นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ตรวจสอบพบการทุจริตการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนรายหัวโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนราธิวาส และกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ลักษณะวิธีการคล้ายคลึงกัน มีการแก้ไขจำนวนนักเรียน เพื่อให้โอนเงินอุดหนุนให้แก่โรงเรียนเกินกว่าที่ควรจะได้รับ แล้วให้โรงเรียนโอนเงินคืน หรือถอนเงินสดคืนให้กับเจ้าหน้าที่เป็นการส่วนตัวนั้น ขณะนี้ได้ไล่ตรวจสอบโรงเรียนเอกชนในเขตกรุงเทพฯ ครบหมดแล้วพบว่าไม่มีเขตไหนที่มีการทุจริตเพิ่มอีก โดยการบริหารจัดการการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนเป็นปกติ ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดเจ้าหน้าที่ สช.กำลังไล่ตรวจสอบ คงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรเลขาธิการ กช.กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้โปรแกรมเมอร์ของ สช. ตรวจสอบและแก้ไขระบบข้อมูลการจัดการเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชน หรือ PSIS ใหม่แล้ว เนื่องจากพบว่าระบบดังกล่าวมีช่องโหว่ที่ให้มีการแก้ไขข้อมูลเงินด้วยมือ ซึ่งความจริงแล้วระบบ PSIS ควรจะเป็นระบบที่ประมวลผลด้วยข้อมูลเลขบัตรประชาชน 13 หลักของนักเรียนโรงเรียนเอกชน ซึ่งหากจะมีการแก้ไขข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนจะต้องใส่เลขบัตรประชาชน 13 หลักของนักเรียนทุกครั้ง รวมถึงจะมีการวางระบบล็อกเพิ่มเติมเข้าไปอีก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุจริตเรื่องนี้อีกได้ในอนาคต.