ได้ตัวแล้วหนุ่มมหาภัยมือปาหินใส่ รถเก๋งสาวหน้าแหก หลังผู้เสียหายอีกรายโผล่แจ้งความโดนขว้างหินใส่รถตู้หรูอัลพาร์ดในเวลาไล่เลี่ยกัน และกล้องหน้ารถบันทึกโฉมหน้าคนร้ายได้ชัดเจน ตำรวจประสานฝ่ายปกครองบุกล็อกตัวคาบ้านพร้อมรถ จยย.และเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ สอบประวัติเคยต้องโทษคดียาเสพติด ก่อนก่อเหตุพี้กัญชาจนหลอน อ้างเห็นรถวิ่งบนถนน คิดว่าจะวนมาทำร้าย คว้าหินซิ่ง จยย.เขวี้ยงใส่รถเหยื่อถึง 2 คันรวด แฉก่อนหน้าแค่วันเดียวเพิ่งขว้างหินใส่รถครูและกระจกร้านค้าในหมู่บ้านแตกมาแล้วกลายเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความหวาดผวาให้คนใช้รถใช้ถนนสายโพธิ์ทอง-แสวงหา ต.โคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังมีคนร้ายดักปาก้อนหินใส่กระจกหน้ารถเก๋งมาสด้า สีแดง ทะเบียน 6 กธ 4568 กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้ น.ส.นันทิยา บัวอาจ อายุ 35 ปี ชาว จ.สิงห์บุรี คนขับได้รับบาดเจ็บใบหน้าแตกยับ แต่ยังตั้งสติประคองรถไม่ให้เสียหลักลงข้างทาง หลังเกิดเหตุตำรวจระดมกำลังลงพื้นที่ไล่เช็กภาพวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่คาดว่าเป็นวัยรุ่นในพื้นที่มาดำเนินคดีความคืบหน้าการไล่ล่าหนุ่มมหาภัยบนท้องถนน ช่วงเช้าวันที่ 21 พ.ค. พ.ต.อ.สายชล โพธิ์ขอม ผกก.สภ.โพธิ์ทอง เรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายวัยรุ่นปาหินเพื่อวางแนวทางการทำงานติดตามล่าตัวคนร้าย หลังตำรวจรับแจ้งว่าช่วงเวลาไล่เลี่ยกันยังมีผู้เสียหายอีกรายคือนายพยับ จากพูล อายุ 56 ปี ชาว อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ถูกคนร้ายปาก้อนหินใส่หน้ารถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน ศท 1 กรุงเทพมหานคร ระหว่างขับผ่านถนนสายดังกล่าวเหตุเกิดในพื้นที่เดียวกัน และกล้องหน้ารถบันทึกภาพผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจนล่าสุดผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความ พร้อมนำหลักฐานสำคัญเป็นคลิปจากกล้องหน้ารถมาให้ตำรวจนำไปสืบสวนจับกุมคนร้าย จากการตรวจสอบพบว่าขณะผู้เสียหายขับรถผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุช่วงเวลา 15.35 น. วันที่ 20 พ.ค. มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูงสวมหมวกไหมพรมคลุมหน้าขี่รถ จยย.ฮอนด้าแบบออโตเมติก สีดำ สวนทางแล้วปาก้อนหินใส่หน้ารถ เคราะห์ดีไม่โดนกระจกหน้ารถ ถูกฝากระโปรงหน้ายุบเสียหาย หลังเกิดเหตุผู้เสียหายรีบขับรถหลบหนีทันที เนื่องจากในรถมีผู้หญิงและเด็กนั่งอยู่ด้วย กลัวว่าจะได้รับอันตราย เบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นรายเดียวกับที่ขว้างหินใส่รถเก๋ง น.ส.นันทิยา ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นหน้าแหกด้าน พ.ต.อ.สายชล โพธิ์ขอม ผกก.สภ.โพธิ์ทอง เปิดเผยว่า สั่งการให้ตำรวจระดมกำลังติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นอันตรายกับประชาชนที่ขับรถสัญจรไปมาอย่างมาก รวมถึงให้สายตรวจตระเวนตรวจตราทุกชั่วโมงเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดซ้ำ อย่างไรก็ตามจากหลักฐานคลิปกล้องหน้ารถตำรวจรู้รูปพรรณสัณฐานของคนร้ายหมดแล้ว อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาสอบสวนหาสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุ คาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้ ส่วนอาการของ น.ส.นันทิยา คนขับรถเก๋งที่ได้รับบาดเจ็บขณะนี้ย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.สิงห์บุรี แล้วต่อมาตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จ.อ่างทองและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดยนายอภิชาติ ศรีเหรา นายอำเภอโพธิ์ทอง และนายชิษณุพงศ์ ทรัพย์มังสัง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเข้าจับกุมนายชูศักดิ์ หรือเอี้ยง อินอิ่ม อายุ 27 ปี ผู้ต้องสงสัยปาหินใส่รถทั้ง 2 คันได้ที่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 2 ต.โคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุและรถ จยย.ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีดำ ทะเบียน 2 กฌ 7483 นครราชสีมา เบื้องต้นนายชูศักดิ์ให้การวกวนเหมือนเมายา จึงนำไปตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบสารเสพติด จากนั้นนำกลับมาสอบปากคำเพิ่มที่โรงพักตอนแรกอ้างว่าขับรถเบียดกัน แต่หลังถูกสอบเค้นอย่างหนักผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าระหว่างหาปลาอยู่ริมถนนสังเกตเห็นรถยนต์วิ่งอยู่บนถนน คิดว่าจะวนมาทำร้าย หยิบก้อนหินจากข้างทางขี่รถ จยย.ปาใส่รถยนต์ที่วิ่งผ่านมาอย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัตินายเอี้ยงทราบว่าเคยพัวพันยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกจากเรือนจำได้ไม่นาน ที่ผ่านมาเคยเสพยาบ้าและกัญชาจนเพี้ยน ประกอบกับก่อนเกิดเหตุได้เสพกัญชาเข้าไปคาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากอาการหลอน นอกจากนี้จากการสอบสวนทราบว่าเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้ขว้างร้านค้าในพื้นที่หมู่ 1 ต.โคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง ทำให้กระจกหน้าร้านแตก รวมทั้งใช้ก้อนหินปารถยนต์ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.โพธิ์ทอง ขณะขับผ่านถนนสายดังกล่าว แต่ผู้เสียหายไม่ได้ไปแจ้งความเพราะเห็นว่ารถเสียหายเล็กน้อย หลังสอบปากคำตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาส่ง พ.ต.ท.ไพศาล แจ่มมี พนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าและทำให้เสียทรัพย์