จดหมายของผู้ที่ใช้ชื่อ “ตำรวจนครบาล ผู้ไร้กระบี่” ขอให้ช่วยเป็นสื่อกลางสอบถามผู้บังคับบัญชาในกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ตามระเบียบเมื่อตำรวจรับราชการถึงชั้นยศจ่าสิบตำรวจ จะได้รับแจกกระบี่กันทุกคน แม้ว่าจะไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์เป็นประจำ แต่ก็ถือว่าเป็นเกียรติยศของชีวิตตำรวจตำรวจรุ่นเก่าๆ เมื่อรับราชการถึงชั้นยศจ่าสิบตำรวจจะได้รับแจกกระบี่กันทันที ต่อมาช่วงหลังๆ ทาง บช.น.อ้างว่ามีปัญหาเรื่อง “งบประมาณ” แจกให้พร้อมกันทุกคนไม่ได้ จัดสรรให้แต่ละ สน.เพียงไม่กี่เล่ม ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับแจกให้ทำบัญชีรอรับแจกในปีงบประมาณต่อไปทำให้เกิดขบวนการวิ่งเต้นบางคนยอมเสียเงินเสียทองเพื่อจะได้รับกระบี่ก่อนคนอื่น บางคนยังไม่ได้รับแจกตั้งแต่ยังรับราชการในชั้นยศจ่าสิบตำรวจ พอสอบเลื่อนเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรก็ยังไม่ได้รับแจก แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีตำรวจท่านใดในนครบาลได้รับการแจกกระบี่อีกเลยตำรวจหน่วยอื่นๆยังคงได้รับแจกอยู่ พยายามติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (สกบ.) ได้รับแจ้งว่า ทาง บช.น.ไม่เคยจัดสรรงบประมาณในการสั่งทำกระบี่มาเป็นระยะเวลานานแล้ว หากใครอยากได้ให้ไปหาซื้อเอาเอง ซึ่งราคาสูงเฉียดหมื่นบาท ไม่นานนี้ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ตำรวจชั้นสัญญาบัตรทุกคนแต่งกายชุดขาวพร้อมกระบี่ เพื่อเข้าร่วมพิธี มีตำรวจบางคนไม่สามารถหากระบี่ได้ และไม่รู้จะไปหยิบยืมจากใครเพราะทุกคนก็ต้องใช้และเข้าร่วมพิธีพร้อมกันทั่วประเทศ จะไปขอยืมจากจ่าสิบตำรวจ หรือดาบตำรวจใหม่ๆก็ไม่มีให้หยิบยืมเพราะไม่ได้รับแจกกันทุกคนจะไปยืมจากจ่าสิบตำรวจหรือดาบตำรวจเก่าๆ ทุกคนก็ได้เลื่อนยศเป็นชั้นสัญญาบัตร (นายร้อย 53) กันหมดแล้ว ซึ่งจำเป็นต้องใช้เหมือนกัน พอไม่มีกระบี่ไปร่วมพิธี ถูกตำหนิว่าปัญหาแค่นี้แก้ปัญหาเองไม่ได้คนที่เขียนมาร้องบอกว่า อยากถามกลับไปยังผู้บังคับบัญชาปัญหาแค่นี้ พวกท่านไม่มีปัญญาแก้ไขให้ ในเมื่อปัญหาลูกน้องตัวเองแท้ๆยังแก้ไขไม่ได้ แล้วจะไปแก้ไขปัญหาของประชาชนหรือประเทศชาติได้อย่างไรถูกต้องไหมที่ให้ลูกน้องควักเงินส่วนตัวเป็นหมื่นเพื่อไปหาซื้อกระบี่เตรียมไว้ในการร่วมพิธีทำไม บช.น.ไม่จัดสรร “งบประมาณ” จัดซื้อกระบี่ เพราะมีข้อมูลคนที่มีคุณสมบัติที่ได้รับกระบี่แต่ยังไม่ได้รับแจก หากมีปัญหาเรื่องงบประมาณไม่น่าถูกต้อง เพราะเท่าที่สังเกตพอใกล้สิ้นปีงบประมาณ เหลืองบประมาณ แต่ไม่กล้านำส่งคืนเพราะเกรงจะเกิดปัญหา ได้จัดทำโครงการอบรมสัมมนาเพื่อให้งบหมดไปบางโครงการอบรมคนที่อบรมมาแล้วไม่ได้เกิดประโยชน์ทางราชการ งบประมาณไม่น่าใช่ปัญหาแต่คนที่บริหารงบประมาณต่างหากคือตัวปัญหา.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th