ตำรวจน้ำจับมือตำรวจ ปส.บุกจับยาไอซ์ลอตใหญ่หนักกว่า 2 ตัน ลากคอผู้ต้องหา 11 คน ระหว่างลำเลียงลงเรือลากจูงเตรียมขับออกน่านน้ำสากล ทอดสมอเป็นคลังยานรก ให้เรือสินค้าร่วมขบวนการมารับไปขายตามจุดหมายประเทศต่างๆ ตั้งแต่ฟิลิปปินส์ไปจนถึงออสเตรเลีย เร่งขยายผลว่ายาไอซ์ส่งมาจากไหน ขบวนการใด และปลายทางผู้สั่งซื้อเป็นใคร ประเทศไหนบ้าง เพื่อออกหมายจับขุดรากถอนโคนขบวนการต่อไป อีกคดีกองปราบจับมือตำรวจยะลาล่อซื้อยาบ้าแก๊งค้ายาปัตตานี ไหวทันดวลเดือดสาดกระสุนใส่ตำรวจเจ็บ 2 นาย เพื่อนร่วมแก๊งเจ็บอีก 1 คน จับกุม 2 ผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 4 แสนเม็ดส่งดำเนินคดีตำรวจน้ำบุกจับยาไอซ์ลอตใหญ่ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน. พ.ต.อ.วัชชิรานนท์ นนท์นา ผกก.2 บก.รน. สถานีตำรวจน้ำศรีราชา สถานีตำรวจน้ำเกาะสีชังและชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ บก.รน. ร่วมกับตำรวจ บช.ปส. เปิดปฏิบัติการจู่โจมครั้งใหญ่ จับกุมขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดข้ามชาติ ผู้ต้องหาเป็นคนไทยรวม 11 คน ยึดยาไอซ์บริสุทธิ์ได้กว่า 2,000 กก. บริเวณท่าเรือ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทราปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจ บก.รน.และ บช.ปส.ได้รับข้อมูลจากสายลับว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดครั้งใหญ่ส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ด้วยการขนยาเสพติดผ่านทางเรือ บริเวณท่าเรือTNS Bangpakong jetty (ท่าเรือโรงเหล็ก) ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ประชุมวางแผนส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ เฝ้าจุดต้องสงสัยทั้งทางบกและทางน้ำ เวลาราว 22.00 น. พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเริ่มมีความเคลื่อนไหว ลำเลียงยาเสพติดมาทางรถบรรทุกทยอยขนลงเรือลากจูงขนาดใหญ่ชื่อ ศรีมงคลทรัพย์ หลังจากรอกลุ่มผู้ต้องหาทยอยขนยาเสพติดลงเรือจนหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดนำเรือ รน.66 บุกเข้าตรวจค้นจับกุมทันทีเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มผู้ต้องหากว่า 10 คนถึงกับแตกฮือ กระจายตัววิ่งหลบหนีบ้าง กระโดดลงน้ำบ้าง แต่กำลังชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ทั้งหมดรวม 11 คน กระจายกำลังตรวจค้นภายในเรืออย่างละเอียด พบของกลางยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้ท้องเรือรวมทั้งหมด 90 กล่องน้ำหนักรวมประมาณ 2,000 กก. อำพรางด้วยการบรรจุไว้ในถุงผลไม้อบแห้ง รายงานผลการปฏิบัติให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส. เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตรวจยึดของกลาง หลังจากนั้นช่วยกันคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. สอบสวนดำเนินคดีและขยายผลจากการสืบสวนพบว่า ยาไอซ์จำนวนมากลอตนี้ หลังจากลำเลียงขึ้นเรือลากจูงศรีมงคลทรัพย์แล้ว กลุ่มผู้ต้องหาเตรียมนำเรือออกไปจอดทอดสมอในน่านน้ำสากล เหมือนเป็นคลังกระจายสินค้า หลังจากนั้นจะมีเรือขนส่งสินค้าทยอยเดินทางมารับยาไอซ์ของกลางกว่า 2 ตันไปกระจายขายตามคำสั่งซื้อตามประเทศต่างๆ เบื้องต้นพบข้อมูลว่า ประเทศเป้าหมายยาไอซ์ลอตใหญ่ครั้งนี้ ไล่ไปตั้งแต่ประเทศฟิลิปปินส์ไปยันประเทศออสเตรเลีย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลถึงต้นทางของยาไอซ์ลอตใหญ่ครั้งนี้ว่ามาจากไหน เป็นของเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มใด และผู้ซื้อปลายทางเป็นใคร อยู่ประเทศใดบ้าง เพื่อออกหมายจับให้ถึงต้นตอ เพื่อขุดรากถอนโคนขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติรายนี้ต่อไปอีกคดีแก๊งยาบ้าเหิมยิงตำรวจเจ็บ 2 นายขณะล่อซื้อ เปิดเผยขึ้นช่วงกลางดึกวันเดียวกัน พ.ต.ท.อานนท์ ประดิษฐ์แสง รอง ผกก.สอบสวน หัวหน้า ชปส.ยะลา พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6บก.ป. นำกำลังร่วมกับตำรวจ ชปส.ภ.จ.ยะลา สืบสวนทราบว่า ในพื้นที่ จ.ปัตตานี มีขบวนการค้ายาบ้าก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เข้าล่อซื้อยาบ้า 2 แสนเม็ดจากกลุ่มค้ายาเสพติด นัดหมายส่งของกันบริเวณใต้สะพานลอยตันหยง ถนนสาย 42 หมู่ 1 ต.มะนังยง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานีถึงเวลานัดนายมาหามะ วาเด็ง อายุ 37 ปี และนายซูเฟียน สาแหละ อายุ 32 ปี ขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน ฒฌ 4748 กรุงเทพมหานคร มายังจุดนัดหมาย นายมาหามะจะเป็นคนเดินลงจากรถนำยาบ้า 2 แสนเม็ดมาส่งมอบให้กับสายลับ เมื่อตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าเป็นยาบ้าจำนวน 2 แสนเม็ดจริง จ.ส.ต.ยูโซ๊ะ แอดะสง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.โกตาบารู ช่วยราชการ ชปส.ภ.จ.ยะลา และ ส.ต.อ.สุรเชษฐ์ ป้องเศร้า ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป. ตัดสินใจแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม จังหวะนั้นนายซูเฟียนที่นั่งรออยู่ในรถกระบะไหวตัวทัน ชักปืนขนาด .45 ออกมายิงใส่ตำรวจชนิดไม่นับ ถูกบริเวณท้อง จ.ส.ต.ยูโซ๊ะ 1 นัด ถูกขาขวา ส.ต.อ.สุรเชษฐ์ 1 นัด และยังถูกที่เอวด้านหลังนายมาหามะ เพื่อนร่วมแก๊งของตัวเองอีก 1 นัด ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน กำลังชุดสืบสวนที่เหลือรีบบุกเข้าประชิดตัวจับกุมมือปืนรายนี้ไว้ได้ รีบแบ่งกำลังนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลส่วนกำลังที่เหลือคุมตัวนายซูเฟียน มือปืนเข้าตรวจค้นภายในรถกระบะของผู้ต้องหา พบยาบ้าเพิ่มเติมอีก 2 แสนเม็ด รวมตรวจยึดยาบ้าไว้ได้ทั้งหมด 4 แสนเม็ด เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดเพื่อการค้าฯ ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต คุมตัวพร้อมยาบ้าและปืนขนาด .45 ของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ดำเนินคดีที่ บช.ปส. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. กล่าวว่า ล่าสุดมีผู้ต้องหา 11 คนดำเนินการแจ้งข้อหาแล้ว 3 คนรับหน้าที่เป็นคนขับรถ ส่วนที่เหลืออีก 8 คน เป็นลูกเรือ นอกจากนี้หลบหนีอีก 2 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตามจับกุม ส่วนกระบวนการที่ทำให้เราจับกุมได้มาจากแผนตามล่า 100 เครือข่ายเกี่ยวข้องยาเสพติด การจับกุมครั้งนี้เป็นหนึ่งในแผนการปฏิบัติ การลำเลียงครั้งนี้เพื่อเตรียมนำไปจำหน่ายต่างประเทศ หลังจากนี้ต้องไปหารายละเอียดเพิ่มเติมว่า ทำไมเป็นจุดท่าเรือแห่งนี้ และขบวนการทั้งหมดเป็นอย่างไร ยืนยันว่ามีความคืบหน้าไปพอสมควร“ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ล้วนให้การปฏิเสธ แต่ต้องหาข้อมูลให้ได้ ส่วนต้นทางยาเสพติดปัจจุบันมี 2 ทาง ไม่ประเทศเพื่อนบ้านฝั่งซ้ายก็ฝั่งขวา สั่งการให้นำเรือของกลางไปจอดเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจน้ำ เรือลำนี้เพิ่งเจอเป็นครั้งแรกต้องขยายผลดูว่าเส้นทางการเดินเรือเป็นอย่างไร ส่วนคนที่รับหน้าที่ขนยาเสพติดมาคงจะปฏิเสธข้อกล่าวหาไม่ได้ เพราะของกลางมันอยู่บนรถอยู่แล้ว เป็นรถ 2-3 คัน การขนยาเสพติดทางเรือไม่ได้มีนัยใดเป็นพิเศษ เพราะถ้าต้องขนส่งไปยังประเทศอินโดนีเซียหรือประเทศออสเตรเลียต้องใช้เรือ วิธีการไม่ได้ทันสมัยแต่อาจซับซ้อนบ้าง เราต้องค่อยๆแกะรายละเอียด” ผบช.ปส.กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่