ส.ส.เต้พาแม่แตงโมเข้าพบ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภาขอรับพัสดุที่ถูกส่งจากสหรัฐอเมริกา เชื่อเป็นผ้าขาวคาดเอวของแตงโมที่บังแจ็คส่งมาให้ อาจเป็นวัตถุพยานสำคัญในคดี ประธาน กมธ.ยังไม่แกะห่อพัสดุหรือส่งต่อให้ใคร เชิญอัยการมาร่วมเปิดดูพร้อมกัน แม่ขอโทษปรับความเข้าใจหมอพรทิพย์ ซัดทนายเดชาขวางยื่นเรื่องเป็นคดีพิเศษ ส.ส.เต้แจงปมโทร.ขู่กระทืบทนายเดชาแค่หยอกล้อ หลังโดนอีกฝ่ายโร่เข้าแจ้งความเอาผิดพร้อมร้องประธานสภาสอบจริยธรรมนักการเมือง ด้านอัยการจังหวัดนนทบุรีมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนตามข้อหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งไปและข้อหาใหม่ที่แจ้งเพิ่ม โฆษกอัยการปัดความเห็นสั่งฟ้อง ชี้สำนวนยังอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของอธิบดีอัยการภาค 1ปมปริศนาการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ ยังชุลมุนวุ่นวายหาบทสรุปไม่ได้ หลังจากนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม มอบหมายให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ช่วยทำคดีเดินหน้าหาพยานหลักฐานมุ่งเป้าเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง ส.ส.เต้พาแม่แตงโมพบ กมธ.สิทธิที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 30 พ.ค. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นำนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ยื่นหนังสือถึงนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอรับวัตถุพยานจาก กมธ.ไปส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบเพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดีการเสียชีวิตของแตงโม โดยพัสดุดังกล่าวเป็นผ้าขาวคาดเอวที่อ้างว่าแตงโมใส่ในวันเกิดเหตุที่บังแจ็คส่งมาจากสหรัฐอเมริกาขอวัตถุพยานส่งสถาบันนิติวิทย์ฯนายมงคลกิตติ์กล่าวว่า นางภนิดาร้องขอให้พรรคไทยศรีวิไลย์ดูแลคดีการเสียชีวิตของแตงโม ปัจจุบันคดีอยู่ในชั้นอัยการ ทราบมาว่า กมธ.มีวัตถุพยานในคดีที่ได้รับจากผู้หวังดีส่งผ่าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. แต่ยังไม่ทราบเป็นวัตถุพยาน สำคัญหรือไม่ ตนกับนางภนิดาจึงมาขอรับวัตถุพยานนี้ เพื่อจะส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ดำเนินการต่อไปยังไม่แกะดูรออัยการรับพิจารณานายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ.กล่าวว่า กมธ.ได้รับห่อพัสดุจากผู้อ้างตัวเป็นผู้หวังดีส่งผ่านทาง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ในฐานะ กมธ. พญ.คุณหญิงพรทิพย์เสนอให้ กมธ.พิจารณาจะรับพัสดุดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่ กมธ.มีมติรับพัสดุห่อนี้ไว้ แต่ยังไม่ได้แกะออกดูว่าเป็นอะไร และจะยังไม่แกะออกดูจึงไม่ทราบว่าเป็นผ้าขาวที่คาดเอวแตงโมในวันเกิดเหตุหรือไม่ จะรอส่งห่อพัสดุนี้ให้อัยการต่อไปว่าจะรับไว้พิจารณาเป็นหลักฐานในคดีหรือไม่ พัสดุชิ้นนี้ส่งมาจากสหรัฐฯส่งมาให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ระบุชื่อผู้ส่ง เป็นภาษาอังกฤษว่า Sukmak Kanlaya DA ไม่รู้ว่าคือใคร มีการบอกอาจเป็นชื่อบังแจ็คหรือไม่เชิญมาดูว่าเป็นหลักฐานสำคัญประธาน กมธ.สิทธิฯกล่าวต่อไปว่า เมื่อได้รับพัสดุมา กมธ.ทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อจะส่งหลักฐานให้ แต่ตำรวจแจ้งว่า สรุปปิดสำนวนคดีไปแล้ว อยู่ในขั้นตอนอัยการ จึงส่งเรื่องให้อัยการทราบถึงหลักฐานดังกล่าว แต่ยังไม่มีการตอบกลับมา อยากให้เปิดพัสดุในที่ประชุม กมธ. โดยเชิญอัยการมาดูพร้อมกันว่าจะเป็นวัตถุพยานสำคัญหรือไม่ ถ้ามีส่วนสำคัญจะให้อัยการไปตรวจสอบต่อไป ส่วนที่นางภนิดาจะขอพัสดุชิ้นนี้จาก กมธ.คงไม่สามารถมอบให้ได้เพราะไม่ได้ส่งให้นางภนิดา กมธ.เก็บหลักฐานชิ้นนี้มา 27 วันแล้วยังไม่ได้เปิดดูเป็นอะไร จะรอคำตอบจากอัยการก่อน ไม่สามารถส่งหลักฐานให้คนนอกได้ ยืนยัน กมธ.ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา เมื่อได้พัสดุมาก็ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เก็บอมพะนำไว้ หมอพรทิพย์รับ “บังแจ็ค” ส่งให้ขณะที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า บังแจ็คติดต่อมาที่ตน จะส่งผ้าขาวที่แตงโมคาดเอวในวันเกิดเหตุมาให้ จึงบอกให้ส่งมาในนาม กมธ.สิทธิฯ วุฒิสภา แต่พอได้พัสดุมากลายเป็นระบุชื่อตนเป็นผู้รับ พัสดุนี้อยู่ที่ กมธ.มา 3 สัปดาห์ พยายามประสานทุกหน่วยงานทั้งตำรวจและอัยการถึงพัสดุที่ได้มา จนกระทั่งเห็นนางภนิดาเปลี่ยนใจและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของแตงโม จึงอยากให้มารับรู้ ได้บอกนายมงคลกิตติ์ว่า กมธ.มีผ้าชิ้นนี้ แต่ กมธ.ไม่มีอำนาจในการส่งจึงต้องแจ้งให้นางภนิดารับทราบแม่แตงโมขอโทษคุณหญิงหมอผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวยื่น หนังสือขอหลักฐานต่อ กมธ. นางภนิดา แม่แตงโม นั่งอยู่หัวโต๊ะด้านหน้าห้องประชุม ขณะที่ พญ.คุณหญิง พรทิพย์แยกวงออกมานั่งอยู่ท้ายห้องประชุมคนเดียว เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยมีประเด็นไม่ลงรอยกันในคดีแตงโม อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากยื่นหนังสือเสร็จแล้ว นางภนิดาได้เดินไปหลังห้องประชุม พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ และจับมือกัน เพื่อปรับความเข้าใจ ซัดทนายเดชาขวางยื่นดีเอสไอต่อมา นางภนิดากล่าวว่า รู้สึกมีความหวังมากขึ้น แต่ต้องทำตามระเบียบราชการ ดีใจที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์มาช่วย ได้กล่าวขอโทษถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตั้งแต่มีนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เป็นทนายความ ตนไม่ค่อยได้พูด ไม่กล้าขัดใจทนายเดชา ที่ผ่านมา ที่ไม่คิดจะยื่นเรื่องให้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากไม่มีใคร แนะนำ ทนายเดชาไม่ได้แนะนำ บอกว่าอย่าทำเดี๋ยว หาทางลงไม่ได้ ย้ำอยู่ตลอด กระทั่งฟ้าเปิดได้มาเจอ นายมงคลกิตติ์ถึงได้ทำอะไรทุกอย่างที่จะเป็นความจริง เป็นสิ่งที่ถูกต้อง บอกแตงโมทุกวันจะหาความยุติธรรมให้ ถึงจะเหนื่อยแต่ยินดีทำให้ลูก เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงทนายเดชาหรือไม่ นางภนิดาหัวเราะก่อน กล่าวว่า “เลิกคิดถึงคุณแม่ได้แล้ว คุณแม่จ่ายค่าข้าวไปแล้ว ทำไมต้องปล่อยให้เป็นข่าวหลายวัน หากคิดถึง คุณแม่ขอให้เงียบๆ คิดถึงในใจ ตอนนี้คุณแม่ไม่รักทนายเดชาแล้ว แต่ยังคิดถึงอยู่ สามารถคิดถึงกันได้”ฝากถึง “บิ๊กตู่” ช่วยเป็นคดีพิเศษขณะที่นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า แม่แตงโมจะไป ยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วยตนเอง เพื่อให้พิจารณาเป็นคดีพิเศษ ขณะนี้รอให้นายอัจฉริยะร่างหนังสือเสร็จ อยากฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ ส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย เรียกคดีนี้ว่าแตงโมโมเดล หากคดีนี้ประสบความสำเร็จ ถือว่าประชาชนช่วยกันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบกฎหมาย อำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน หวังว่านายกฯจะใส่ใจ เห็นใจประชาชนที่สนใจ ต้องการ ให้เป็นคดีพิเศษ หากนายกฯกำชับกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษอย่างเต็มที่ เชื่อว่าความศรัทธาจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ทนายเดชาระบุตนทำผิดจริยธรรม ส.ส. หากจะหลุดเก้าอี้ ส.ส.ก็หลุดไป ตำแหน่งอยู่ได้ไม่นานแต่ตำนานอยู่ตลอดไป ขู่กระทืบทนายเดชาแค่หยอกล้อก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า นายมงคลกิตติ์ให้สัมภาษณ์กรณีที่โทรศัพท์ไปข่มขู่จะกระทืบทนายเดชา ว่า เป็นการหยอกล้อ ใช้คำไม่สุภาพเพราะคุยในฐานะ เพื่อน ขณะนี้พรรคไทยศรีวิไลย์มารับผิดชอบคดีแล้ว บางทีมีการออกความเห็นทำนองข่มขู่โจทก์ อยากให้ ออกความเห็นเชิงวิชาการที่ไม่กระทบคดี มิเช่นนั้นจะผิดมารยาททนายความ ส่วนการจะใช้วิถีทางการเมือง จัดการถ้าไม่หยุดวุ่นวายในคดี ตนมีสมาชิกพรรคเป็น หมื่นคน ถ้าไม่พอใจขึ้นมาอาจไปประท้วงได้ หรือ หากมีสมาชิกพรรคไปแจ้งความดำเนินคดีคนเหล่านี้ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่อยากให้ลำบากกันฮึ่มแจ้งจับเผยแพร่ข้อความคุยกันผู้สื่อข่าวถามว่า นายมงคลกิตติ์ถูกมองมีพฤติกรรม กร่างใช้อำนาจ ส.ส.ข่มขู่ เจ้าตัวตอบว่า ไม่จำเป็นต้อง เป็น ส.ส.ก็มีอยู่แล้ว การที่นายเดชาจะดำเนินคดีตนข้อหาข่มขู่นั้น กฎหมายระบุชัดเจนการเอาข้อความ ที่คุยกัน 2 คนไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดฐานดักฟังโทรศัพท์ตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายเกี่ยวกับโทรเลขและโทรศัพท์ มาตรา 24 โทษจำคุก 6 เดือน นายเดชาเป็นห่วงเรื่อง ความปลอดภัยเพราะถูกข่มขู่นั้น ขอรับรองความปลอดภัย ตนไม่ได้บอกจะทำอะไรนายเดชา แค่บอก ถ้าเป็นคนอื่นจะไม่มาคุยแบบนี้ ตนจะไม่เตือนอีก ส่วนที่นายอัจฉริยะเคยบอกว่า บังแจ็คเป็น 18 มงกุฎแต่ยังมาร่วมงานด้วยนั้น บังแจ็คไม่ได้มาร่วมงาน แค่มาตรวจพยานหลักฐาน ถ้าเป็นพยานหลักฐานสำคัญต้องรับไว้ ขอให้ผ่านชั้นศาลชั้นต้นไปก่อน เรื่องส่วนตัวค่อยมาว่ากันทนายเดชาฉะพฤติกรรมมาเฟียที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. เมื่อเวลา 11.00 น. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความแม่แตงโม ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ภูมิระพี สังข์ทอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. กรณีถูกนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ข่มขู่ทำร้ายร่างกายหากไม่หยุดวิจารณ์คดีการเสียชีวิตของแตงโม พร้อมนำเอกสารและแผ่นซีดีบันทึกเสียงเป็นหลักฐาน นายเดชาเผยว่า มาแจ้งความเอาผิดนายมงคลกิตติ์ในความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ มาตรา 309 และข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมานายมงคลกิตติ์โทรศัพท์ข่มขู่ทำนองว่าจะส่งคนมากระทืบ รวมทั้งจะนำไปปล่อยที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นวิธีการนอกกฎหมาย พร้อมนำแผ่นซีดีบันทึกเสียง เอกสารคำข่มขู่ และคลิปที่ข่มขู่บุคคลอื่นๆมาให้พนักงานสอบสวนใช้เป็นหลักฐานแจ้งความ มองว่าบุคคลเช่นนี้สมควรจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อหรือไม่ เพราะมีลักษณะเป็นมาเฟีย หากใครถูกนายมงคลกิตติ์ข่มขู่ขอให้ติดต่อมาหาตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ร้องสอบจริยธรรมนักการเมืองทนายเดชากล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะไปร้องเรียนต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมและจริยธรรมนักการเมือง เนื่องจากนายมงคลกิตติ์เป็นถึง ส.ส.แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ข่มขู่ประชาชน ทั้งที่การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีความต่างๆ สามารถทำได้ เมื่อครั้งที่ตนยังเป็นทนายความคดีแตงโม นายมงคลกิตติ์เองยังวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ตนรู้สึกไม่ปลอดภัย รวมทั้งสุนัขของตนอีก 2 ตัวที่บ้านยังรู้สึกหวาดกลัว การข่มขู่ของนายมงคลกิตติ์มีลักษณะจริงจังขึงขัง ไม่ล้อเล่น แสดงให้เห็นว่านักการเมืองในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความป่าเถื่อนและหลงระเริงในอำนาจหรือไม่ ที่อ้างว่ามีความสนิทสนมกับตนจึงพูดจาหยอกล้อเช่นนี้ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง“ทนายรณณรงค์” เอาผิดเต้ด้วยส่วนที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 15.00 น. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม อุ้มสุนัขพันธุ์พุดเดิลเป็นเชิงสัญลักษณ์เข้าพบ พ.ต.ท.แสวง สนูหมื่น สว. (สอบสวน) เพื่อแจ้งความดำเนินคดี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ไลฟ์เฟซบุ๊กข่มขู่ กรณีให้ความรู้ในคดีแตงโม ว่าให้ระวังตัวเอาไว้ จะใช้วิธีการทางการเมืองจัดการกับตน ทำให้เกิดความกลัว โดยเฉพาะเมื่อได้ฟังคลิปที่ ส.ส.เต้ โทร.ไปขู่ทนายเดชาจะไปดำเนินคดีที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยิ่งทำให้เกิดความกลัวเข้าไปอีก มาแจ้งความข้อหาเดียวกันในความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ มาตรา 309 และข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวยันวิจารณ์คดีตามหลักกฎหมายทนายรณณรงค์กล่าวด้วยว่า คนที่เป็น ส.ส.ไม่ควรพูดกับประชาชนแบบนี้ เพราะเป็นการสร้างความหวาดกลัว ถ้าคนที่เป็นทนายอย่างตนยังกลัว แล้วประชาชนทั่วไปจะยิ่งไม่กลัวกันเข้าไปใหญ่หรือ ดังนั้นในฐานะนักวิชาชีพทางกฎหมายจึงอยากทำให้เห็นว่าการมีความเห็นต่างทางคดีความย่อมทำได้ เพราะเราอยู่ในสังคมประชาธิปไตยย่อมพูดย่อมวิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่ได้อยู่ในสังคมเผด็จการที่จะห้ามคนไม่ให้พูด คดีแตงโมตนวิจารณ์ตามหลักข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย ไม่อยากให้เกิดความมั่วในกระบวนการยุติธรรม หากไม่ถูกใจใครต้องขอโทษด้วย ส่วนที่อุ้มสุนัขมาด้วยเพื่อกันสุนัขคนอื่นกัด เพราะสุนัขของตนไม่เห่าแต่จะกัดอย่างเดียว “ชวน” รับสอบจริยธรรม ส.ส.เต้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีทนายเดชาเตรียมยื่นเรื่องร้องสอบจริยธรรมนายมงคลกิตติ์ว่า วันเดียวกันนี้ คณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎรจะประชุมเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบจริยธรรมนายมงคลกิตติ์ ที่มีการร้องเรียนมาก่อนหน้านี้ เป็นคนละเรื่องกับกรณีนี้ทนายเดชายังไม่ได้ยื่นร้องเรียนมา อะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวแต่หากไปทำผิดต่อจริยธรรมนักการเมือง คณะกรรมการจริยธรรม สภาฯต้องตรวจสอบ แม้กระทั่งคำพูดที่ไม่เหมาะสมก็ร้องเรียนได้ จากนั้นคณะกรรมการจริยธรรมจะส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพสูง มีความตรงไปตรงมาตรวจสอบต่อไปสภาให้ชี้แจงกรณีโพสต์ขู่ “สิระ”ที่รัฐสภามีการประชุมของคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณากรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กข่มขู่นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ คณะกรรมการฯพิจารณารายงานการสอบหาข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า ประเด็นข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการฯมีความครบถ้วนเพียงพอต่อการวินิจฉัยแล้ว เตรียมจะนัดประชุมเพื่อวินิจฉัยการกระทำของนายมงคลกิตติ์ว่าเป็นการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมของ ส.ส.หรือไม่ แต่ก่อนที่คณะกรรมการฯจะวินิจฉัย จะแจ้งให้นายมงคลกิตติ์ทำคำแถลงการณ์เป็นหนังสือสรุปความเห็นของตนเองเสนอต่อคณะกรรมการจริยธรรมภายใน 15 วัน เพื่อกำหนดวันวินิจฉัยต่อไปอัยการพิจารณาหลักฐานใหม่ได้นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา จะเชิญอัยการไปร่วมเปิดดูห่อพัสดุที่ถูกส่งมาจากสหรัฐอเมริกา มีการระบุว่าเป็นผ้าสีขาวที่แตงโมคาดเอวในวันเกิดเหตุ อาจเป็นวัตถุพยานสำคัญในคดีว่า หาก กมธ.มีหนังสือขอให้อัยการไปร่วมตรวจสอบ อัยการจะดูว่าพยานหลักฐานดังกล่าวมีความสำคัญเกี่ยวข้องโดยตรงในประเด็นของคดีหรือไม่ น่าเชื่อถือ มีน้ำหนักหรือไม่ การจะนำพยานหลักฐานนี้เข้ามาในสำนวนก็ไม่ต่างจากการทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เมื่ออัยการสนใจก็เข้าไปดู เมื่อดูแล้วถ้าสนใจอีกก็จะให้เข้ามาในสำนวนเป็นพยานหลักฐาน อัยการอาจจะสั่งให้พนักงานสอบสวน ไปสอบสวนเพิ่มเติม เพราะพยานแต่ละชิ้นจะเข้ามาในสำนวนได้ต้องผ่านการสอบสวนโดยชอบของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเสียก่อน ถ้ามีหนังสือเชิญก็ส่งมาได้ เคยมีเหมือนกันในคดีอื่นเมื่ออัยการดูแล้วจะดูอย่างละเอียดมีความเห็นสั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหาที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี ช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เดินทางเข้าพบ น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามผลการสั่งคดี ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. พ.ต.อ.จาตุรนต์ เผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผบช.ภ.1 ได้ทำหนังสือถึงอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อขอทราบถึงผลการสั่งในคดีแตงโม เพื่อจะนำไปประกอบสำนวนที่จเรตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ผบช.ภ.1 ผบก.สส.ภ.1 ผบก.ภ.จ.นนทบุรี และ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ทางอัยการจังหวัดนนทบุรีมีหนังสือตอบกลับว่า มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 คนบนเรือลำเกิดเหตุ และ 1 กุนซือ ตามข้อหาที่คณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งต่อผู้ต้องหาทั้ง 6 คน รวมทั้งข้อหาที่อัยการสั่งให้แจ้งเพิ่มด้วยแจงข้อกล่าวหาของแต่ละคนสำหรับข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาทั้ง 6 คน นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ ถูกแจ้งข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีใบอนุญาต ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ ถูกแจ้งข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีใบอนุญาต และทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ นายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์ ถูกแจ้งข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร ถูกแจ้งข้อหาทำลายพยานหลักฐาน ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ และกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ ถูกแจ้งข้อหาทำลายพยานหลักฐาน แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และนายภีม ธรรมธีรศรี หรือกุนซือเอ็ม ถูกแจ้งข้อหาช่วยผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นแจ้งข้อความอันเป็นเท็จโฆษกอัยการปัดความเห็นสั่งฟ้องนายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนในคดีการเสียชีวิตของแตงโมว่า ไม่เป็นความจริง ทราบว่าตอนนี้สำนวนยังอยู่ในระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดของอธิบดีอัยการภาค 1 ต้องพิจารณาสำนวนอย่างรอบคอบ จึงไม่คิดว่าจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ในเร็วๆนี้ อีกทั้งตามระเบียบของอัยการแล้วจะไม่มีข่าวหลุดว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องออกไปก่อนวันนัดฟังคำสั่งแน่นอน มิฉะนั้นอาจจะทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปก่อน“อัจฉริยะ” ป่วยหนักหามส่ง รพ.ช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากทีมงานนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ว่า นายอัจฉริยะป่วยกะทันหัน มีอาการปวดท้องและอาเจียนรุนแรง ต้องพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล พร้อมแจ้งยกเลิกหมายข่าวที่นายอัจฉริยะจะไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากแม่แตงโมที่สำนักงานอัยการภาค 1 จ.พระนครศรีอยุธยา และสำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี