เราเคยได้ยินคำว่าสงครามเก้าทัพ สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สงครามเวียดนาม สงครามการค้า ฯลฯ แต่สงครามที่จะมีบทบาทต่อการควบคุมอนาคตทางเศรษฐกิจและอำนาจทางการทหารอย่างแท้จริงของโลกใบนี้ อยู่ที่ Chip War หรือ ‘สงครามชิป’สงครามชิปเป็นสงครามระหว่างสหรัฐฯและจีน เป็นการแข่งขันที่ทั้งสหรัฐฯและจีนต้องการควบคุมและพัฒนาเทคโนโลยีเซมิ คอนดักเตอร์หรือชิป ชิปเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ หรือแม้แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆใครชนะสงครามชิป คนนั้นก็ควบคุมเศรษฐกิจและอำนาจทางการทหาร ในฐานะมหาอำนาจเดี่ยว สหรัฐฯกังวลต่อการพัฒนาของจีนในด้านเทคโนโลยีชั้นสูง ไม่ว่าจะเรื่องปัญญาประดิษฐ์หรือ 5G สหรัฐฯกลัวว่าถ้าจีนชนะ จีนก็จะกลายเป็นมหาอำนาจเบอร์ 1 ของโลกด้านเทคโนโลยี ถ้าจีนชนะด้านเทคโนโลยี สหรัฐฯก็จะมีปัญหาด้านความมั่นคง จีนอาจมีอาวุธที่ทันสมัยกว่าอาวุธที่สหรัฐฯผลิตรัฐบาลสหรัฐฯจึงจำกัดการส่งออกชิปชั้นสูงและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องไปยังจีน โดยเฉพาะชิปที่ใช้ในปัญญาประดิษฐ์และการประมวลผลความเร็วสูง ประเทศที่ขายเครื่องมือผลิตชิปและวัสดุสำคัญให้จีนก็มีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเนเธอร์แลนด์ รัฐบาลสหรัฐฯจึงกดดันทั้ง 3 ประเทศห้ามขายเครื่องมือและวัสดุเหล่านี้ให้จีน นอกจากนั้น สภาคองเกรสยังผ่านกฎหมาย CHIPS Act เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในแผ่นดินสหรัฐฯ บริษัทที่ตั้งโรงงานผลิตชิป รัฐบาลสหรัฐฯยินดีที่จะมอบเงินสนับสนุนโดนสหรัฐฯและพันธมิตรล้อมกรอบ โดนกีดกันด้านการผลิตชิป จีนจึงเร่งลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในแผ่นดินของตัวเองเพื่อสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีและเพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติ รัฐบาลจีนของนายสี จิ้นผิง ก็ทำแบบเดียวกับรัฐบาลสหรัฐฯ คือมอบเงินทุนแก่บริษัทที่ผลิตชิปในประเทศจีน เช่น SMIC เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถจะแข่งกับสหรัฐฯจีนสอดส่ายสายตาหาพันธมิตรที่มีศักยภาพในการผลิตชิป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีนมุ่งไปที่รัสเซียซึ่งมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีในระดับสูง รวมทั้งประเทศทั้งหลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนนี้พวกสมาคมธุรกิจและสมาคมเทคของจีนร่วมใจกันออกมาประกาศว่า เซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตโดยบริษัทอเมริกันไม่มีความปลอดภัยหรือความน่าเชื่อถืออีกต่อไป ดังนั้น กิจการทั้งหลายของจีนจึงควรหันมาใช้ชิปที่ผลิตในจีนสมาคมจีนที่ออกมาประกาศมีสมาคมอินเตอร์เน็ตแห่งประเทศจีน สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน สมาคมโรงงานอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์จีน และสมาคมวิสาหกิจการสื่อสารจีน ต่างออกแถลงการณ์แยกจากกัน แต่มีสาระเหมือนกัน สมาคมอินเตอร์เน็ตฯแนะนำให้ซื้อเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตในจีนมาใช้ สมาคมโรงงานอุตสาหกรรมฯ บอกว่าชิปสหรัฐฯไม่ปลอดภัยและไม่สามารถไว้วางใจได้กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนเคยแถลงการณ์ว่า ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯต้องทยอยนำออกไปจากเครือข่ายโทรคมนาคมของจีนอย่างหมดสิ้นภายใน ค.ศ.2027 ศุลกากรจีนแถลงว่าตั้งแต่มกราคมถึงตุลาคม 2024 การส่งออกชิปของจีนพุ่งขึ้นร้อยละ 19.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ด้วยจำนวน 246,000 ล้านหน่วยสหรัฐฯออกกฎระเบียบควบคุมการส่งออกชิปไปยังจีนมาแล้ว 3 รอบ รอบแรกเมื่อ ค.ศ.2021 รอบที่สองเมื่อ ค.ศ.2022 และรอบที่สามเมื่อ 2 ธันวาคม 2024 นอกจากนั้น ยังยัดรายชื่อบริษัทผลิตชิปและซัพพลายเออร์ด้านชิปของจีน 140 ราย เข้าไปไว้ในบัญชีดำของกรมอุตสาหกรรมและความมั่นคง รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ จินา ไรมอนโด พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า เป้าหมายชัดเจนของคณะบริหารไบเดน-แฮร์ริสคือการประสานงานกับพันธมิตรและหุ้นส่วนของเรา ร่วมมือกันเพื่อทำลายความสามารถของจีนในเรื่องเทคโนโลยี ซึ่ง (เทคโนโลยีเหล่านั้น) เสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติบ้านเมืองเรา3 ธันวาคม 2024 กระทรวงพาณิชย์จีนห้ามการส่งออกแกลเลียม เจอร์มาเนียม พลวง และวัสดุแข็งพิเศษ (เพชร และคิวบิก โบรอน ไนไตรด์) ไปสหรัฐฯ อย่างเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ประกาศนี้เป็นต้นไป แม้แต่การส่งกราไฟต์ไปยังสหรัฐฯก็ต้องถูกตรวจสอบผู้ใช้ปลายทางอย่างเข้มงวดสงครามชิปรุนแรงและขยายตัวเหนือจินตนาการ ใครชนะ ในสงครามนี้ผู้นั้นครองโลก.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม