“บิ๊กโจ๊ก” จับมือตำรวจปทุมธานี ลุยแก้ปัญหาแก๊งเด็กแว้นครบวงจร ทั้งจับกุมคนเปิดเพจชักชวนคนออกมาแว้น 2 ราย ระดมจับพวกแข่งรถในทาง 152 คน ยึดรถ จยย. 150 คัน ตรวจปัสสาวะพบฉี่ม่วง 29 คน จับกุมร้านแต่งรถ จยย. 42 ร้าน ยึดท่อไอเสีย 277 ท่อ แถมจับกุมหัวโจกเด็กแว้น 2 แก๊ง ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาททั้งยิงและปาระเบิดใส่กันทำให้มีคนบาดเจ็บจำนวนมาก ดำเนินคดีข้อหาหนักรวบหัวโจกแว้นป่วนเมืองปทุมธานี เปิดเผยขึ้นบริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี และ พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเป็นหัวโจกโพสต์ข้อความชักชวนแข่งขันรถ จยย.ทางเฟซบุ๊ก ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีพยายามฆ่าจากเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มเด็กแว้นในพื้นที่ จ.ปทุมธานี รวมถึงผลการกวดขันตรวจค้นโรงงานผลิตและจำหน่ายท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน และจับกุมเด็กเยาวชนที่ออกมามั่วสุมฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง คสช.ตามจุดต่างๆ เพื่อเตรียมแข่งขันรถในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีพล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า นายธีระพล บัวจตุรัส อายุ 24 ปี เป็นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ “พิ๊มอส ฮัลโหลลล”และ “Teeraphol Buajaturat” มีผู้ติดตามจำนวน 1,250 คน ชักชวนเยาวชนให้มาแข่งรถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียง และนายปราโมทย์ บูชา อายุ 18 ปี เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อ “จิ๊กโก๋' สองโล” และ “Mote Sdong” ที่มีผู้ติดตามจำนวน 1,500 คน ชักชวนเยาวชนให้ ออกมารวมตัวแข่งขันรถในทางบริเวณถนนสายรังสิต-นครนายกพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นเส้นทางหลักเข้าสู่จังหวัดนครนายก“จากสถิติการร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุจังหวัดปทุมธานี มีประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุว่า มีกลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามากถึง 350 ครั้ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดมีนบุรีที่ จ.636/61 และ จ.637/61 ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ ต่อมาจับกุมนายปราโมทย์และนายธีระพล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จังหวัดมีนบุรีได้แล้ว นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินการตามกฎหมาย” รอง ผบช.ทท.กล่าวพล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่ลง พื้นที่กวดขันป้องกันปราบปรามการแข่งขันรถในทาง ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 150 คัน ตรวจปัสสาวะผู้ขับขี่หาสารเสพติด 152 คน แบ่งเป็นเยาวชน 15 คน ผู้ใหญ่ 137 คน พบสารเสพติดในปัสสาวะ 29 คน แบ่งเป็นพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในผู้ใหญ่ 23 คน และพบสารเสพติดประเภทกัญชาในผู้ใหญ่ 6 คน นอกจากนี้ยังตรวจร้านจำหน่ายท่อ ไอเสีย 131 ร้าน พบร้านที่กระทำความผิดจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 42 ร้าน ยึดท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานรวม 277 ท่อ“นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้อีก 2 คนคือ นายอนุชา ศรทอง อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 459/61 ลงวันที่ 26 มิ.ย.61 และนายมารุต สืบถิ่น อายุ 18 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญญบุรีที่ 465/61 ลงวันที่ 29 มิ.ย.61 ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเป็นหัวโจกกลุ่มเด็กแว้น 2 กลุ่มที่มีปัญหากันมานาน เมื่อทั้งสองกลุ่มพบกันครั้งใดจะทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ทั้ง 2 กลุ่มออกมาแข่งรถและพบกันจนเกิดปะทะกันขึ้น นายอนุชาใช้ปืนยิงใส่กลุ่มของนายมารุต 3 นัดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ นายมารุตจึงใช้ระเบิดปิงปองปาใส่กลุ่มของนายอนุชาทำให้มี ผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2คนความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะฯ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว
