แม้จะมีข่าวชวนขนหัวลุกในวงการมวย ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดหนักไปทั่ว โดยส่วนหนึ่งมาจากสนามมวย แต่อีกด้าน สมจิตร แว่นแก้ว หรือ จิตร เมืองนนท์ กลับบอกว่า นี่เป็นโอกาสที่จะได้จัดการกับทั้งค่ายมวย สนามมวยให้มีมาตรฐานมากขึ้น หลังจากที่เขาเพิ่งได้รับรางวัลหัวหน้าค่ายมวยดีเด่น ผู้จัดรายการแข่งขันมวยหรือโปรโมเตอร์ดีเด่น ผู้ฝึกสอนกีฬามวยดีเด่น และนักมวยไทยอาชีพดีเด่น จากการกีฬาแห่งประเทศไทย มาหมาดๆ“โชคดีมากครับ ที่วันที่เขามีรายการแข่งที่ลุมพินี ผมไม่ได้ไป และก็ไม่ได้ส่งนักมวยจากค่ายมวยจิตร เมืองนนท์ไปเลย ต้องถือว่าเป็นความโชคดีของทั้งผมและค่ายมวยจริงๆ”และเพราะเหตุโควิด-19 ระบาดจากสนามมวย ทำให้จิตรมีเวลาว่าง หลังจากพ่นยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดค่าย และให้นักมวยกว่า 40 ชีวิตในค่ายได้พักผ่อนในช่วงนี้แล้ว ส่วนตัวเขาเลยถือโอกาสกลับมาดูแลสวนทุเรียนกว่า 7 ไร่ ที่ตำบลท่าอิฐ ซึ่งปลูกทุเรียนนนท์ไว้มากกว่า 200 ต้น โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์โบราณที่หายาก อย่างเช่น พันธุ์กบแม่เฒ่า หรือพันธุ์ก้านยาว ชะนี ดั้งเดิมของเมืองนนท์ หลังปิดค่ายมวยตามนโยบายรัฐบาล จิตร ให้นักมวยในค่ายกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ และกำชับว่าให้ดูแลตัวเอง อย่าไปอยู่ในที่เสี่ยงติดโรค พร้อมกับทำความสะอาดฉีดพ่นทุกซอกทุกมุมของค่ายและการมาดูค่ายมวยจิตร เมืองนนท์คราวนี้ ทำให้เราได้เจอตัวจริงของนักมวยคนดัง อย่าง รถถัง จิตรเมืองนนท์ ที่คว้าแชมป์มวยไทยโลกรุ่นฟลายเวท และ ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์ แชมป์มวยไทยนานาชาติโลกด้วย ตื่นเต้นมากๆออกจากค่ายมวย จิตรพาเราเดินทางสู่สวนทุเรียน ที่ต้องบอกว่าเป็นมุมสงบส่วนตัวของจิตร ที่เขาบอกว่า ชอบมาพักผ่อนที่สวนนี้ เวลาเครียดๆ มีปัญหาเรื่องงาน คิดอะไรไม่ออก ก็มาเดินดูต้นทุเรียน ดูสวนเพลินๆ ช่วยให้หายเครียดได้ ที่สำคัญเขาหมายมั่นปั้นมือที่จะทำให้สวนทุเรียนที่ท่าอิฐของเขาเป็นแลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวของเมืองนนท์ ในอนาคตอันใกล้ เที่ยวจนเพลิน จิตรเลยชวนไปหาของอร่อยกิน แน่นอนร้านเล็กๆแต่รสชาติไม่ธรรมดาที่แม้แต่นายกเทศมนตรีเมืองนนทบุรี ยังต้องผูกปิ่นโตประจำ นั่นก็คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อและข้าวขาหมูนายโส่ย ที่ต้องบอกเลยว่า ใครมาเมืองนนท์ไม่กินร้านนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเมืองนนท์เมนูเด็ดของร้าน นอกจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรลับเฉพาะที่คัดสรรเนื้อวัวอย่างดี หมักได้ที่ ต้มจนเปื่อย และสูตรน้ำซุปที่ไม่เหมือนใครแล้ว ร้านนี้ยังมีเมนูเสริมอย่างข้าวขาหมู บะหมี่ขาหมู แต่ที่คนชอบสั่งเห็นจะเป็นข้าวผัดเนื้อเค็มแบบโบราณที่ไม่ค่อยจะมีใครทำเท่าไหร่แล้ว กินจนอิ่มแปล้ ยังพอมีเวลาเหลือ เจ้าถิ่นเมืองนนท์เลยถือโอกาสชวนไปไหว้พระต่อกันที่ วัดบางจาก ปากเกร็ด ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ เดิมสร้างอยู่ริมคลองบางภูมิ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด เป็นวัดของชาวรามัญ เพราะสมัยเมื่อชาวมอญอพยพเข้ามาในประเทศไทยได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่อำเภอปากเกร็ด หลังจากนั้นชาวมอญจึงได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลของชาวบ้านในแถบนั้น เมื่อประมาณเกือบ 200 ปีมาแล้ววัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เวลาที่นั่งเรือผ่าน อย่างเรือด่วนเจ้าพระยาจะเห็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ขนาด 19 เมตร ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำ ชื่อว่า พระพุทธมงคลชัย สมัยก่อนที่จังหวัดนนทบุรีจัดทัวร์ไหว้พระ 9 วัด วัดนี้ก็เป็นหนึ่งในวัดที่ต้องมาสักการะภายในวัดมีอาคารเสนาสนะ ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ทรงไทยสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีกำแพงแก้วล้อมรอบ กุฏิสงฆ์สร้างด้วยไม้ทรงปั้นหยา หอสวดมนต์สร้างเป็นลักษณะทรงไทยโบราณ มี บ่อน้ำมนต์พันปี ที่ตามความเชื่อและคำ บอกเล่าของคนเก่าคนแก่บอกว่า น้ำบ่อนี้ไม่เคยเหือดแห้ง ลึกไม่มีที่สิ้นสุด และมีระยะทางยาวไกลไปจนถึงบาดาล แต่ก็ยังไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้ มีแต่คำยืนยันตรงกันว่าน้ำมนต์พันปีที่บ่อนี้ปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยได้จริง เมื่อนำมาอธิษฐานขอพรหน้าพระประธานก็มักจะสัมฤทธิผลตามคำอธิษฐานวัดบางจากมาโด่งดังเป็นพลุ เมื่อปี 2552 มีการขุดพบสิ่งศักดิ์สิทธิ์โบราณมากมายที่ใต้โบสถ์ โดยเฉพาะ “หลวงพ่อหนุนดวง และหลวงพ่อค้ำดวง”พระทั้งสององค์จริงๆแล้วก็คือ พระโมคคัลลานะ และพระสารีบุตร อัครสาวกซ้ายขวาของพระพุทธเจ้า ที่เป็นเลิศทั้งในทางอิทธิฤทธิ์และปัญญา คนที่มาขอพรหลวงพ่อหนุนดวง และหลวงพ่อค้ำดวง ส่วนใหญ่จะขอพรในเรื่องคู่ครอง ได้คู่ที่สมดุลด้วยบุญบารมี มีศีลมีธรรมงดงามเสมอกัน บ้างก็ขอเรื่องการเงิน การงาน คนที่ชีวิตกำลังมีปัญหาอุปสรรค จะมาขอพรหลวงพ่อหนุนดวง เพื่อให้มีคนสนับสนุน ส่งเสริม ให้มีผู้ช่วยเหลือ ได้พบชีวิตที่ดี และขอพรหลวงพ่อค้ำดวง ให้มีผู้อุปถัมภ์ค้ำชู ไม่มีอำนาจใดมาโค่นล้มได้ง่ายๆยิ่งตอนนี้โควิด-19 ทำให้ประหวั่นพรั่นพรึงกันไปทั้งประเทศ เลยมีคนมากราบไหว้ขอพรพระทั้งสององค์ให้พ้นจากความเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยเรียกว่ามาเมืองนนท์คราวนี้ ได้รู้จักคนดีๆ สถานที่ดีๆ ของดีๆ ของจังหวัดนนทบุรี เมืองที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่คืบนี่เอง........!!!!!