รู้เขารู้เรายังไม่สำคัญเท่ากับรู้จักตัวเอง ถ้าอยากรวยต้องลงทุนให้ถูกนิสัย เจาะลึกตำนานนักลงทุนโลกที่มีสไตล์ต่างกันสุดขั้วอย่าง “วอร์เรน บัฟเฟตต์” (Warren Buffett) และ “จอร์จ โซรอส” (George Soros) ไม่น่าเชื่อว่าคู่นี้จะมีนิสัยร่วมกันบางอย่างที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จโด่งดังระดับโลกนิสัยเด่นของ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” คืออดทนสูง, เรียบง่าย, ไม่ฟุ้งเฟ้อ และชอบเรียนรู้ตลอดชีวิต เขาเป็นต้นแบบของนักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor) จะมุ่งลงทุนเฉพาะในธุรกิจที่เข้าใจง่าย และมีกำไรเติบโตสม่ำเสมอ ที่สำคัญต้องมี “Moat” หรือข้อได้เปรียบที่ปกป้องกิจการในระยะยาว วิธีคิดสำคัญคือซื้อหุ้นเหมือนซื้อกิจการ ให้มองว่าเป็นเจ้าของ ไม่ใช่เก็งกำไร กรอบวินัยเน้นลงทุนระยะยาว ไม่หวั่นไหวกับราคาหุ้นรายวัน โดยมีจุดแข็งอยู่ที่ความอดทนสูง รู้จัก “รอ” จนกว่าจะเจอหุ้นที่ใช่ ราคาที่ใช่ อยากรวยแบบคุณปู่ต้องท่องให้ขึ้นใจ “กฎข้อที่หนึ่งคืออย่าขาดทุน และกฎข้อที่สองคืออย่าลืมกฎข้อที่หนึ่ง” (Rule No.1 : Never lose money. Rule No.2 : Never forget rule No.1.) ถ้าจะลงทุนแบบบัฟเฟตต์ ต้องรู้จักตัวเองว่าเป็นคนอดทน ไม่โลภเกินไป เน้นคุณค่ามากกว่าความตื่นเต้น“จอร์จ โซรอส” มีนิสัยยังไง เขาเป็นนักเก็งกำไรเชิงมหภาค (Global Macro Trader) มุ่งเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจมหภาค, ค่าเงิน, ดอกเบี้ย และการเมืองโลก แก่นความคิดสำคัญคือ “Reflexivity” ความเชื่อของนักลงทุนส่งผลต่อราคา และราคาก็ส่งผลกลับไปเปลี่ยนความเชื่อ กรอบวินัยของเขาพร้อมเปลี่ยนความคิดทันทีถ้าเห็นว่าผิดพลาด โดยมีจุดแข็งอยู่ที่ความกล้าเสี่ยง (High Risk-High Return) และจัดการความเสี่ยงอย่างเด็ดขาด ตัดขาดทุนไว ตัวอย่างความสำเร็จลือลั่นคือ การเดิมพันค่าเงินปอนด์อังกฤษเมื่อปี 1992 จนได้กำไร 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในวันเดียว ถ้ารักจะลงทุนแบบโซรอสต้องกล้าเสี่ยง, มองโลกเชิงระบบ, เปิดใจกว้าง และยอมรับว่าตัวเองอาจผิดเสมอดูยังไงทั้งคู่ก็ต่างกันแบบสุดขั้ว แต่เชื่อไหมว่า “บัฟเฟตต์” กับ “โซรอส” มีความเหมือนกันบางอย่างที่ทำให้ประสบความสำเร็จเป็นตำนานโลก นั่นคือทั้งคู่ “มีวินัยสูงมาก” ต่างก็มี “กฎเหล็ก” ของตัวเอง และไม่หลุดกรอบง่ายๆ ทั้งคู่ยัง “ยอมรับความเสี่ยง แต่มีลิมิตควบคุมได้” โดย “บัฟเฟตต์” ลดความเสี่ยงด้วยการเลือกหุ้นที่ปลอดภัย ส่วน “โซรอส” ลดความเสี่ยงด้วยการตั้งค่า Stop Loss ตัดขาดทุน พวกเขายังมีนิสัย “ชอบเรียนรู้ตลอดชีวิต” เป็นนักอ่านและนักคิดตัวยงสรุปว่าความสำเร็จของ “บัฟเฟตต์” มาจาก 1) “ความอดทนสูง” เขาไม่รีบเข้าซื้อหุ้นถ้าไม่ใช่โอกาสที่ใช่ และสามารถรอได้เป็นปีๆ เพื่อลงทุนในกิจการที่เข้าใจจริงๆ 2) “เรียบง่ายและยึดมั่นในสิ่งที่เข้าใจ” เขาไม่ลงทุนในธุรกิจที่ซับซ้อนเกินไป และใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บ้านหลังเดิมในโอมาฮา, ขับรถธรรมดา, ไม่ฟุ้งเฟ้อ นิสัยนี้ช่วยให้โฟกัสกับการลงทุนระยะยาว ไม่หลงไปกับภาพลวงตาของความรวยเร็ว 3) มุ่งมั่นอ่านและเรียนรู้ทุกวัน เขาใช้เวลาวันละ 5-6 ชั่วโมงอ่านหนังสือ, รายงานการเงิน, บทความเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่าความรู้สามารถสั่งสมได้แบบเดียวกับดอกเบี้ยทบต้น 4) มีวินัยและไม่หวั่นไหวตามตลาด เขาไม่ตื่นตระหนกเมื่อหุ้นตก เพราะมองที่มูลค่าธุรกิจ ไม่ใช่ราคาหุ้น โดยยึดกฎเหล็กอย่าเสียเงินต้นส่วน “โซรอส” นิสัยเบื้องหลังความสำเร็จมาจาก 1) เปิดกว้าง ยอมรับว่าตัวเองอาจผิดพลาด และหากผิดก็ตัดขาดทุนทันที 2) กล้าเสี่ยงและมั่นใจในสัญชาตญาณ โดยเฉพาะเมื่อเห็นโอกาสมหภาคที่ชัด 3) จัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด แม้กล้าเสี่ยง แต่เขาตั้ง Stop Loss และปรับพอร์ตอย่างต่อเนื่อง ประโยคดังสะท้อนถึงตัวตนของเขาก็คือ “มันไม่สำคัญว่าคุณจะถูกหรือผิด แต่สำคัญว่าคุณทำเงินได้เท่าไหร่เมื่อคุณถูกทาง และเสียเงินเท่าไหร่เมื่อคุณผิดทาง (It’s not whether you’re right or wrong, but how much money you make when you’re right and how much you lose when you’re wrong.)จะลงทุนให้ถูกนิสัย ถ้าเป็นคนชอบความมั่นคง, อดทนได้, ไม่รีบเห็นผล ก็ต้องมุ่งลงทุนตามสไตล์ “บัฟเฟตต์” แต่ถ้าเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว, เปิดรับความเสี่ยงได้ และชอบมองภาพมหภาค สไตล์ “โซรอส” จะเข้ากับคุณมากกว่า ยกเว้นประเภทงูๆปลาๆไม่รู้อะไรจริง แต่อยากรวยเร็ว ต้องหาต้นแบบใหม่เอาเอง.มิสแซฟไฟร์คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม