พื้นมหาสมุทรก็เหมือนกับผืนดินแห้งบนบก ตรงที่มีภูมิประเทศหลากหลาย เช่น ลักษณะโดดเด่นแบบภูเขา ซึ่งเมื่ออยู่ในมหาสมุทรก็จะเรียกว่า “ภูเขาใต้ทะเล” เกิดขึ้นจากการที่แผ่นเปลือกโลกดันเข้าหากัน หรือเกิดจาก “ภูเขาไฟใต้น้ำ” ที่ปะทุ ก่อนหน้านี้ มีรายงานขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เชื่อว่ามีภูเขาใต้ทะเลมากกว่า 100,000 ลูก โผล่ขึ้นมาสูงกว่า 1,000 เมตร จากพื้นทะเลแต่การไม่รู้ว่าภูเขาใต้ทะเลอยู่ตรงไหนและที่ใดบ้าง ก็เป็นปัญหาสำคัญ เพราะมันขัดขวางไม่ให้นักสมุทรศาสตร์สร้างแบบจำลองที่แสดงถึงกระแสไหลของน้ำทะเลทั่วโลก ในปัจจุบันมีเพียง 1 ใน 4 ของพื้นทะเลเท่านั้นที่ถูกทำแผนที่ นั่นหมายความว่าไม่มีใครรู้ว่าภูเขาใต้ทะเลหรือภูเขาไฟใต้ทะเลนั้นมีอยู่กี่แห่ง มีอยู่ที่ใด แน่นอนว่านี่ถือเป็นปัญหาใหญ่ของเรือดำน้ำเช่นกัน มีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้วในปี 2548 ที่เรือดำน้ำยูเอสเอส ซานฟรานซิสโก ของสหรัฐฯ ชนเข้ากับภูเขาใต้ทะเลที่ไม่มีบันทึกในแผนที่ใกล้เกาะกวม ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและลูกเรือเสียชีวิต 1 นาย หรือในปี 2564 เรือดำน้ำยูเอสเอส คอนเนกติกัต ของสหรัฐฯ อีกลำ ก็ชนกับภูเขาใต้ทะเลที่ไม่มีบันทึกในแผนที่ ในน่านน้ำสากลในทะเลจีนใต้เช่นกัน ทำให้ลูกเรือ 11 นายบาดเจ็บดังนั้น การทำแผนที่อันแม่นยำจึงจำเป็นอย่างมาก แต่การจะสำรวจให้ครอบคลุมทั้งมหา สมุทรโลกก็เป็นเรื่องท้าทายไม่น้อย ทว่าก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรงของนักวิทยาศาสตร์เมื่อมีเครื่องมือทรงประสิทธิภาพให้เลือกใช้งาน ล่าสุดทีม นักสมุทรศาสตร์ที่สถาบันสมุทรศาสตร์สคริปปส์, มหาวิทยาลัยฮาวาย ในสหรัฐฯ ร่วมมือกับทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยชุงนัม ในเกาหลีใต้ เผยว่าหลังใช้ข้อมูลจากดาวเทียมระบบเรดาร์ ที่สามารถวัดการก่อตัวของน้ำทะเลหรือวัดความสูงของผิวน้ำทะเล เป็นตัวกำหนดภารกิจในการค้นหาและทำแผนที่ภูเขาใต้ทะเลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มาก็คือ พบภูเขาใต้ทะเลถึง 19,000 ลูก ที่ไม่รู้จักมาก่อนนักวิทยาศาสตร์ระบุความสำคัญของภูเขาใต้ทะเลว่า มันมีผลกระทบอย่างมากต่อการไหลของน้ำใต้ทะเลลึก เมื่อกระแสน้ำไหลลงสู่ทะเล พวกมันจะถูกดันขึ้น นำพาน้ำเย็นที่เย็นกว่าไปด้วย และผสมกันด้วยวิธีที่ยังเป็นปริศนา การทำแผนที่กระแสน้ำจึงสำคัญมาก เพราะมหาสมุทรจะดูดซับความร้อนและก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศและน้ำที่ไม่ใช่น้ำเค็มที่ละลายเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่องอีกทั้ง แผนที่พื้นมหาสมุทรยังมีประโยชน์ต่อการทำเหมืองใต้ทะเลที่อุดมด้วยแร่ธาตุหายาก และเมื่อได้แผนที่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก็จะช่วยให้นักธรณีวิทยาทำแผนที่แผ่นเปลือกโลกและสนามแม่เหล็กโลกได้ดีขึ้นด้วย.ภัค เศารยะ