อีกโรคจากเชื้อรา มักระบาดในช่วงฝนตกชุก แปลงปลูกมีการระบายน้ำไม่ดี และสภาพพื้นที่ดินมีความเป็นกรด-ด่างสูง กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรชาวไร่สับปะรดเฝ้าระวัง...โรคยอดเน่ารากเน่าอาการของโรคที่เกิดกับต้น ใบยอดจะมีสีซีด โคนใบหรือฐานใบเน่าช้ำมีสีขาวอมเหลืองขอบแผลสีน้ำตาล และส่งกลิ่นเหม็น เมื่อดึงส่วนยอดจะหลุดได้โดยง่าย ถ้าอาการรุนแรงกลุ่มใบตรงกลางต้นจะหักล้มพับลงมาอาการที่ราก เริ่มแรกใบสีซีดคล้ายอาการที่ต้น ใบด้านล่างจะนิ่มกว่าปกติและแห้งตาย อาการจะลามเข้ามาจากปลายใบ ต้นชะงักการเจริญเติบโต รากมีแผลสีน้ำตาล เปื่อย และเน่า หากดึงจะหลุดออกมาจากดินได้โดยง่ายอาการที่ผล ผลจะมีขนาดเล็ก ผลจะเน่าเป็นจุดสีเขียวเข้ม เมื่อผ่าดูภายในเนื้อเยื่อจะเน่าเป็นสีน้ำตาลหากพบต้นที่เริ่ม แสดงอาการของโรค ให้พ่นด้วย เมทาแลกซิล 25% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20-40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 50-100 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ฟอสโฟนิก แอซิด 40% เอสแอล อัตรา 50-60 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตรฉีดพ่นทุก 1 เดือน จำนวน 2 ครั้ง หรือให้ขุดต้นที่เป็นโรคนำไป เผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที จากนั้นให้โรยปูนขาวบริเวณหลุมที่ขุด เพื่อป้องกันการระบาดของโรค และควรทำความสะอาดอุปกรณ์การเกษตร ที่ใช้กับต้นที่เป็นโรคก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ทุกครั้ง...หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ให้นำส่วนต่างๆของพืชที่เป็นโรคไปเผาทำลายหากจะปลูกสับปะรดต่อในฤดูถัดไป ควรเลือกพื้นที่ที่ไม่เคยมีการระบาดของโรคนี้มาก่อน และควรทำแปลงปลูกให้มีการระบายน้ำที่ดี ไม่มี น้ำท่วมขัง และให้เลือกใช้ส่วนขยายพันธุ์ที่มีคุณภาพดีจากแหล่งปลอดโรคก่อนปลูกควรแช่จุกหน่อพันธุ์ด้วย เมทาแลกซิล 25% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20-40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 50-100 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ฟอสโฟนิก แอซิด 40% เอสแอล อัตรา 50-60 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร นาน 15-20 นาที.สะ-เล-เต