เมื่อวันที่ 15 ก.ค. สำนักข่าวอิรวดี สื่อสายต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ได้รายงานบทความกล่าวหาว่า คนที่จัดหาอาวุธหล่อเลี้ยงกองทัพเมียนมาในทุกวันนี้ คือนายอ่อง หล่าย อู นักธุรกิจวัย 47 ปี โดยมีบริษัทเมียนมา เคมีเคิล แอนด์ แมชชีนนารี จำกัด (MCM) เป็นกิจการหลัก แต่หลังฉากคือช่วยจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้รัฐบาลเมียนมา ซึ่งสถานที่จัดการเจรจาเป็นประจำ คือร้านอาหารย่างกุ้ง แกลอรี ไม่ไกลจากเจดีย์ชเวดากอง โดยบุคคลที่นัดพบบ่อยครั้งคือ เจ้าของร้านอาหารดังกล่าวชื่อว่านายอ่อง แพ โซน ลูกชายของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำเมียนมาสื่อท้องถิ่นเมียนมารายงานต่อไปว่า นายอ่อง หล่าย อู มักหลีกเลี่ยงการออกงานสาธารณะ ชอบทำงานอยู่หลังฉาก และมีความเชี่ยวชาญในการจัดหาอาวุธจากประเทศยุโรปตะวันออก อดีตประเทศสหภาพโซเวียต และยูเครน แต่การเป็นพ่อค้าคนกลางก็ทำให้หลีกหนีไม่พ้นที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ยูเครนประจำเมียนมา เมื่อปี 2560 นอกจากนี้ สื่ออิรวดียังกล่าวหาว่า นายอ่อง หล่าย อู คือ “จุดศูนย์กลาง” ของโครงการสร้างโรงงานผลิตยานเกราะ BTR-4 ของยูเครนในเมียนมา รวมถึงโรงงานรถถัง MMT-40 และปืนใหญ่อัตตาจร ผ่านการร่วมมือกับบริษัทผลิตอาวุธอูโครโบรอนโปรม และอูคร์สเปกเอ็กซ์ปอร์ตของยูเครน.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่