กรมอุทยานฯเร่งแก้ปัญหา “อิกัวน่า” หลุดเพ่นพ่านในธรรมชาติ สั่งห้ามนำเข้าทุกชนิด “อรรถพล” ชี้เป็น “เอเลียนสปีชีส์” หวั่นแพร่พันธุ์สร้างความเดือดร้อน ผู้ฝ่าฝืนเจอโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ล่าสุดไทยมีผู้ครอบครอง 244 ราย 3,419 ตัว “ชลบุรี” นำโด่ง ครอบครองมากสุดเกือบ 1 พันตัว ตามด้วยขอนแก่น กรุงเทพฯ สมุทรสาคร ยโสธร ส่วนที่ “คำชะโนด” พบมีการผสมพันธุ์กันจนออกลูกหลานแล้วจากกรณีมีการพบอิกัวน่าจำนวนมากอาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติใน 3 พื้นที่คือ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยไปกัดกินพืชผลทางการเกษตรของประชาชน สร้างความเดือดร้อนให้คนในพื้นที่อย่างมาก ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย. นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) เปิดเผยว่า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ได้ออกประกาศกรมอุทยานฯ เรื่องกำหนดชนิดสัตว์ป่าที่ไม่พิจารณาอนุญาตให้นำเข้าว่า ห้ามนำเข้าสัตว์ป่าที่ได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ วงศ์อิกัวน่า (Family Iguanidae) ลำดับที่ 640 อิกัวน่าทุกชนิดในสกุล Iguana (Iguana spp.) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพราะมีการพบอิกัวน่าจำนวนมากอาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศอิกัวน่าที่พบเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นจัดอยู่ในหมวด “เอเลียนสปีชีส์” ไม่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ขณะนี้ยังไม่ปรากฏสาเหตุที่แน่ชัดของการพบชนิดพันธุ์ดังกล่าวในธรรมชาติ ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้ปัญหาดังกล่าวขยายเพิ่มมากขึ้น จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 23 และมาตรา 116 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ประกอบกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 27 ก.ค.2565 เรื่อง กำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าควบคุม พ.ศ.2565 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะไม่พิจารณาอนุญาตให้นำเข้าสัตว์ป่าตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว เพื่อเป็นมาตรการควบคุมปริมาณภายในประเทศ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงอธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการครอบครองอิกัวน่าเขียว ปัจจุบันมีผู้แจ้งครอบครอง 244 ราย รวมทั้งสิ้น 3,419 ตัว โดย จ.ชลบุรี ครอบครองมากสุด 982 ตัว ขอนแก่น 443 ตัว กรุงเทพฯ 281 ตัว สมุทรสาคร 219 ตัว ยโสธร 200 ตัว ราชบุรี 136 ตัว นนทบุรี 132 ตัว เพชรบุรี 102 ตัว ปทุมธานี 97 ตัว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สำหรับการประกาศห้ามนำเข้าดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันและเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมประชากรอิกัวน่าที่ถูกปล่อยอยู่ในธรรมชาติได้ ขณะนี้กำลังเร่งสำรวจจำนวนที่แท้จริง หากสามารถควบคุมประชากรอิกัวน่าเขียวได้แล้ว อาจมีการพิจารณาให้นำเข้าอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนนำเข้าอิกัวน่า มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายพงษ์ศักดิ์ ศรีชนะ กำนันตำบลบ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี กรรมการบริหารคำชะโนด ที่มีการพบอิกัวน่าเช่นกันว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 10 อุดรธานี จากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สวนรุกขชาติบ้านดุง ด่านตรวจสัตว์ป่าหนองคาย ศูนย์อนุรักษ์และช่วยเหลือสัตว์ป่าต่างประเทศ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ จ.หนองคาย มาจับอิกัวน่าเขียวเมื่อช่วงวันที่ 16-17 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รวม 6 ตัว และไม่ได้อยู่แค่ในคำชะโนด มีชาวบ้านพบเห็นห่างออกไป 1-2 กม. เชื่อว่ามันผสมพันธุ์จนมีลูกแล้ว จากการที่พบอิกัวน่าตัวเล็กหรือพบจุดการวางไข่ของมัน ตามพื้นที่รอบๆคำชะโนดขณะที่นายสมบัติ สุภศร ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า อิกัวน่าเขียวที่คำชะโนดมีการแพร่พันธุ์แน่นอน จากคำบอกเล่าของชาวบ้านพบเห็นอิกัวน่าเขียวตัวเล็ก และมีหลักฐานภาพที่แม่ค้าขายเครื่องบวงสรวงถ่ายไว้ได้ตอนฝูงลูกอิกัวน่าเขียวประมาณ 6 ตัว ขึ้นจากน้ำมาพักอยู่ริมตลิ่งเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน และในการจับอิกัวน่า 6 ตัวเอาไปไว้ที่ศูนย์ฯ อ.สังคม จ.หนองคาย พบว่า มันผสมพันธุ์กันแล้ว ทั้งนี้ สภาพของป่าคำชะโนดรกทึบ รอบพื้นที่มีการขุดคลองล้อมรอบ อิกัวน่าชอบอยู่อาศัยบริเวณกิ่งไม้ ปลายยอดของต้นไม้ ทำให้การดักจับเป็นไปด้วยความลำบาก ทั้งการเดิน-นั่งเรือเข้าไปจับ และได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับอิกัวน่า ปัญหา แนวทางแก้ไข และขอความร่วมมือคนในพื้นที่ หากพบเห็นอิกัวน่าให้จับหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ไปจับ เพื่อนำไปควบคุมไว้ที่ศูนย์ฯอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่