กินที่ลับไขที่แจ้ง กลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมา หลังเกิดความขัดแย้งในเวทีการประชุมจี 20 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา...นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แสดงความไม่พอใจที่นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม นำประเด็นการหารือที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ ไปเปิดเผยกับสื่อมวลชนเรื่องนี้ทั้งสองฝ่ายต่างมีเหตุผล คนหนึ่งมองในมุมความชัดเจน การถูกป่าวประกาศไปก่อนว่ามีแผนการอะไร อาจเป็นการถูกผูกมัดและส่งผลเสียต่อการเจรจา ขณะที่อีกฝ่ายชูเรื่องความโปร่งใส แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ประชาชนรู้ว่าไปคุยอะไรตกลงอะไรกันอย่างไรก็ตาม การเมืองระดับมหาอำนาจ ย่อมมีกระบวนการเจรจาที่ชัดเจน และเป็นไปตามเหตุผลแรกคือ พูดได้เท่าที่จำเป็น และจะประกาศให้ทราบในภายหลัง ทันทีที่การเจรจาได้ข้อสรุปชัดเจน ยกตัวอย่างเช่นการประชุมสุดยอดผู้นำจีน-ญี่ปุ่น นอกรอบการประชุม “เอเปก” ในกรุงเทพฯที่ผ่านมาในการเจรจานายคิชิดะ ฟุมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชี้แจงจุดยืนของญี่ปุ่นถึงความกังวลต่อสถานการณ์พิพาทในทะเลจีนตะวันออก การเคลื่อนไหวทางทหารของจีน ความรับผิดชอบในระเบียบสากล เรียกร้องจีนแสดงความรับผิดชอบต่อบทบาทรักษาสันติภาพประชาคมโลกในเรื่องสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนหัวข้อต่างๆเหล่านี้จะมีการแบ่งชัดว่า สิ่งนี้คือจุดยืนของญี่ปุ่น แต่จะไม่บอกว่าจีนมีความเห็นเช่นไร ส่วนเรื่องที่จีนเห็นด้วยก็จะมีการลงรายละเอียดไว้ อาทิ ผู้นำจีนและญี่ปุ่นเห็นพ้องกันในเรื่องการรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ จีนมีความประสงค์จะทำงานร่วมกับญี่ปุ่น เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศสมน้ำสมเนื้อกับความต้องการของโลกยุคใหม่ หรือเห็นพ้องร่วมมือด้านเศรษฐกิจสีเขียวเคยลองถามว่า หลังจากญี่ปุ่นชี้แจงจุดยืนเรื่องความมั่นคงไป จีนมีท่าทีเช่นไร...คำตอบก็ชัดเจนว่า...ไม่ใช่เรื่องที่ญี่ปุ่นจะเอามาพูด ลองไปถามจีนเอง แต่เจรจาเสร็จนายกฯคิชิดะก็ดูยิ้มแย้มนะ.ตุ๊ ปากเกร็ด