สนามพระวิภาวดี อยู่ในเทศกาลเข้าพรรษา มา ๓ วันแล้ว ซึ่งก็ดีใจว่าถึงจะมีเรื่องอัปรีย์ของพระและสีกา ซึ่งผุดมาแต่ละวัดล้วนแต่นรกจัญไร ทั้งแก้ผ้าอาบน้ำยั่วพระ ล่าพระเป็นผัว ฯลฯ แต่คนไทยหัวใจพุทธก็แยกแยะได้ว่าพระดีก็มาก พระเลวก็มีไม่น้อย เหมือนทุกวงการปะปนกันไป จึงยังมีศรัทธากับพระพุทธศาสนา และเข้าวัดทำบุญกันอยู่ จากนี้ไปเมืองไทยก็เข้าสู่หน้าฝนเต็มฤดู ให้ลุ้นว่าน้ำจะท่วมไหม ถ้าฝนตกห่าใหญ่ก็น่ากลัว--คำว่า ห่า ไม่ใช่คำด่า แต่เป็นคำโบราณ ใช้เรียก ปริมาณฝน และ หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล เคยรับสั่งว่า น้ำฝนเต็ม ๑ บาตรพระ คือ ๑ ห่า แต่ทำไมถึงใช้คำว่า ห่า กับฝน อันนี้ก็สันนิษฐานและเดากันไปต่างๆนานาเข้าสนามดูพระกันต่อ องค์แรก พระสมเด็จพิมพ์ฐานแซม สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ พิมพ์นิยมมาตรฐานสุดท้ายในสกุล “พระสมเด็จฯ วัดระฆังฯ” ฟอร์มทรงบนกว้าง ล่างแคบ เส้นศิลป์บางเบา มีเส้นแซมระหว่างเส้นฐานหลัก เป็นที่มาของชื่อพิมพ์ ซึ่งพบมากสุด จึงถูกกำหนดให้เป็นพิมพ์นิยมท้ายสุดใน ๔ พิมพ์ พระสมเด็จพิมพ์ฐานแซม สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต ) วัดระฆังฯ ของอ้วนลอยฟ้า คุณพระคุ้มครอง.ในอดีตราคาถูกสุด ปัจจุบันหายากมากขึ้น โดยเฉพาะองค์งามๆ เดิมๆ อย่างองค์นี้ของ เสี่ยอ้วนลอยฟ้า คุณพระคุ้มครอง พระแท้ดูง่าย ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร ธรรมชาติผิวเนื้อด้านหน้ารอยปริ รอยปาดด้านหลัง มีจุดพิจารณาครบ อย่าง “พระองค์ครู” ก็หลายสิบล้านแล้วตรงนี้มี คำถามสนามพระ ค้างอยู่ว่า พระอาจารย์ของสมเด็จโต นอกจาก สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) แล้ว มีใครบ้าง ก็ค้นๆมา ได้ข้อมูลมาว่าท่านมีอา จารย์เยอะอยู่ ตอนเป็นเณรอยู่วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม เป็นศิษย์ เจ้าคุณอรัญญิก มี เจ้าคุณพระบวรวิชัยเถร วัดสังเวชฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ พอย้ายไปวัดระฆังฯ ก็อยู่กับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ตอนบวชมี สมเด็จพระสังฆราช (สุก) เป็นพระอุปัชฌาย์ และยังมี พระอาจารย์แสง วัดชีป่า ลพบุรี เป็นอาจารย์ทางวิปัสสนาด้วย ซึ่งมีประวัติตำนานเข้มขลังของ พระอาจารย์แสง มากมาย ไว้วันหลังจะเล่าเม้าท์ต่อ พระกริ่งธรรมโกษาจารย์ พ.ศ. ๒๔๔๘-๕๐ สมเด็จพระสังฆราข (แพ ) วัดสุทัศน์ ของเมธา มณีรัตน์.อีกองค์คือ พระกริ่งธรรมโกษาจารย์ ที่ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ ทรงสร้างตอนสมณศักดิ์ที่ พระธรรมโกษาจารย์ ระหว่าง พ.ศ.๒๔๔๘-๕๐ นับเป็นพระกริ่งยุคแรกของท่าน ที่ยังไม่มีพิมพ์พระเฉพาะ จึงใช้ พระกริ่งปวเรศฯ แต่ ปาดบัวด้านหลังออก เป็นต้นแบบ เพื่อความแตกต่าง เทหล่อแบบ กริ่งในตัว บรรจุกริ่งอุดสะโพก ๑ รู ฝีมือช่างตกแต่งเป็นจุดเด่นในการพิจารณา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝีมือ “พระครูปลัดจิ๋ว” คณะ ๘ ที่มีฝีมือทางช่าง เพราะเคยเป็นลูกมือของหลวงสุวรรณ ช่างทองราชสำนัก ส่วนช่างอื่นๆ ยุคแรกเป็นฝีมือ “ช่างหลวง” ระยะหลัง “ช่างเจริญ” แต่นิยมฝีมือ “ช่างจิ๋ว” มากสุด--องค์นี้ของ เสี่ยเมธา มณีรัตน์ตามด้วย รูปเหมือนปั๊ม รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๒ พิมพ์ C เนื้อทองเหลือง หลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนองโพ นครสวรรค์ สร้างออกเป็นรุ่นแรกของวัดหนองโพ เป็นรูปจำลอง (ปั๊ม) องค์ท่านนั่งสมาธิลอยองค์ มีแม่พิมพ์เดียวแต่แยกเล่นตามความรายละเอียดของการใช้แม่พิมพ์ เป็นพิมพ์ย่อยA, B, C, D เนื้อพระเป็นโลหะอัลปาก้ากับทองเหลือง องค์นี้ของ เสี่ยวรสิทธิ์ ภูมิใจสกุล เป็นพระพิมพ์ C สวยแชมป์ เดิมๆ สมบูรณ์ ราคาก็หลายล้าน รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๒ เนื้อทองเหลือง พิมพ์ C หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ของวรสิทธิ์ ภูมิใจสกุล.ถัดไปก็ของ หลวงพ่อเดิม เป็น รูปเหมือนลอยองค์ หล่อโบราณ แต่ หลวงพ่อเดิม ไปสร้างออกที่ วัดหนองหลวง จ.นครสวรรค์ เนื้อโลหะผสมเท หล่อลอยองค์แบบโบราณ เพื่อหาทุนสร้างพระอุโบสถวัดหนองหลวง โดยหลวงพ่อรับนิมนต์ไปเป็นองค์ประธานทั้งพิธีเททองและปลุกเสกเป็นรูปจำลองท่าน นั่งสมาธิเต็มองค์ ทรงชะลูด เนื้อโลหะผสมเทหล่อโบราณ แม่พิมพ์แยกเป็น ๒ แบบ คือ พิมพ์ฐานสูงกับพิมพ์ฐานเตี้ย อย่างองค์นี้ของ แอร์ พระสมเด็จ (สาว นครสวรรค์) เป็นพระสภาพเดิมๆ สมบูรณ์ สวยคลาสสิก ได้รับความนิยมเป็นรองของวัดหนองโพ แต่ราคาไล่หลังมาติดๆ ที่หลักล้านแล้ว เหรียญเสมา รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๐ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ของท้อป เมืองกาญจน์.รายการต่อไป ก็สำนักวัดหนองโพ เหรียญเสมา รุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๗๐ หลวงพ่อเดิม ซึ่งเป็นเหรียญพระเกจิยอดนิยมอันดับ ๑ ของ นครสวรรค์สร้างออกเป็นรุ่นแรก เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๐ แบบปั๊ม ทรงเสมา มีหูในตัว เนื้อเหรียญทองแดง อย่างนี้ของ เสี่ยท้อป เมืองกาญจน์ จัดเป็น ๑ ในเหรียญพระเกจิฯ ราคาหลักแสน-ล้าน เหรียญลาภลอย อาจารย์ลอย โพธิ์เงิน พ.ศ.๒๕๖๕ พระครูวินัยธรอนุวัตร วัดเหนือ ของเสี่ยเต้ วรชัย.สุดท้ายดู เหรียญลาภลอย อาจารย์ลอย โพธิ์เงิน พ.ศ.๒๕๖๕ พระครูวินัยธรอนุวัตร วัดเหนือ เจ้าคณะ ต.วังพิกุล เพชรบูรณ์ อาจารย์ฆราวาส ศิษย์สืบทอดวิชาพุทธาคม หลวงพ่อเดิม พุทธสโร มีชื่อเสียงเป็นผู้มีวิชาอาคมเข้มขลัง และแพร่หลายถึงพื้นที่ใกล้เคียง มีฆราวาส พระ มาฝากตัวเป็นศิษย์กันมากรวมทั้ง “อาจารย์มหา” พระครูวินัยธร เจ้าอาวาสวัดเหนือ (ผู้รับสืบทอดวิชาสร้าง หุ่นพยนต์ “พ่อหุ่นนารายณ์” ที่เข้มขลังมากๆ หายากสุดๆ) สร้างเหรียญนี้ออกเป็นการ “บูชาครู”เป็นเหรียญปั๊ม รูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปจำลอง อาจารย์ลอย ครึ่งตัว ชิดขอบเหรียญ ด้านบนมีอักษร “ลาภลอย” ด้านล่างบอกนาม อาจารย์ลอย โพธิ์เงิน ด้านหลังเหรียญเป็น รูปยันต์ครู พ่อหุ่นนารายณ์ บอกนาม “วัดเหนือ” รูปเหมือนหล่อโบราณ หลวงพ่อเดิม วัดหนองหลวง.เนื้อเหรียญ มีทองแดงกับเงินแบบนี้ ที่สร้างเพียง ๑๐๐ เหรียญ เหรียญนี้ของ เสี่ยเต้ วรชัย ศิษย์เอก เป็นเหรียญ ๑ใน ๑๐๐ ที่มีเลขไทยตอกกำกับ ลำดับที่ ๗๙ สภาพสวยกริ๊บมาถึงเรื่องปิดท้ายวันนี้ ซึ่งเกิดที่ร้านพระเครื่องบนศูนย์การค้า สถานีขนส่งชานกรุงฯ ซึ่งระยะนี้มีมืออัปมือสมัครใจ สมัครเล้นไปชุมนุมกันมากขึ้นแต่แทนที่จะเจรจาเรื่องพระเครื่องของขลัง กลับคุยแต่การบ้านการเมือง ซึ่งตอนนี้เรื่องฮอตสุดยกให้ สาวใหญ่หม่ำ พระ ก็คุยไปด่าไป สาปแช่งให้ตกนรกหมกไหม้--ยิ่งคุย ยิ่งขุดคุ้ย ทุกคนก็ยิ่งของขึ้น รู้สึกรุนแรง ขนาดจะเลิกไหว้พระกันเลยจนมือสมัครเล่นที่อยู่ในกลุ่มเริ่มหน้าเสีย จึงยกมือขอออกความเห็นบ้าง ว่า ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวมาก เข้าวัดไหนก็ได้ผัวทุกวัด ดังนั้นเราต้องช่วยกันดู อย่าปล่อยให้นางเข้ามาในวงการพระเครื่องเด็ดขาด เพราะอาจก่อเรื่อง และทำให้วงการพระเครื่องเสื่อมจนคนเลิกเล่นพระ ซึ่งผมต้องแย่แน่ เพราะเพิ่งลงทุนซื้อพระเก็บไว้เยอะแยะ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.สีกาอ่างคลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม