ยานหุ่นยนต์อินไซต์ (InSight) ติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหวที่องค์การนาซา สหรัฐฯ ส่งไปสำรวจดาวอังคาร ได้ลงจอดสำรวจพื้นผิวดาวอังคารช่วงปี พ.ศ.2561–2565 และตรวจพบแผ่นดินไหวบนดาวอังคารหลายร้อยครั้ง นักแผ่นดินไหววิทยาเผยว่า คลื่นไหวสะเทือนที่เกิดจากแผ่นดินไหวหรือแรงกระแทกอาจช้าลงหรือเร็วขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุที่คลื่นเคลื่อนผ่าน ทำให้วัดการเคลื่อนตัวของคลื่นเพื่อคะเนว่าภายในดาวมีลักษณะอย่างไร ล่าสุดทีมวิจัยนำโดยนักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิสในนครซูริก สวิตเซอร์แลนด์ เผยข้อมูลใหม่หลังศึกษาแผ่นดินไหวที่เป็นผลจากอุกกาบาตพุ่งชน Tempe Terra เป็นพื้นที่สูงบนดาวอังคาร เมื่อ 18 ก.ย.2564 ก่อเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.2 แมกนิจูดและทิ้งหลุมกว้างไว้ประมาณ 130 เมตร โดยอยู่อีกฟากตรงข้ามกับจุดลงจอดของยานอินไซต์ คลื่นไหวสะเทือนจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ให้เบาะแสใหม่เกี่ยวกับส่วนที่อยู่ลึกภายในของดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้นักวิจัยเผยว่า การกระแทกจากอีกด้านของดาวสร้างคลื่นไหวสะเทือนให้เคลื่อนผ่านส่วนลึกภายในดาว รวมถึงแกนกลาง พฤติกรรมคลื่นบ่งชี้ว่ามีชั้นซิลิเกตหลอมเหลวหนาประมาณ 150 กม. ล้อมรอบแกนกลาง บริเวณที่หลอมละลายนี้ตั้งอยู่ที่เนื้อดาว ซึ่งเป็นชั้นโครงสร้างที่อยู่ระหว่างเปลือกดาวกับแกนดาว และยังได้คำนวณขนาดของแกนกลางใหม่ พบว่ามันมีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 3,350 กม. และมีปริมาตรน้อยกว่าที่คิดไว้ประมาณ 30%.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่