สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เดินหน้ารุกหนักจับมือ แพลตฟอร์ม เข้ามาช่วยเหลือร่วมกันสกัดกั้นการลง “โฆษณาออนไลน์” เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดกฎหมายภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เป็นผู้ขับเคลื่อนผลักดันโครงการนี้ หลังจากที่พบข้อมูลว่า ปัจจุบันสื่อโซเชียลมีการลงโฆษณาที่ผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคแอบแฝงอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งสื่อออนไลน์และอีมาร์เกตเพลสโดยเฉพาะช่องทาง เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ช้อปปี้ ลาซาด้า และ เจดีเซ็นทรัล ที่มีการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตกว่า 18,000 ราย พบว่ากว่าร้อยละ 60 เป็นโฆษณาที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายไม่มีการขออนุญาตโอ้อวดเกินจริงในทางบำบัด บรรเทา รักษาโรค หรือโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ลักลอบผลิตหรือนำเข้า ที่ผ่านมา อย. ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการเฝ้าระวังมาต่อเนื่องมีการตรวจจับกุมการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐาน ดำเนินการไปหลายเรื่อง หลายเว็บไซต์ ทั้งปิดกั้นเว็บไซต์และดำเนินคดี แต่ยังมีพวกลักลอบฝ่าฝืนทำผิดกฎหมายภญ.สุภัทรา บุญเสริม ดำเนินการเชิงรุก จับมือกับแพลตฟอร์มสกัดกั้นการโฆษณาผิดกฎหมายภายใต้ความร่วมมือของแพลตฟอร์มที่จะกำหนดนโยบายและวางมาตรฐาน ไม่ยินยอมให้ร้านค้าออนไลน์ทำผิดกฎหมาย ขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคทำผิดกฎหมายอบรมให้ความรู้กับร้านค้าออนไลน์ใส่ใจในการเลือกคุณภาพสินค้าผลิตภัณฑ์ในการโฆษณาแพลตฟอร์มจะให้ความร่วมมือกับ อย.ในการส่งข้อมูลผู้กระทำผิดเพื่อให้ อย.ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินคดีนอกจากนี้ อย.ยังร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระงับเว็บไซต์ผิดกฎหมายข้อมูลที่เป็นเฟกนิวส์อย.ลงข้อมูลเชิงลึกร่วมกับ บก.ปคม. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สืบสวนติดตามคนที่ทำผิดมาดำเนินคดี เป็นแนวทางที่จับต้องได้ของ อย.ในการสกัดกั้นสื่อโฆษณาผิดกฎหมายร่วมมือกับแพลตฟอร์ม ทั้งมาตรการป้องกันและร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนจับกุมเป็น อย.ยุคใหม่ ที่ดูมีมิติในการทำงานรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจเป็นการเดินหน้าคิดทำ “โครงการเชิงรุก” ของ อย. เข้าแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหาเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th