ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์เจมส์ มาร์ตินเพื่อศึกษาการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (ซีเอ็นเอส) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ เผยเมื่อ 8 มี.ค.ว่าภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นสัญญาณเริ่มต้นของการก่อสร้างอาคารและการซ่อมแซมอาคารอื่นที่ฐานทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ปุงเกรี ทางภาคตะวันออก เฉียงเหนือของเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกนับแต่ปิดในปี 2561 หลังจากนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือประกาศระงับการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลักที่ยองบยอนก็กลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง คาดว่าอาจจะกำลังผลิตเชื้อเพลิงสำหรับอาวุธนิวเคลียร์นักวิเคราะห์ของซีเอ็นเอสยังระบุว่าสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ปุงเกรีเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเท่านั้น และยังยากที่จะสรุปว่ากำลังก่อสร้างอะไรอยู่ หรือสร้างเพราะเหตุใด แต่ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งก็คือเกาหลีเหนือวางแผนที่จะเตรียมให้สถานที่ดังกล่าวพร้อมสำหรับเริ่มการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์อีกครั้ง โดยคาดว่าอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน หรือหลายปี ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีข้อมูล ทั้งนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้งในสถานที่อื่นปุงเกรีเป็นฐานทดสอบอาวุธนิวเคลียร์แห่งเดียวในเกาหลีเหนือที่โลกรู้จัก ที่ผ่านมาเคยทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ 6 ครั้งตั้งแต่ปี 2549-2560 ซึ่งการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งสุดท้ายเกิดการระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดจนเกิดความไม่เสถียรทางธรณีวิทยา ซึ่งทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กตามมาหลายครั้งตั้งแต่นั้นมา แต่นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐฯ เชื่อว่าสถานที่ดังกล่าวน่าจะถูกนำมาใช้งานได้อีกครั้งขณะเดียวกันยังมีรายงานประจำปีจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ในการประเมินภัยคุกคามทั่วโลกที่เตือนว่าที่เกาหลีเหนือยิงจรวดจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา อาจเป็นการเตรียมความพร้อมในการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป และทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ภายในปีนี้ ซึ่งนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายคลังอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศต่อไปด้านสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานว่ากองทัพเกาหลีใต้ยึดเรือประมงของเกาหลีเหนือที่ข้ามเข้ามาในน่านน้ำเกาหลีใต้เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีการยิงคำเตือนเรือลาดตระเวนของเกาหลีเหนือที่ข้ามเขตแดนเข้ามาติดตามเรือลำดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่เผยว่าเรือถูกลากไปยังเกาะแบงยองโดของเกาหลีใต้เพื่อสอบสวนและตัดสินต่อไป โดยเบื้องต้นระบุว่าเป็นเรือประมง มีลูกเรือไร้อาวุธ 7 คน แต่ลูกเรือ 6 คนสวมเครื่องแบบ.