ยางเครปสีน้ำตาลเกรดพรีเมียม แผ่นบาง 2 มม. กำลังเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมที่ใช้ยางเป็นวัตถุดิบ ไม่ต่างจากยางแท่ง STR-20 เนื่องจากเก็บรักษาได้นาน สะอาด สิ่งเจือปนน้อย ยืดหยุ่นสูง ยึดติดกับโลหะได้ดี เหนือกว่ายางเครปธรรมดาตรงต้นทุนต่ำกว่า ที่สำคัญเปอร์เซ็นต์ความชื้นแค่ไม่เกิน 1% ทำให้เกษตรกรไม่ถูกหักเปอร์เซ็นต์ความชื้น ได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย มากกว่ายางเครปธรรมดา กก.ละประมาณ 5 บาท แต่ประเด็นคือ บ้านเรายังไม่มีเครื่องจักรใด สามารถรีดยางได้บาง 2 มม. แต่ความร่วมมือระหว่าง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และ บริษัท เอเชีย เกียร์ริ่ง จำกัด กำลังทำให้ความฝันเป็นจริง นายฉัตรชัย ภัทรนาวิก ประธานบริษัทเอเชีย เกียร์ริ่ง จำกัด อ.เมือง จ.ระยอง เผยว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ร่วมมือกับ กยท. ภายใต้โจทย์สำคัญผลิตเครื่องรีดยางเครปบางสีน้ำตาลเกรดพรีเมียมให้ได้ตรงตามมาตรฐานที่ กยท.กำหนด ประสบปัญหาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเครปให้ยางหนาแค่ 2 มม. ต้องใช้เทคโนโลยีที่ค่อนข้างสูง อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรบ้านเรายังไม่มีใครทำได้“โจทย์ที่สำคัญอีกอย่างที่เราต้องทำนั่นคือ ราคาเครื่องจักรเกษตรกรต้องเข้าถึงได้ ใช้งานง่าย บำรุงรักษาไม่ยาก ประหยัดพลังงาน ทดแทนเครื่องที่เราต้องนำเข้า โดยเฉพาะเครื่องปลดระวางจากมาเลเซีย ทำให้ไม่เสถียร และไม่ตรงตามมาตรฐานนัก เราเพิ่งมาประสบความสำเร็จเมื่อปีที่แล้ว ได้เครื่องรีดยางเครปบางฯ เครื่องแรกของประเทศ ที่ตอบโจทย์ทุกอย่าง ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานได้ตรงตามที่ กยท.กำหนด ราคาตัวเครื่องเกษตรกรจับต้องได้ ประหยัดต้นทุนพลังงาน ใช้งานง่าย เกษตรกรสามารถดูแลบำรุงรักษาเองได้ รีดได้ทั้งน้ำยางสดและยางก้อนถ้วย” นายฉัตรชัย เผยถึงลักษณะการทำงานของเครื่อง รีดยางเครปบางสีน้ำตาลเกรดพรีเมียมว่า เป็นเครื่องจักรรีดยางขนาดกลาง ออกแบบมาพิเศษเฉพาะสำหรับรีดยางบางนั้น มีจุดเด่นที่ลูกกลิ้งหรือลูกรีดคอยบดยางให้ได้ขนาดตามต้องการ โดยลายลูกรีดถูกออกแบบเฉพาะสำหรับรีดยางให้ได้ขนาด 2-3 มม. ซึ่งออกแบบโดยฝ่ายวิชาการ กยท. เมื่อนำยางเข้าเครื่อง ลูกรีดจะค่อยๆบดยืดยางให้เป็นแผ่นต่อกันบางลงเรื่อยๆ บดอัดเช่นเดิม 6-7 รอบ ก็จะได้ยางบาง 2 มม.กว่าๆ จากนั้นนำไปตากในห้องตากไล่ความชื้นในเนื้อยางพลังงานแสงอาทิตย์ 4-5 วัน จึงได้ยางคุณภาพเกรดพรีเมียมตามมาตรฐานที่ตลาดต้องการโดยเครื่องรีดยางชนิดนี้ใช้มอเตอร์แรงต่ำ ใช้ได้ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน กินค่าไฟเฉลี่ยวันละ 120 บาท ถ้าใช้น้ำมันสิ้นเปลือง 2 ลิตร จะผลิตยางเครปบางได้ 1 ตัน มีกำลังการผลิตวันละ 5 ตัน ขณะนี้ได้จดสิทธิบัตรในบางชิ้นส่วน และสามารถออกแบบตามสเปกที่ต้องการ ขึ้นกับจำนวนการผลิตถือเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ยางพาราไทยแข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น และเป็นอีกทางระบายยางในประเทศ พร้อมไปกับการขับเคลื่อนยกระดับเกษตรกรให้เป็นผู้ผลิตกลางน้ำ ตัดวงจรพ่อค้าคนกลางในตัว ที่สำคัญเป็นสินค้า MADE IN THAILAND 100% ที่ได้รับการรับรองจาก กยท. สนใจติดต่อได้ที่ 09-5289-3995, 0-3889-8966.
