เปิดตลาดพระ สนามพระวิภาวดี อาทิตย์แรก รับรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของ นายกฯหนู–อนุทิน ที่วงการพระคุ้นเคยมาสิบกว่าปี ซึ่งมาแบบสายฟ้าแลบ การเมืองพลิกไม่กี่ตลบก็พุ่งขึ้นสู่ตำแหน่งบริหารสูงสุดของประเทศแล้ว--คนวงการพระก็ฝากยินดี และหวังเป็นที่สุดว่า ครม.ใหม่จะกอบกู้เศรษฐกิจให้สำเร็จ จะได้ซื้อขายพระกันให้สำราญใจเหมือนแต่ก่อน เพราะจ๋องกันมาหลายปีแล้วเข้าไปดูกันวันนี้ มีอะไรมาต้อนรับ ครม.หนู ๑ บ้าง องค์แรก พระสมเด็จ พิมพ์เจดีย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ พิมพ์นิยมมาตรฐาน อันดับ ๒ ในสกุลพระสมเด็จ วัดระฆังฯ นิยมเรียก พิมพ์ทรงเจดีย์ ตามลักษณะพิมพ์พระ พุทธศิลป์รัตนโกสินทร์ ที่ประทับนั่งปางสมาธิ เหนือฐาน ๓ ชั้น ขนาดลดหลั่น ไล่จากฐานล่าง กว้างสุดขึ้นเป็นฐานสิงห์ชั้นกลาง และชั้นบนสุดกว้างเสมอพระหนุรองรับองค์พระอยู่ในซุ้มครอบแก้วเหมือน พระพิมพ์ใหญ่ แต่ขนาดเล็กกว่า องค์พระที่มีอัตลักษณ์เทียบได้กับ เจดีย์ แยกเล่นเป็นพิมพ์ย่อยตามความแตกต่างได้ ๓ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์เจดีย์ (A) ที่มี “องค์เจ๊แจ๋ว” อดีตอนุภรรเมียของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นแชมป์พิมพ์ ๒.พิมพ์เจดีย์ (B) อย่างองค์นี้แชมป์ของพิมพ์ที่มีภาพการันตีมาแต่อดีตถึงปัจจุบัน ๓.พิมพ์เจดีย์เล็ก (C) หรือพิมพ์ผอม ที่องค์พระมีลักษณะสอบแคบ เส้นศิลป์บอบบางแตกต่างชัดเจน องค์นี้ของ เสี่ยวัฒน์ บางแค มืออาชีพสายตรง ที่ห่างหายจากสนามเราไปนาน พอกลับมาก็ฮือฮาด้วยพระสมเด็จ “องค์อมตะ” พระสมเด็จ พิมพ์ทรงเจดีย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯ ของวัฒน์ บางแค.องค์ที่สอง พระท่ากระดาน กรุเก่า อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พระกรุพระเก่า ๑ ใน ๕ พระยอดขุนพล (นั่ง) ชุดเบญจภาคี ที่มี ๑.พระหูยานลพบุรี ๒.พระพุทธชินราชใบเสมา จ.พิษณุโลก ๓.พระท่ากระดาน กาญจนบุรี ๔.พระร่วงนั่งหลังลิ่ม จ.สุโขทัย ๕.พระมเหศวร จ.สุพรรณบุรี ลักษณะเป็นองค์พระ เทหล่อลอยองค์ด้วยเนื้อตะกั่วแบบครึ่งซีก ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางมารวิชัย พุทธศิลป์สมัยอู่ทอง (ยุคต้น) ด้านหลังเรียบ มักมีรอยหดยุบของเนื้อตามอายุผิว เนื้อมีสนิมแดง ไขขาวขึ้นจับแน่น ค้นพบครั้งแรกในถ้ำ “ลั่นทม” พร้อมแม่พิมพ์พระและเศษเนื้อตะกั่ว จึงสันนิษฐานว่าเป็นแหล่งผลิต ที่มีพระฤๅษีเป็นผู้สร้าง ต่อมาค้นพบในกรุพระวัดเหนือ วัดกลาง วัดใต้ ใน ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี เมื่อราวปี พ.ศ.๒๔๙๕-๙๖ พระทุกองค์มีสนิมแดง ไขขาว ขึ้นจับแน่นเข้าผิวเนื้อตามอายุ ที่มีการปิดทองไว้เกือบทุกองค์ เรียกเป็น “พระกรุเก่า” แยกเล่นเป็นพิมพ์ ๑.เกศตรง ๒.เกศบิด ๓.เกศบัวตูม องค์นี้ของ เสี่ยกบ Kerry–ฐิการ ศุภวิรัชบัญชา เป็นพิมพ์เกศตรง สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ ทำให้นึกถึงองค์แชมป์สุดๆ ในตำนานของ ท่านเสถียร เสถียรสุต คอลเลกเตอร์ชื่อดังยุคก่อน เพราะความสมบูรณ์งดงามของรูปทรงพิมพ์พระสนิมแดง ไขขาว ทองเก่า ใกล้เคียงกันมาก จึงจัดเป็น “พระแชมป์” อีกองค์ พระขุนแผน ทรงพลเล็ก กรุวัด บ้านกร่าง ของโต้ง คนสุพรรณ.ต่อด้วย พระขุนแผน ทรงพลเล็ก กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี พระพิมพ์เนื้อดินเผายอดนิยม เบอร์ต้นของเมืองสุพรรณบุรี ที่มีบันทึกเชื่อได้ว่า สมเด็จพระนเรศวร สร้าง ตอนไปพักทัพที่วัดนี้ ก่อนทำศึกยุทธหัตถี เพื่อให้ทหารติดตัวไปคุ้มครอง ขากลับจึงสร้างพระเจดีย์ให้ทหารนำพระบรรจุไว้ พอพระเจดีย์พังทลายตามกาลเวลาพระจึงไหลออกมา คนนำไปใช้บูชาพบอานุภาพ ด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี จึงมีชื่อเสียงนับจากนั้นมา และยังมีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม จึงได้ชื่อ “พระขุนแผน” ตามนามพระเอกที่สาวๆ รักหลง องค์นี้ของ เสี่ยโต้ง คนสุพรรณ เป็นพระพิมพ์ทรงพลเล็ก สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆแบบนี้ ราคาหลักแสนต้น พระปิลันทน์ พิมพ์ครอบแก้วเล็ก พระพุทธบาทปิลันทน์ วัดระฆังฯ ของคุณสมชาย สัญญรัตน์.ต่อไปเป็น พระปิลันทน์ พิมพ์เปลวเพลิงเล็ก ที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต เสนีย์วงศ์) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ศิษย์สายตรง สืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) สร้างไว้ขณะดำรงฐานาสมณศักดิ์ที่พระพุทธบาทปิลันทน์ เป็นพระพิมพ์ เนื้อผงพุทธคุณ ๕ ประการ ผสมใบลานเผา พิมพ์พระฝีมือช่างหลวง มีหลายแบบ หลายขนาด ราว ๒๐ พิมพ์ อาทิ พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์เปลวเพลิงเล็ก-ใหญ่ พิมพ์ซุ้มประตู พิมพ์ปางปฐมเทศนา พิมพ์พระปิดตา ฯลฯ ได้รับความนิยมใช้บูชาแทนพระสมเด็จวัดระฆังฯ องค์นี้ของ เสี่ยสมชาย สัญญรัตน์ เป็นพระพิมพ์มาตรฐาน ในหมวดพิมพ์เล็ก ที่ปัจจุบันคนยากได้มาก เพราะราคาที่จ่ายไหว และมั่นใจว่ามีอานุภาพอย่าง “พระสมเด็จ” แบบไม่ใช่ก็ใกล้เคียง พระกริ่งชินบัญชร ก้นอุดผง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ของ พงศ์ พัฒนเลิศรัตนไชย.อีกสำนักเป็น พระกริ่งชินบัญชร ก้นอุดผง พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย ระยอง คณะศิษย์จัดสร้างแบบเทหล่อโบราณ มี ๔ แบบ คือ ๑.พระกริ่ง ๒.พระชัยวัฒน์ ๓.พระสังกัจจายน์ ๔.พระปิดตา เนื้อชนวนหลักเป็นแผ่นยันต์ชินบัญชร นะ ๑๐๘ โดย หลวงปู่ทิม เป็นประธานประกอบพิธีหล่อ ที่ลานวัดละหารไร่ เมื่อวันที่ ๕ พ.ค.๒๕๑๗ องค์พระกริ่งจำลองจากพระกริ่งใหญ่ของจีน ด้วยเนื้อโลหะทองคำ มี ๑๓ องค์ เนื้อบรมพุทโธ ๙ องค์ เนื้อนวโลหะก้นทองคำ ๑๖ องค์ เนื้อนวะกะไหล่ทอง ๙ องค์ เนื้อนวะก้นอุดผงพรายกุมาร ๑๐๔ องค์ เนื้อนวะก้นเงิน ๓๙๐ องค์ (ตอกเลขออกวัดเจ้าเจ็ด ๑๙๕ องค์) เนื้อนวะก้นทองแดง ๒,๕๙๕ องค์ องค์นี้ของ เสี่ยพงศ์ พัฒนเลิศรัตนไชย เป็นเนื้อนวะก้นอุดผงพรายกุมาร สวย สมบูรณ์ เดิมๆ ราคาเทียบชั้นพระกริ่งยอดนิยมยุคเก่า ที่หลักแสนปลาย แต่ก็หาพระยากกว่าหาเงิน พระพิมพ์รูปเหมือนเศียรโต หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ของ วันชัย ศิริวรรณโภคากุล.สุดท้ายก็ของ หลวงปู่ทิม เป็น พระพิมพ์รูปเหมือนเศียรโต เนื้อผงพรายกุมาร พ.ศ.๒๕๑๕ สร้างพร้อม พระขุนแผน ผงพรายกุมาร แยกพิมพ์เป็น เศียรเล็ก กับ เศียรโต อย่างองค์นี้ของ เสี่ยวันชัย ศิริวรรณโภคากุล เป็นพิมพ์สร้างน้อย หายาก โดยเฉพาะองค์สวยสมบูรณ์ เดิมๆแบบนี้--แถมมีทีเด็ด ที่ส่งมาพร้อมฟิล์มเอกซเรย์ว่าเป็นพระชัยฯ พระใบมะขาม กับมีเม็ดกริ่งฝังไว้ในองค์ด้วย ๔ in ๑ แบบนี้ ราคาก็ต้องว่ากันเป็นพิเศษ ลากันด้วยเรื่องปิดท้ายของเสี่ยฮุย พ่อค้าขายส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งซื้อพระจากมือ อาชีพขาประจำ ด้วยเงื่อนไขโดนใจรับประกันพระแท้ทุกองค์ ถ้า “เก๊” รับคืนเต็มราคา ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหาเลยแม้แต่องค์เดียว เมื่ออาทิตย์ก่อน เซียนพระก็เอา พระสมเด็จวัดระฆังฯ รุ่น ๑๐๐ ปี พร้อมตลับทองมาเสนอ ๓๕๐,๐๐๐ บาท เสี่ยฮุย ส่องแล้วก็ชอบแต่ขอต่อเหลือ ๒ แสน เซียนก็ชี้แจงว่าอย่าต่อผมเลย ราคานี้ก็เกรงใจแล้ว แค่ตลับทองก็ ๑๕๐,๐๐๐ เหลือราคาพระแค่ ๒๐๐,๐๐๐ พระแท้ดูง่ายสวยแชมป์เดิมๆ ราคานี้ถูกสุดๆแล้วเฮีย เสี่ยฮุย ฟังแล้วยิ้มบอกว่า ก็รู้ว่าเป็นพระแท้ ดูง่าย ราคาพระไม่มีปัญหา แต่ที่ขอลดลงไป ๑๕๐,๐๐๐ เพราะเป็นราคาตลับ ที่น่าจะเป็นทองเก๊ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.สีกาอ่างคลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม