดิจิทัลกลุ่มคนร้าย 15 ครั้ง ความเสียหาย 13 ล้านบาท ปิดเว็บไซต์บล็อกทุกช่องทางติดต่อ ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท.พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งให้ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. สืบสวนพบว่า เครือข่ายนี้ไม่ธรรมดา เป็นกลุ่มแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติขบวนการใหญ่ แบ่งหน้าที่กันทำ มีหัวหน้าทำหน้าที่สั่งการ มีกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ทำหน้าที่ติดต่อพูดคุยและหลอกลวงเหยื่อคนไทย กลุ่ม “นายหน้า” จัดหาบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า กลุ่มบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้าทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีและกระเป๋าเงินดิจิทัลและกลุ่มที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน โดยนำเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงไปซื้อทรัพย์สินของมีค่าและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มีการเคลื่อนไหวและตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา เมื่อได้เงินจากการหลอกคนไทยนำมาฟอกเงิน มีคนไทยร่วมขบวนการเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนอยู่ภายในประเทศไทย เลี่ยงกฎหมาย จัดตั้งบริษัทนอมินีในไทย มีคนจีนร่วมคนไทยวางแผนดำเนินการตำรวจสอบสวนกลางใช้เวลาหลายเดือนรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดทั้งขบวนการพล.ต.ท.จิรภพ สั่งเปิด “ปฏิบัติการทวงคืนแผ่นดิน ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” Shutdown one billion Hybrid Scam ครั้งที่ 1 บก.ปอท. บก.ป. บก.ปอศ. ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน เจ้าหน้าที่อัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุด เจ้าหน้าที่ ปปง. สนธิกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ร่วมขบวนการชาวจีน กลุ่มผู้จัดหาและรวบรวมบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้าผู้บริหารดูแลเรื่องฟอกเงินขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติกลุ่มนี้ที่ตั้งตนเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผู้เสียหาย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 9 ราย ชาวจีน 2 ราย ชาวไทย 7 ราย หนึ่งในนั้นคือ น.ส.จักรีณา หรือ “กีกี้ แม็กซิม” ชุดสืบสวน บก.ปอท. เข้าตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท กก.1 บก.ปอท.ขยายผลต่อเนื่องพบกลุ่มคนร้ายมีรูปแบบการ “ฟอกเงิน” ยักย้ายถ่ายโอนเงินนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์บ้านหรู ลงทุนในธุรกิจเลานจ์ ร้านอาหารพื้นที่รัชดา ซอย 4 ย่านธุรกิจ มี น.ส.จักรีณา หรือ “กีกี้ แม็กซิม” ผู้ต้องหาที่ถูกจับเป็นเจ้าของ นายรวน หง หลิน สามี เป็นผู้บริหาร โดยธุรกิจมูลค่าลงทุนกว่า 200 ล้านบาทรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับที่มีส่วนเกี่ยวข้ององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเพิ่ม 4 ราย นายรวน หง หลิน และ น.ส.จ้าว เย่ สัญชาติจีน น.ส.ลาวัลย์ และ น.ส.สาวิตรีพล.ต.ท.จิรภพ สั่งให้ พล.ต.ต.อธิป พ.ต.อ.กฤษฎาพร ปานโปร่ง รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ ผกก.1 บก.ปอท. พ.ต.ท.ภัททสักก์ ธนสุกาญจน์ พ.ต.ท.ภานุภัทร กิตติพันธ์ รอง ผกก.1 บก.ปอท. ร่วมกับเจ้าหน้าที่อัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดปฏิบัติการเฟส 2 “ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และจ.สมุทรปราการ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 ราย นายรวน หง หลิน สัญชาติจีน สามี น.ส.จักรีณา หรือ “กีกี้ แม็กซิม” เป็นผู้รับผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมนำไปฟอกเงินรูปแบบธุรกิจผับบาร์ ร้านอาหารหรู น.ส.จ้าว เย่ สัญชาติจีน คนสนิทรับผลประโยชน์ตรงจากหัวหน้าองค์กรอาชญากรรม พบเงินหมุนเวียน 100 ล้านบาทน.ส.ลาวัลย์ ภรรยาชาวจีน ทำหน้าที่บัญชีม้ากระเป๋าเงินดิจิทัล รับจ้างแลกเงิน พบเงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท และ น.ส.สาวิตรี ทำหน้าที่บัญชีม้า กระเป๋าเงินดิจิทัล รับจ้างแลกเงิน ยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม 300 ล้านบาทกว่า 3 เดือน กก.1 บก.ปอท. สืบสวนสอบสวนนำไปสู่ปฏิบัติการ “ทวงคืนแผ่นดิน ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ทั้ง 2 เฟส ค้นจับกุมเครือข่ายกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ยึดทรัพย์สินตรวจสอบ 1,300 ล้านบาท บ้านหรู 19 หลัง เลานจ์ ร้านอาหาร มูลค่าลงทุน 200 ล้านบาท รถยนต์หรู 14 คัน เงินสด 6 ล้านบาท สร้อยคอทองคำ 10 รายการ นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนม คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมุดบัญชีธนาคาร หลายรายการ ทลายอีกเครือข่ายใหญ่ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” แก๊งต่างชาติหลอกลวงเหยื่อคนไทยพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “คดีนี้สืบสวนมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 ตำรวจสอบสวนกลางสืบสวนทุกมิติทั้งรูปแบบวิธีการ ขบวนการทำผิด เครือข่ายกลุ่มคนร้ายซึ่งเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ มีชาวจีนอยู่เบื้องหลังเป็นเจ้าของ นำมาสู่การเปิดปฏิบัติการทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ Shutdown one billion Hybrid Scam ครั้งที่ 1 วันที่ 30 ส.ค. จับผู้ต้องหายึดทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท สืบสวนขยายผลต่อร่วมกับอัยการและหน่วยงานเกี่ยวข้องนำมาสู่การออกหมายจับเพิ่ม 4 ราย คนไทย 2 ราย คนจีน 2 ราย เปิดปฏิบัติการครั้งที่ 2 ตามจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ตรวจค้นยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมผับจีนหรูย่านรัชดามูลค่ากว่า 200 ล้านบาท บ้านหรูอีกหลายหลัง รวมยึดทรัพย์สินเพิ่มอีก 300 ล้านบาท“เราจะไม่หยุดแค่นี้ จะขยายผลต่อไป ทั้งเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ เครือข่ายอื่นๆ จะเดินหน้าทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ฝากย้ำเตือนประชาชนว่าการยอมเปิดบัญชีม้าหรือซิมม้าเพื่อแลกกับเงินเพียง 1-2 พันบาท อาจจะไม่คุ้มกับการที่ต้องเสี่ยงกับการต้องโทษจำคุกสูงถึง 3-5 ปี ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566”อีกผลงาน ตำรวจสอบสวนกลาง ใช้ความเชี่ยวชาญ มืออาชีพ สืบสวนขยายผลทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติรายใหญ่ 2 ครั้ง ยึดทรัพย์ 1.3 พันล้าน แต่ยังไม่หยุดเท่านี้ พล.ต.ท.จิรภพสั่งลุยขยายผลไปให้สุดกับผู้ที่มาเกี่ยวข้อง เงินที่หลอกเหยื่อทำความเดือดร้อนให้คนไทย ต้องดำเนินคดีเด็ดขาด ยึดทรัพย์สินทั้งเครือข่าย...เป็นสิ่งที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)ยอมไม่ได้.ทีมข่าวอาชญากรรมคลิกอ่านคอลัมน์ “แกะรอยรอบสัปดาห์” เพิ่มเติม