ลำตะคองวิกฤติหนัก เทศบาลนครนครราชสีมาปักธงแดงแจ้งเตือนชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง หลังน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนกว่า 500 หลังจมมิดพ่อเมืองโคราชแจงปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง เกินความจุแล้ว แต่ยังรับน้ำไหวไม่ระบายออกหวั่นชาวบ้านเดือดร้อนหนัก กบินทร์บุรียังอ่วม มวลน้ำไหลบ่าเข้าท่วมตลาดเทศบาลย่านเศรษฐกิจการค้า เกิดเหตุสลดหนุ่มพายเรือจะไปช่วยยายขนของหนีน้ำถูกซัดเรือล่มจมน้ำดับ เขื่อนเจ้าพระยารับน้ำเหนือต่อเนื่องจนต้องเพิ่มการระบายน้ำ แจ้งเตือนจังหวัดลุ่มเจ้าพระยาระวังน้ำล้นตลิ่ง อุตุฯประกาศเข้าฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ภาคเหนือฝนน้อยลง แต่ภาคใต้ยังมีฝนชุก สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครราชสีมา ยังไม่พ้นวิกฤติ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 ต.ค. เทศบาลนครนครราชสีมา ได้ปักธงแดงบริเวณสะพานข้ามลำน้ำลำตะคอง ปากทาง เข้าชุมชนมิตรภาพซอย 4 ต.ในเมือง แจ้งเตือนประชาชนเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง หลังน้ำจากลำตะคองเอ่อล้นตลิ่งหลากท่วมถนน ร้านค้า และบ้านเรือนกว่า 500 หลัง ระดับน้ำสูง 60-80 ซม. มีแนวโน้มสูงขึ้นชั่วโมงละ 1 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่เร่งแจกจ่ายกระสอบทรายพร้อมนำรถบรรทุกยกสูงพาชาวบ้านเดินทางเข้าออก ส่วนชุมชนอื่นๆก็มีน้ำท่วมสูงเช่นกัน อาทิ ตะคองเก่า สำโรงจันทร์ บ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 80 หลัง ขณะที่ เขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำ 340 ล้าน ลบ.ม. เกินระดับของความจุ 314 ล้าน ลบ.ม.นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวภายหลังร่วมประชุมการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนลำตะคองว่า เพื่อเป็นการลดความเสียหายของประชาชนท้ายลำน้ำลำตะคอง ที่ประชุมมีความเห็นว่าจะยังไม่ระบายน้ำออกจากเขื่อนลำตะคอง เนื่องจากเขื่อนมีความแข็งแรงและยังสามารถรองรับน้ำได้เกินกว่า ความจุที่ 314 ล้าน ลบ.ม. ไปถึงที่ความจุ 374 ล้าน ลบ.ม. แต่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 340 ล้าน ลบ.ม. จึงไม่มีความจำเป็นในการระบายน้ำออกจากเขื่อน ส่วนพายุที่จะเข้ามาปลายสัปดาห์นี้คาดว่าจะอ่อนกำลังและไม่ส่งผลต่อภาคอีสานตอนล่างมากนักส่วนที่เขตเทศบาลเมืองเมืองปัก อ.ปักธงชัย พื้นที่ส่วนใหญ่ระดับน้ำลดลงกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ที่ชุมชนชัยมงคล หรือบ้านโนนอีแซว หมู่ 14 ต.เมืองปัก ยังมีน้ำท่วมสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีคลองลำซอไหลผ่าน เป็นพื้นที่รองรับมวลน้ำที่ไหลล้นจากคลองลำตะกุดและคลองลำซอ บ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 200 หลัง ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร บ้านชั้นเดียวติดคลองถูกท่วมเกือบมิดหลังคา ชาวบ้านกว่า 800 คนต้องอพยพออกมาอาศัยตามบ้านญาติ และที่ศาลา SLM เป็นที่หลับนอน ไฟฟ้าถูกตัดบางส่วนที่อยู่บ้านสองชั้นไม่อพยพออกมา การเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้ตะกร้าผูกเชือกหย่อนลงมารับอาหารและน้ำดื่มเพื่อยังชีพ จ.บุรีรัมย์ มวลน้ำที่มาจากนครราชสีมา ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตพื้นที่ อ.ปะคำ ชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้วหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะที่บ้านเทพพัฒนา หมู่ 9 ต.หนองบัว ชาวบ้านพากันเป็นห่วงหลวงปู่เฉย “พระเหนือโลกในตำนาน” อายุ 95 พรรษา ที่ยังคงจำศีลอยู่ในกุฏิภายในสำนักสงฆ์ป่าน้ำอ้อม ท่ามกลางมวลน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านขอนิมนต์ให้หลวงปู่ออกจากพื้นที่ เนื่องจากกุฏิไม้หลังเล็กมีสภาพทรุดโทรมกลัวจะถูกน้ำซัดพัง แต่หลวงปู่ยืนยันว่าอยู่ได้ ชาวบ้านและลูกศิษย์ต้องคอยแวะเวียนเข้าไปดูตลอดเวลาส่วนบรรยากาศในตลาดเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังน้ำท่วมลดระดับลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ ร้านค้าต่างๆเริ่มมาช่วยกันกวาดล้างคราบดินโคลนเพื่อเตรียมเปิดร้านอีกครั้งหลังต้องปิดไป 3 วัน ภาพรวมความเสียหายทางเศรษฐกิจหลายสิบล้านบาท ส่วนที่ ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ หมู่บ้านชายแดนที่รับมวลน้ำมาจากตลาดอรัญประเทศ ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีพื้นที่ลุ่มต่ำมีน้ำท่วมขังสูง 50-80 ซม. มีกำลังทหารพรานนำข้าวกล่องและน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านในหมู่บ้านโสนน้อย ต.ท่าข้าม ที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 ครัวเรือน จ.ปราจีนบุรี ปริมาณน้ำที่ไหลมาจาก จ.สระแก้ว ทางแควพระปรงและแควพระสทึงเอ่อล้นเข้าท่วม อ.กบินทร์บุรี เกือบทุกพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ ตลาดย่านเศรษฐกิจการค้าของอำเภอ ถนนทางเข้าตลาดเทศบาลกบินทร์บุรี ชุมชนโรงสีไปรษณีย์ บ้านเรือนร้านค้าถูกน้ำท่วมสูง 40-60 ซม. นายวัลลภ ประวัติวงศ์ นอภ.กบินทร์บุรี นำกำลัง อส. ทหาร เข้าช่วยเหลือชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง พร้อมขอเรือท้องแบนมาให้ชาวบ้านเดินทางเข้าออกที่พัก เช่นเดียวกับที่บ้านท่าขี้เหล็ก หมู่ 9 ต.กบินทร์ ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงทำให้การสัญจรถูกตัดขาด มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 120 หลัง และไร่นาจมน้ำทั้งหมดกว่า 240 ไร่เกิดเหตุสลดใจเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ต.ค. หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย นำกำลังไปตรวจสอบเหตุคนจมน้ำสูญหายในคลองพระปรง บ้านหนองโดน หมู่ 8 ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี บริเวณถนนสายบ้านหนองโดน-หนองบุเต่า รอยต่อ จ.สระแก้ว ถูกน้ำท่วมเป็นทางยาวกว่า 2 กม. เจ้าหน้าที่ต้องนั่งเรือเข้าไปลงงมค้นหานานกว่า 1 ชม. กระทั่งพบศพนายสุชาติ สีเนาว์ อายุ 38 ปี สอบสวนทราบว่า ผู้ตายพายเรือออกจากบ้านจะไปช่วยยายขนของหนีน้ำท่วมบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ แต่ถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยวซัดเรือล่มลงทำให้จมน้ำเสียชีวิตนายกฤษฎา ศรีเพิ่มพันธ์ ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 12 เผยว่า ได้ประกาศแจ้งเตือนไปยังจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ตั้งแต่ อ.สรรพยา ลงไป จ.สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ และ จ.สมุทรปราการ ว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยามีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้จำเป็นต้องปรับแผนการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาระดับน้ำเหนือเขื่อนไม่ให้ล้นตลิ่ง วันนี้ระดับน้ำเหนือเขื่อนวัดได้ 16.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนในอัตรา 850 ลบ.ม.ต่อวินาที จะเพิ่มขึ้นไปที่อัตรา 900-1,100 ลบ.ม.ต่อวินาทีตามลำดับ จะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้นจากเดิม 60 ซม.ถึง 1 เมตร โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และ ต.บางบาล อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมยกของขึ้นที่สูงเพื่อรองรับระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ทั้ง 2 ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เฝ้าสังเกตระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการ อำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำว่า ขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนที่ประเทศไทยยังได้รับอิทธิพลจากพายุและร่องความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบ กับประชาชนโดยเร็วที่สุด พร้อมสั่งการให้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ วางมาตรการรับมือน้ำหลากในพื้นที่ภาคใต้ที่จะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.อย่างใกล้ชิด และก่อนจะเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนการจัดสรรน้ำและการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 63/64 ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนตามลำดับความสำคัญของกิจกรรมการใช้น้ำกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเรื่องประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.63 โดยลมที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยที่ระดับความสูง 100 เมตร ถึงความสูง 3,500 เมตร ได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่ความสูงตั้งแต่ 5,000 เมตรขึ้นไป ได้เปลี่ยนเป็นลมฝ่ายตะวันตก ประกอบกับอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าบริเวณประเทศไทยตอนบนลดลงอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นเกือบทั่วไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาวในปีนี้ ลักษณะอากาศบริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงแปรปรวน โดยจะมีฝนตกในบางช่วงแต่ปริมาณไม่มากนัก ส่วนบริเวณภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไปส่วนสภาพอากาศ ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยลง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง จะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ส่วนพายุโซนร้อนกำลังแรง “โซเดล” (พายุระดับ 4) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น (พายุระดับ 5) แล้ว มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนช่วงวันที่ 25-26 ต.ค. และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภาคตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนบางแห่งกับมีลมแรง