นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม. กล่าวว่า จากการประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางการพัฒนาคลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากรและคลองแสนแสบ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.66 เรื่องสำคัญในการประชุมคือ การขอความร่วมมือให้บ้านเรือน สถานประกอบการ และตลาดต่างๆ ในกรุงเทพฯ ติดตั้งบ่อดักไขมันและบ่อรวมน้ำเสียก่อนปล่อยลงคลอง เนื่องจากพบว่าไขมันเป็นตัวปิดกั้นออกซิเจนในแหล่งน้ำ ทำให้น้ำเสียเร็วขึ้นและการบำบัดทำได้ยาก โดย กทม.ร่วมกับกรมอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ออกมาตรการสุ่มตรวจโรงแรม อพาร์ตเมนต์ และสถานประกอบการต่างๆในพื้นที่ กทม. ระยะ 500 เมตร จากคลองแสนแสบ 195 แห่ง พบมี 41 แห่ง ยังไม่ได้มาตรฐาน กำลังเร่งดำเนินการแก้ไข สำหรับตลาดทุกแห่งใน กทม.กำหนดให้มีระบบบำบัดน้ำเสีย หากไม่มีต้องเข้าร่วมโครงการบำบัดน้ำเสียของ กทม. คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จทุกแห่งภายในปี 2566ปลัด กทม.กล่าวว่า นอกจากนี้ จากการสำรวจพบว่า 70% ของน้ำเสียมาจากบ้านเรือน ซึ่งมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการติดตั้งบ่อดักไขมัน โดย กทม.เตรียมสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับสร้างบ่อดักไขมันสำหรับบ้านเรือนชุมชนผู้มีรายได้น้อย ปัจจุบันจึงเร่งดำเนินการติดตั้งบ่อดักไขมันตามบ้านเรือนให้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายติดตั้งปีละ 4,000 หลัง อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สำนักการโยธาร่างกฎหมาย ประกอบด้วย 1.กำหนดให้ทุกบ้านเรือนต้องมีถังบำบัดน้ำเสียก่อนระบายลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ และ 2.กำหนดให้ทุกบ้านเรือนมีบ่อดักไขมันก่อนปล่อยน้ำเสียลงท่อระบายน้ำสาธารณะ คาดว่าจะแล้วเสร็จนำมาบังคับใช้ได้ภายในปี 2566.