โดยความรับรู้เดิมๆ อาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ ท่านเป็นต้นตำรับทฤษฎีนิรนาม สำนักท่าพระจันทร์...สี่แม่พิมพ์พิมพ์ใหญ่...วัดระฆังครับ...แต่ในนิตยสารผู้จัดการ ฉบับสัปดาห์ที่แล้ว อาจารย์รังสรรค์แนะนำสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ ขัดสมาธิเพชร ครับ...สำหรับผมนี่คือครั้งแรกของการยอมรับทฤษฎีห้าแม่พิมพ์เกศบัวตูมของ “ตรียัมปวาย” ห้าแม่พิมพ์เกศบัวตูม ของครูตรียัมปวาย...พิมพ์เขื่อง พิมพ์โปร่ง พิมพ์สันทัด พิมพ์ย่อม พิมพ์เกศบัวเรียว ที่จริงผมผ่านตามาบ้าง เพียงแต่ยังไม่มากพอ ที่จะชี้ชัดว่า สามในห้าแม่พิมพ์เกศบัวตูม ที่ครูว่าขัดสมาธิเพชร เป็นพิมพ์ไหนบ้าง?ตัวอย่าง เกศบัวตูม วัดระฆังองค์ในคอลัมน์วันนี้...ผมเพียงแน่ใจว่า เป็นพระแท้... แต่ตอนที่เขียนแนะไป ยังไม่รู้มาเลยว่า เกศ บัวตูม มีทั้งพิมพ์ขัดสมาธิราบ เหมือนพิมพ์ ฐานสิงห์แคบ และฐานสิงห์กว้าง ที่วงการเล่นหากัน ยังมีพิมพ์ขัดสมาธิเพชรด้วยวงการรู้กัน จำนวนพระพิมพ์เกศบัวตูม มีน้อย พระแท้มีแทบจะนับองค์ได้ สำมะหาอะไร จะไปรู้ว่า ยังมีพิมพ์ขัดสมาธิเพชรอีกสามแม่พิมพ์ คือพิมพ์เขื่อง พิมพ์โปร่ง พิมพ์เกศบัวเรียวด้วยเหตุผลพื้นฐาน พระสมเด็จเนื้อปูนปั้น ส่วนใหญ่ เห็นพระเพลาเป็นแท่งเดียว น้อยองค์นักที่ติดพิมพ์ลึก ถึงขั้นเห็นร่องแบ่งพระบาทสองข้างแต่ข้อสังเกตจากครู เทียบเคียงกับพระเพลาพิมพ์ฐานแซม มีเค้าเว้า หรือบุ๋มตรงกลาง เมื่อสังเกตได้ เกศบัวตูมองค์ในคอลัมน์ ว่ากันโดยขนาด น่าจะเป็นพิมพ์ย่อม มีเค้าเว้าหรือบุ๋มตรงกลาง...ก็ตามสังเกตเส้นสายลายพิมพ์อื่น ระยะแคบ ระยะห่าง...ก็เริ่มพบว่า มีวี่แววต่างจากพิมพ์องค์คุณมนตรีที่คุ้นตาลองหยุดประเด็น “พิมพ์ใช่” ถูกต้องทุกเส้นสายหรือไม่...หันไปพิจารณาเนื้อหา...องค์นี้สภาพก่อนถึงมือแห้งผาก ผิวพระยังดิบๆเดิมๆ เมื่อเทียบเคียงกับเกศบัวตูม องค์ครูแล้ว ไม่ตรงกันนัก เจ้าของพระทั่วๆไป ถ้าใจไม่แข็งมากพอ จิตก็ตก สรุปว่าไม่น่าจะดี แต่คนเป็นพระจริงๆ ดูนิดเดียว นี่คือ ความแห้งบริสุทธิ์ ตามทฤษฎีตรียัมปวาย...ลองจุ่มน้ำ รอให้น้ำแห้ง แล้วเอามือลูบไล้ ...ผิวพระก็จะเริ่มชื้น ขึ้นมือออกแววเหลืองอ่อน...ตัดกับหลุมร่อง รอยยุบ รอยแยก ที่มีฝ้ารักสีดำแกมน้ำตาล เข้าแว่นขยายสิบเท่า หามวลสาร เจอ “ก้อนขาว” “กากดำ” “เม็ดแดง” ประปรายเหล่านี้คือธรรมชาติของเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังแท้ มาตรฐาน...ละสายตาจากการเจาะลงลึก มาดูห่างๆ ดูภาพรวมเส้นสายลายพิมพ์...อีกครั้ง ครั้งนี้จะเห็นเส้นคมๆของเส้นแซมสองเส้นระหว่างฐานสามชั้น...กับเส้นกรอบกระจกคมกริบครบสี่ด้าน พลิกดูขอบมนๆด้านหลัง...ล้อมหลุมร่อง และระนาบผิวพื้นที่ดูผิวเผินราบเรียบ แต่จริงแล้วมีเนิน...ลาด สูงต่ำไม่เท่ากัน...ทั้งแผ่นหลังนี่คือ...อีกวิธีดูพระแท้...ด้วยตาเปล่า...จะสัมผัสความเก่าของเนื้อ ที่ผ่านการเผาไหม้ของอากาศ ผ่านวันเวลายาวนานตามอายุพระ ราว 160 ปีแตกต่างจากผิว หรือเนื้อพระปลอม สดใหม่ ที่ผ่านการอบ การทอด การตกแต่งสารพัดวิธี...และใช้วันเดือนปีน้อยกว่า...ก็จะพอ “มโน” ได้ว่า พระสมเด็จวัดระฆังแท้...ท่านเป็นเช่นนี้พรรณนามายืดยาว เหมือนจะตอกย้ำให้เกิดความเชื่อมั่น...ว่า พระที่เซียนวงการว่า ผิดพิมพ์ หรือนอกพิมพ์ มีพระแท้..ก็จริง แต่ก็จะขอย้อนมาเตือนความจำว่า พระสภาพนี้ คือพระที่ควรหาขึ้นคอ...อย่างสบายใจ คนละเรื่องกับพระในกลไกตลาด...ที่ใช้หลักการซื้อขาย...ตัดสินทุกประการ.พลายชุมพลคลิกอ่านคอลัมน์ “ปาฏิหาริย์จากหิ้งพระ” เพิ่มเติม