เหลืออีกเพียงวันเดียวก็จะถึงวันสำคัญ ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จะพูดคุยหารือกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ที่รัฐอลาสกา ของสหรัฐฯ ดินแดนที่เคยเป็นของรัสเซีย แต่สหรัฐฯซื้อมาเมื่อ 158 ปีที่แล้วการพบปะกันครั้งนี้เป็นการหารือหนทางหย่าศึกสงครามยูเครนที่ยืดเยื้อมา 3 ปีครึ่งแล้ว นับตั้งแต่รัสเซียส่งกองทัพรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.2565ในช่วงที่สหรัฐฯ มีนายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดี ได้สนับสนุนความช่วยเหลือด้านการเงินให้กับยูเครนอย่างมหาศาลร่วมกับพันธมิตรชาติสมาชิกองค์การแอตแลนติกเหนือ (NATO) แต่หลังผลัดเปลี่ยนผู้นำเป็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สหรัฐฯก็เปลี่ยนท่าทีจากที่เคยสนับสนุนยูเครนเต็มตัวมาเป็นอยากให้สงครามยุติในเร็ววัน ถึงขนาดนายทรัมป์เคยประกาศจะยุติสงครามยูเครนภายใน 24 ชั่วโมงหลังรับตำแหน่ง แต่ตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบ 7 เดือนแล้ว ก็ยังไม่สำเร็จตามที่คุยไว้การเจรจาระหว่างนายทรัมป์กับนายปูตินในวันที่ 15 ส.ค.นี้ มีรายละเอียดว่า ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนดินแดนกัน โดยรัสเซียอาจได้ภูมิภาค “ดอนบาส” หรือจังหวัดโดเนตสก์และลูฮันสก์ไปครอบครอง ยูเครนจะได้เพียงพื้นที่พรมแดนเล็กๆในจังหวัด ซูมี และ คาร์คีฟ เป็นการแลกเปลี่ยน เป็นเงื่อนไขที่รัสเซียได้เปรียบและต่อเนื่อง จากการที่รัสเซียเคยผนวกคาบสมุทรไครเมียไปเมื่อปี 2557ไม่แปลกที่นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน รีบออกมาประกาศทันทีว่า จะไม่ยอมเสียดินแดนให้รัสเซียแน่นอน แต่สุดท้ายเรื่องนี้ถือว่าขึ้นอยู่กับรัฐบาล สหรัฐฯ ที่ดูเหมือนต้องการยุติสงครามยูเครนเท่านั้น โดยไม่สนใจยูเครนจะเสียเปรียบแค่ไหน ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง ย่อมกลายเป็นว่ายูเครนกำลังเดินอยู่บนเส้นทางสู่ความพ่ายแพ้ ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็ว.ผู้เล็กน้อยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม