ภัยจากฝุ่นพิษ PM 2.5 ควันบุหรี่ สารเคมีในอากาศ รวมถึงโรคระบาดอย่างโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ที่แม้จะหายแล้วแต่อาจทิ้งร่องรอยความเสียหายถาวรไว้ในปอดแบบไม่แสดงอาการ ความน่ากลัวที่สุดคือ โรคระบบทางเดินหายใจจำนวนมาก โดยเฉพาะ “มะเร็งปอด” ที่มักไม่แสดงอาการใดๆเลยในระยะแรก ซึ่ง ผศ.นพ.วิรัช ตั้งสุจริตวิจิตร แพทย์ผู้ชำนาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิมุต ได้อธิบายว่าโรคปอดไม่ได้มีแค่มะเร็ง แต่ยังรวมถึงโรคเรื้อรังที่คนไทยมักมองข้าม เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือ COPD ซึ่งเกิดจากการสูบบุหรี่และการสัมผัสฝุ่นควันเป็นเวลานาน โรคพังผืดในปอดหรือแม้แต่ภาวะปอดอักเสบหลังติดเชื้อไวรัส เช่น โควิด-19 ที่อาจจะยังคงทิ้งรอยแผลถาวรในปอดโดยไม่แสดงอาการ โรคปอดที่เกิดจากการประกอบอาชีพ การปล่อยปละละเลยโรคเหล่านี้ไว้ในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพในการหายใจ ทำให้เหนื่อยง่าย และเสี่ยงต่อการเสียหายของปอดในระยะยาว และบางครั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอดได้ในที่สุด ผศ.นพ.วิรัช ได้อัปเดตการดูแลรักษาโรคปอดนี้ว่า ทุกวันนี้การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเข้มต่ำ (Low-Dose CT หรือ LDCT) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหามะเร็งปอดระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่หรือมีประวัติสัมผัสสารก่อมะเร็ง หลายคนอาจมองว่า ทำ LDCT ก็แค่รู้ผล ว่าเป็นหรือไม่เป็นมะเร็ง แต่ความจริงแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายหรือจบแค่การรู้ผลเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักคือ LDCT อาจ พบสิ่งผิดปกติที่ไม่ใช่มะเร็งก็ได้ เช่น จุดเงาเล็กๆ ที่เกิดจากพังผืดหรือแคลเซียม ร่องรอยจากการติดเชื้อในอดีต เยื่อหุ้มปอดที่หนาตัวจากการอัก เสบเรื้อรัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจไม่มีอันตราย แต่หากผู้ป่วยไม่ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจน ก็อาจเกิดความวิตกกังวลโดยไม่จำเป็นด้วยเหตุนี้ โรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน จึงให้ความสำคัญกับการดูแลทั้งก่อนและหลังการตรวจ LDCT โดยมีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินหายใจที่มีประสบการณ์ในการอ่านผลและวิเคราะห์ร่วมไปกับประวัติสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย ที่ศูนย์สุขภาพปอด ชั้น 7 โรงพยาบาลวิมุต เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม