“ท่านอ้น-ท่านอ่อง” โบกมือลาเมืองไทย เดินทางกลับสหรัฐอเมริกา หลังมาปฏิบัติภารกิจ และได้ไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆสมดังตั้งใจ มีเพื่อนสนิทมิตรสหายร่วมจัดงานเลี้ยงส่งอย่างอบอุ่น ด้านคนใกล้ชิด “ท่านอ่อง” แย้มเหตุที่เดินทางมาไทยมองลู่ทางด้านการ รักษาโรค ด้วยไทยมีแพทย์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย เชื่อหากกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดเมืองนอนจะดีและอบอุ่นกว่าการเดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 27 ปี ของ ท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ พระโอรสองค์ที่ 2 และ ท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ พระโอรสองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เดินทางกลับมาประเทศไทยด้วยความคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน และต้องการกลับมาสัมผัสความเจริญในประเทศไทย รวมทั้งวัฒนธรรมไทย ท่ามกลางความปลื้มปีติยินดีของประชาชนชาวไทย ท่านอ้น-วัชเรศร เดินทางมาก่อนล่วงหน้าพร้อมปฏิบัติภารกิจส่วนตัวอย่างเรียบง่าย ขณะที่ท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร ติดตาม ข่าวการกลับประเทศของท่านอ้น เกิดความคิดถึงบิน ตามมา และกำหนดเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกันในวันที่ 15 ส.ค.2566ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการเดินทางกลับ กลุ่มเพื่อนสนิทได้มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร เมื่อคืนวันที่ 13 ส.ค. ที่โรงแรมมิวส์ แบงค็อก ซอยหลังสวน กทม. เป็นสถานที่พัก เป็นการเลี้ยงภายในระหว่างคนสนิทมิตรสหาย และถือโอกาสขอบคุณผู้ที่มาช่วยดูแลระหว่างอยู่ในประเทศไทยด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างกันเอง โดยเฉพาะท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แสดงออกถึงความดีใจที่ได้กลับมาประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด ช่วงหนึ่งท่านอ่อง -นพ.จักรีวัชร ยกมือขวาทำมินิฮาร์ต พร้อมกับยิ้มและพูดว่า “รักประเทศไทย” ทำเอาเพื่อนสนิทและคนที่ได้ยินถึงกับปลาบปลื้มทั้งนี้ คนใกล้ชิด ท่านอ้น-วัชเรศร และ ท่านอ่อง-จักรีวัชร เปิดเผยว่าการที่ท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร เดินทางกลับมาประเทศไทย นอกจากคิดถึงประเทศไทย แล้ว ยังมาหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคในประเทศ ไทย เนื่องจากมีความคิดว่าจะมารักษาตัวที่ประเทศไทย เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยมีแพทย์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย หากกลับมารักษาตัวที่ประเทศ ไทยจะดีกว่าและอบอุ่นกว่า ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คงต้องรอว่าจะตัดสินใจอย่างไรสำหรับตลอดวันที่ 14 ส.ค. ท่านอ้น-วัชเรศร และ ท่านอ่อง-นพ.จักรีวัชร ได้ไปเยี่ยมเพื่อนสนิทเป็นการส่วนตัว ก่อนจะกลับมาพักผ่อนที่โรงแรม เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาในช่วงกลางคืน และช่วงบ่ายทีมข่าวไทยรัฐได้ประสานกับผู้ใกล้ชิดท่านอ้นหลังทราบว่าท่านอ้นได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อคืนวันที่ 13 ส.ค.ว่า “ดึกแล้วก็ยังนั่งกินผัดไทยอยู่ จะอร่อยกว่านี้ถ้าเผื่อไทยรัฐมาส่ง” ทีมข่าวไทยรัฐนำผัดไทย จากร้านดังร้านหนึ่งไปมอบให้ ท่านอ้นได้รับทราบแจ้งว่าให้นำมาส่งในช่วงค่ำ ทีมข่าวไทยรัฐนำผัดไทยไปส่งให้ท่านอ้น จำนวน 5 กล่อง ก่อนจะนั่งโต๊ะกินผัดไทยอย่างเอร็ดอร่อยสมใจผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าจากการที่ท่านอ้น ชอบรับประทานผัดไทย เมนูอาหารเส้น 1 ในอาหารไทยยอดนิยมที่โด่งดังไปทั่วโลก และเอ่ยถึงผัดไทยในการกลับมาเยี่ยมประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงโพสต์ภาพขณะรับประทานผัดไทยอย่างน่าเอร็ดอร่อย ปรากฏว่าส่งผลให้ผู้ที่ติดตามข่าวให้ความสนใจ และหันไปอุดหนุนรับประทานผัดไทย ตามร้านผัดไทยชื่อดัง และร้านอาหารต่างๆมากขึ้นอย่างคึกคัก บางร้านดังมีคนไปอุดหนุนและรอคอยว่า ท่านอ้นและคณะอาจแวะไปรับประทาน ทำให้บรรดาร้านผัดไทยต่างซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งฝากบอกไปยังคนใกล้ชิดท่านอ้นว่า ขอให้ท่านอ้นรับประทานผัดไทย และพูดถึงผัดไทยต่อไป หรือช่วยโปรโมตผัดไทยต่อไป จะช่วยให้ผัดไทย 1 ในเมนูอาหารไทยยอดนิยมเป็นที่นิยมยิ่งขึ้นไปอีกจากนั้นเวลา 22.30 น.ท่านอ้นและท่านอ่อง พร้อมคนสนิทได้เดินทางออกจากโรงแรมที่พัก ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อเช็กอินที่เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ เพื่อเดินทางกลับนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา กำหนดเปิดเช็กอินเวลา 23.50 น. และเครื่องบินออกจากไทยเวลา 02.50 น. วันที่ 15 ส.ค.ต่อมาในช่วงค่ำ ท่านอ้น ก็ได้รับผัดไทย 5 กล่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย โดยทันทีที่ได้รับ ท่านอ้น ยิ้มแย้มดีใจพร้อมกับกล่าวว่า “ตื้นตันใจมากที่อุตส่าห์นำผัดไทยมาให้ ขอบคุณมากครับ ชื่นใจจริงๆ พี่ๆ ที่เอาผัดไทยมาให้ มาช้าอีกชั่วโมงคงไม่เจอ ดีจะได้กินเลย” พร้อมกับกล่าวอีกว่า ตอนเด็กได้ทาน รวมทั้งยังกล่าวด้วยว่านอกจากผัดไทยแล้ว ยังชอบคะน้าหมูกรอบ และขอขอบคุณทุกๆคนที่นำของอร่อยมามอบให้ในครั้งนี้กระทั่งเวลา 23.50 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ พร้อมด้วย ท่านอ่อง-นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ สองโอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินทางมาถึงอาคารผู้โดยสารขาออกท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เพื่อกลับประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยสายการบิน เอมิเรตส์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่อีเค 377 ในเวลา 02.50 น. ของวันที่ 15 ส.ค.2566 ระหว่างที่ท่านอ้น และท่านอ่องกำลังเช็กอินเพื่อขึ้นเครื่องบิน บริเวณเคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้ความสนใจเข้าไปทักทายและขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ท่านอ้นและท่านอ่องได้พูดคุยกับผู้ที่เข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง ท่ามกลางสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศร่วมบันทึกภาพและรายงานข่าวดังกล่าวเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้ ท่านอ่อง นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ ได้เปิดใจถึงการกลับมาเมืองไทยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Chakriwat Vivacharawongse โพสต์ข้อความว่า นี่คือฝันที่เป็นจริงครับ...ที่ผมได้มีโอกาสกลับมากราบพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรม ราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย...ที่ผมเป็นแพทย์ได้ทุกวันนี้เพราะมีพระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจ และผมจะขอดำเนินตามรอยพระยุคลบาทในการส่งมอบแรงบันดาลใจนี้ให้แก่นักศึกษาแพทย์ทุกคนต่อไป...ตอนผมเป็นนักศึกษาแพทย์ พระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจของผมให้ผมเป็นนักเรียนที่ดี ตอนผมสอบผมกราบท่าน ผมมีรูปท่านอยู่ในห้องนอนของผม ตอนผมเป็นนักเรียน ตอนผมเป็นอาจารย์แพทย์ที่อเมริกา ผมก็บอกนักเรียนของผมว่าเราทุกคนต้องหาแรงบันดาลใจของเรานะครับ และพระราชบิดาเป็นแรงบันดาลใจของผม ท่านก็ ทำทุนแก่หมอแก่แพทย์ให้ประเทศเรามีหมอที่ดี ผมนำมาเป็นแรงบันดาลใจ ก่อตั้ง CMIC ศูนย์การแพทย์ Chakriwat ที่อเมริกา (Chakriwat Medical InformationCenter) ผมอยากถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักศึกษาของผม เราจะได้มีหมอที่ดีในอนาคตที่ ดูแลคนไข้ของเราได้ วันนี้รู้สึกดีใจมากเลยนะครับ สวัสดีครับ