จากการประชุมวิชาการนานาชาติ “เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ปวงชนเพื่อการศึกษา” โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงมหาดไทย, ยูนิเซฟ, ยูเนสโก และ savethechildren นายอิชิโระ มิยาซาวะ ตัวแทนจากองค์การยูเนสโกประจำประเทศไทย กล่าวว่า อัตราเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมถึงมัธยมปลายของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมายังเป็นจำนวนเท่าเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง และเมื่อเราต้องมาเจอกับสถานการณ์โควิดก็ยิ่งหลุดออกจากระบบการศึกษามากขึ้นไปอีก ดังนั้น เราต้องคิดใหม่และทำใหม่เพื่อให้เด็กๆได้รับการช่วยเหลืออย่างดีที่สุด ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการการจัดประชุมวิชาการนานาชาติฯ กล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นปัญหาเรื้อรังมาก่อนที่จะเกิดวิกฤติโควิด-19 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งตอกย้ำปัญหาให้รุนแรงขึ้น ทุกภาคส่วนเชื่อว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำแก้ไขได้ ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันเปลี่ยนแปลง ซึ่งหัวใจสำคัญคือ ปวงชนเพื่อการศึกษา หรือ All For Education ร่วมกันยกระดับความเสมอภาคทางการศึกษาด้วยการจัดการเชิงพื้นที่ มีการกระจายอำนาจ ระบบการศึกษา ปรับปรุงแก้ไขกรอบกฎหมาย เพิ่มนวัตกรรมใหม่ๆ สนับสนุนครู รวมถึงจัดการข้อมูลและสารสนเทศอย่างเป็นระบบ แนวทางใหม่ที่สำคัญ คืออยากให้การศึกษาเข้าหาเด็ก ไม่ใช่ให้เด็กต้องเข้าหาการศึกษาอย่างในอดีตน.ส.ดุริยา อมตวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ข้อสรุปครั้งนี้จะนำเสนอในที่ประชุมการศึกษาโลก ปี 2564 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ.