ออกหมายจับล่า “ไซ มินโม” ช่างทาสีชาวเมียนมา หลักฐานชัดกล้องวงจรปิดจับภาพมีปากเสียงกับคนตายในบ้านคืนวันที่ 27 ก.ย. หลังจากนั้นใช้มีดไล่แทงไปเสียชีวิตในห้องน้ำชั้น 2 ระหว่างหนีโอนเงินจากบัญชีของผู้ตายหลายครั้ง ทั้งโอนไปเข้าบัญชีผู้อื่น และเบิกเงินสดระหว่างรอขึ้นรถทัวร์หนีไป จ.เชียงราย ก่อนข้ามแดนหนีกลับเมียนมาไปตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ย. ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เร่งประสานทางการเมียนมาช่วยจับกุมตัวกลับมาดำเนินคดี เนื่องจากเหตุเกิดกับอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ญาติรับศพอดีตทูตสุดเศร้า ขอความเป็นส่วนตัวไม่ให้สัมภาษณ์และบันทึกภาพกรณีพบศพนายวิชิต ชิตวิมาน อายุ 63 ปี อดีต เอกอัครราชทูต กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ภายในห้องน้ำชั้น 2 ทาวน์โฮม 3 ชั้น เลขที่ 159/14 หมู่บ้านวิวไม้ ซอยวิภาวดีรังสิต 20 ถนนวิภาวดี รังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ตามร่างกายพบบาดแผลถูกแทง 3 แห่ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว ประมาณ 3 วัน ตรวจสอบพบทรัพย์สินในบ้านหลายอย่างหายไป จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ สน.สุทธิสาร และชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. พบว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง คนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิดเข้าออกบ้านได้ หรือคนงานก่อสร้าง ที่อยู่ระหว่างปรับปรุงบางจุด ก่อเหตุเพื่อประสงค์ต่อ ทรัพย์ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยาน หลักฐานอย่างเร่งด่วนจนครบถ้วนแล้ว พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เดินทางไปขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับนายไซ มินโม (sai myat moe) อายุ 19 ปี ชาวเมียนมา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3438/ 2566 ลงวันที่ 8 ต.ค.66 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เนื่องจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่บ้านที่เกิดเหตุ ไปถึงป้อมยามทางเข้าหมู่บ้าน พบภาพหลักฐานสอดคล้อง จนสามารถออกหมายจับนายไซ มินโม พยานหลักฐาน เบื้องต้นที่มีอยู่ในมือ เชื่อว่าเข้าไปก่อเหตุช่วงคืนวันที่ 27 ก.ย.ต่อเนื่องวันที่ 28 ก.ย.มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.2 และ สน.สุทธิสาร ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้านเกิดเหตุพบว่า วันที่ 27 ต่อเนื่องวันที่ 28 ก.ย. พบเห็นชายวัยรุ่นคนหนึ่งมีปากเสียงกับนายวิชิตบริเวณทางขึ้นบันไดชั้น 1 จากนั้นชายวัยรุ่นใช้มีดแทงเหยื่อจนวิ่งหนีขึ้นบันไดไปชั้น 2 ชายวัยรุ่นวิ่งไล่ตามขึ้นบันไดไป หลังรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน นอกจากนี้ หัวหน้าผู้รับเหมา ก่อสร้างให้ข้อมูลฝ่ายสืบสวนว่า ประกาศรับสมัครคนงานก่อสร้าง นายไซ มินโม มาสมัครเป็น ช่างทาสี เกิดวันที่ 10 เม.ย.2547 อายุ 19 ปี พ่อเป็นชาวเมียนมา แม่เป็นไทใหญ่ ส่วนใหญ่อยู่กับแม่ทางภาคเหนือประเทศไทย รับเข้ามาทำงานเมื่อเดือน ส.ค. ต่อมา วันที่ 17 ก.ย. ขอลางานอ้างไปงานวันเกิดเพื่อน วันที่ 18 ก.ย. มาทำงานตามปกติ และวันที่ 19 ก.ย. ขอลาออก อ้างว่าจะไปทำงานเป็นพ่อบ้าน คาดว่า มาอาศัยอยู่กับผู้เสียชีวิตวันเดียวกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.รับรายงานจาก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. หลังจาก พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำชุดคลี่คลายคดี ฆ่าอดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เสียชีวิตในบ้าน สามารถแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้ายได้แล้ว ผู้ก่อเหตุคือนายไซ มินโม ชาวเมียนมา สันนิษฐานว่า นัดพบกับผู้เสียชีวิต ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 27 ก.ย. ต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 28 ก.ย. ที่บ้านหลังเกิดเหตุท้องที่ สน.สุทธิสารหลังก่อเหตุแล้ว ฆาตกรออกจากบ้านผู้ตายเวลา 03.22 น. วันที่ 28 ก.ย. นำบัตรเอทีเอ็มผู้ตาย ไปตระเวนกดเงินละแวกวิภาวดีรังสิต สุทธิสาร และใกล้เคียง กระทั่งเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน นั่งรถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มฎ 8406 กรุงเทพมหานคร ไปลงที่สถานีขนส่งหมอชิต ก่อนซื้อตั๋วรถทัวร์เดินทางไป จ.เชียงราย เวลา 16.52 น. เข้าไปยืนรอที่ชานชาลาขึ้นรถมุ่งหน้าไป จ.เชียงราย เวลา 17.25 น. ฆาตกรขึ้นรถทัวร์บริษัทบุษราคัมทัวร์ สายกรุงเทพ-น่าน ทะเบียน 14-8511 กรุงเทพมหานคร ถึงสถานีขนส่งแม่สายวันที่ 29 ก.ย.66 เวลา 07.00 น. ก่อนนั่งรถ จยย.รับจ้างมุ่งหน้าไปด่านสะพานข้ามพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 และออกจากราชอาณาจักรไทยเข้าสู่ท่าขี้เหล็กเวลา 07.12 น. หลังจากนี้ ผู้บังคับ บัญชาเร่งประสานเจ้าหน้าที่ฝั่งเมียนมาให้ช่วยตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อมา เวลา 14.00 น. ที่ สน.สุทธิสาร พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เรียกประชุมชุดสืบสวนคดีฆ่าอดีตเอกอัครราชทูต กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก หลังใช้เวลาประชุมเกือบ 1 ชม. พล.ต.ต.อรรถพลเผยว่า ชุดสืบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาตั้งแต่ เมื่อวาน จากการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาพบว่า เดินทางไป จ.เชียงราย ถึงวันที่ 29 ก.ย. และเดินทางออก นอกประเทศผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเวลา 07.12 น.มีรายงานด้วยว่า ไทม์ไลน์ผู้ต้องหาที่ตรวจสอบพบ เดินทางไปที่บ้านของผู้เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. ทั้ง 2 คน ออกจากบ้านช่วงเย็นวันเดียวกันและกลับมา ช่วงค่ำ แต่วันเกิดเหตุวันที่ 27 ก.ย. ทั้ง 2 คน ออกจาก บ้านกลับมาประมาณ 21.00 น. และมีปากเสียงทะเลาะกัน หลังก่อเหตุผู้ต้องหาออกจากบ้านไปขึ้นแท็กซี่หน้าหมู่บ้านเวลาประมาณ 03.22 น. วันที่ 28 ก.ย. ตรวจสอบบัญชีธนาคารผู้เสียชีวิตพบว่า ผู้ก่อเหตุใช้ไอแพดผู้ตายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารบุคคลอื่น 22,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า โอนเข้าบัญชีใครและเกี่ยวข้องกันอย่างไร นอกจากนี้ เอาโทรศัพท์มือถือไปสแกนกดเงินหน้าตู้เอทีเอ็มอีก 2 ครั้ง เป็นเงิน 34,200 บาทเบื้องต้นเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุลงมือเพียงคนเดียว ส่วนความสัมพันธ์ของผู้ตายกับผู้ก่อเหตุจะเกี่ยวข้องกัน อย่างไรอยู่ระหว่างตรวจสอบ เพราะก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่เพียงลำพัง ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายนอกเหนือจากโทรศัพท์มือถือและไอแพด เชื่อว่ายังมีทรัพย์สินอื่น ของผู้ตายที่หายไปอีก แต่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมก่อน เพราะที่บ้านมีร่องรอยการถูกรื้อค้นขณะที่ร่างของผู้เสียชีวิตตำรวจนำส่งชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.รามาธิบดี ญาติรับศพกลับไปประกอบ พิธีทางศาสนาแล้วเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ท่ามกลางบรรยากาศสุดสลด แต่ญาติขอความเป็น ส่วนตัวไม่ขอให้ข่าวและห้ามบันทึกภาพอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่